Harmonica Party

Posted: มกราคม 14, 2011 in เรื่องเล่า และเรื่องเลือก

เมื่อคืนผมแอบดูสาวญี่ปุ่น กับสาวเยอรมัน เค้าแอบสังสรรค์ นั่งร้องเพลงไทย (อ้อ ความจริงมีสาวจีน กับเยอรมันแต่เกิดในจีนอีก ๒ แต่ร้องได้ไม่กี่เพลง เธอก็ไข้หวัดลงคอเลยต้องกลับลงกล่อง เอ้ย ห้องไปก่อน

อารัมภบทซะ บางคนตาลุกวาวเลย แหม Blog นี้ไม่เปลี่ยนแนวหรอกครับ ความจริงคือ ผมเอา Harmonica มาทดสอบ (จะว่าเปรียบมวยก็ดูรุนแรงไป สุดที่รักของผมทั้งนั้น)

เป็นคืนที่มีความสุขจริงๆ (แต่เจ็บลิ้นชะมัด) …ยิ่งเขียนยิ่งอ่านดูทะแม่งๆ ไปใหญ่แล้ว เข้าเนื้อหากันเลยดีกว่า

อันเนื่องมาจากผมได้ Harmonica ใหม่มาอีก ๒ อันคืน Marine Band Deluxe และ Golden Cup ทำให้ผมมี Harmonica ทั้ง ๓ ค่ายซึ่งเป็นที่นิยมกันอยู่ในปัจจุบันคือ Hohner Suzuki และ สัญชาติจีน

ผมจึงอยากแชร์ข้อมูล ซึ่งต้องขอแจ้งก่อนว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวโดยบริสุทธิใจ อันมุ่งหมายจะให้ประโยชน์กับผู้ที่ต้องการเลือก Harmonica สักอัน หรือหลายอัน ไว้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ โดยตัวที่ผมนำมาทดสอบเป็นยี่ห้อ และรุ่นที่พอจะหาได้ในบ้านเรา (บางตัวก็ใช้ที่ใกล้เคียง บางตัวก็ไม่มีการสั่งเข้ามาจำหน่ายแล้ว แต่ก็ทดสอบไปไม่ให้เสียเที่ยวครับ) มีดังนี้

Marine Band Classic (MC)

Marine Band Deluxe (MD)

Suzuki Manji (MJ)

Suzuki Pure Harp (PH)(ไม่มีสั่งเข้ามาจำหน่ายแล้ว)

Suzuki ProMaster Valved (PM)(ตอนแรกตั้งใจจะใช้รุ่นธรรมดา แต่ดันหยิบ Key ผิดมาบ้าน เลยต้องขอใช้ Model นี้มาทดสอบแทน แต่ผมเคยเช็คตอนได้มาใหม่ๆ แล้วว่าเสียงเป็นคู่แฝดกันครับ)

โดยทุกตัวเป็น Key C… อ้อ ลืมสาวจีนอีก ๒ คือ Golden Cup กับ Folk Blues (แต่ต้องคัดออกจากลุ่มก่อน เนื่องจากเอาไปเปรียบกับ ๕ สาวข้างบนนั้นไม่ไหวครับ ลุ้นไม่ขึ้น เลยต้องนำมาเทียบกันเอง เอาไว้ตอนจบ ของเรื่องนี้ล่ะกัน)

คราวนี้ก็มาที่หัวข้อของการทดสอบ (ผมคิดขึ้นมาเองตามที่พอจะนึกได้ในเวลาจำกัด ไม่มีการอ้างอิงจากที่ใดๆ ทั้งสิ้นครับ) มีดังนี้

ความง่ายในการเล่น (กินลม)

ความอิ่ม แน่นของเสียง

โทนความเป็น Acoustic ของเสียง

ความกังวาล ทอดยาวของเสียง

ความง่ายในการ Bending

สัมผัสในการเล่น

โดยมีคะแนนเต็ม ๕ คะแนน ดีเยี่ยมคือ ๕ และลดลงตามลำดับเมื่อเปรียบกับตัวอื่น

โดยมีผลลัพท์ดังนี้ (ผมไม่สามารถบันทึกไม่ว่าจะเป็น Clip หรือเสียงใดๆ มาเปรียบให้ท่านได้ยินได้ เนื่องจากข้อจำกัดของระบบเสียงในคอมพิวเตอร์ของผมเอง ซึ่งบันทึกแล้วไม่สามารถแยกความแตกต่างของแต่ละชิ้นเครื่องดนตรีได้ อาศัยเพียงหูของผมเท่านั้นในการตัดสินใจ จึงต้องขอย้ำอีกครั้งว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ไม่ควรเอาไปบอกร้านขายเครื่องดนตรีของแต่ล่ะค่ายใดๆ ทั้งสิ้น (ผมกลัวเค้าจะจำหน้าผมได้ แล้วไล่ผมออกจากร้าน)

โดยคะแนนที่ได้มีดังนี้

*/ ด้านซ้ายคือชุดที่ผมทดสอบ ส่วนด้านขวาในกรอบสีอ่อน คือส่วนที่คุณมานะทดสอบเพิ่มเติมให้ครับ

เรียนชี้แจง สมาชิก และผู้สนใจ Harmonica ทุกท่าน

ต้องย่ำเพิ่มเติมอีกครั้งว่าผลทดสอบนี้ ทำโดยมือใหม่ และเพื่อมือใหม่ โดยวัดจากความสามารถระดับสมัคร (ใจ) เล่น ความสามารถขั้นสูงของ Harmonica บางตัวจึงอาจยังไม่ปรากฎอยู่ในผลรวม เพราะฉะนั้นท่านอย่าได้แปลกใจไปเลยที่ Suzuki Pure Harp พี่ใหญ่ราคาสูงสุด กับได้คะแนนน้อยกว่าน้องเล็ก Suzuki Folk Master แบบตาเหลือกล็อคถล่มแบบนั้น (ซึ่งความจริงเป็นความแม่นยำระดับมือใหม่ด้วยซ้ำที่เทสแล้ว ได้คะแนน Suzuki Folk Master สูงกว่า Suzuki Pure Harp เพราะนั้นย่อมแสดงว่า บริษัทผลิต Harmonica ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้คุณสมบัติตรงตามกลุ่มเป้าหมายที่จะนำไปใช้)

การเปรียบเทียบในตารางเป็นแบบสัมพัทธ์ ไม่ใช่แบบสัมบูรณ์ คือ ผลลัพท์ที่ได้ในส่วนซ้ายเกิดจากการซอยแบ่งคะแนนกันจากทั้ง 5 ตัว ส่วนด้านขวาเกิดจากการซอยคะแนนแบ่งกันจาก 4 ตัว โดยใช้ตัวกลางคือ Marine Band Classic (ซึ่งทั้งผม และคุณมานะมีเหมือนกัน) การเปรียบโดยดูเฉพาะคะแนนข้ามตารางจึงอาจไม่ถูกต้องนัก (เนื่องจากเป็นแบบสัมพัทธ์อย่างที่กล่าว)

ปล. ผมใช้ศัพท์ชวนเครียดไปไม๊เนื่ยแหม สัมพัทธ์ สัมบูรณ์ /*


แต่ก็มีบางจุดใกล้เคียงกันมากจนการให้คะแนนห่างกัน 0.5 ยังห่างจากความจริงที่ได้ยิน แต่ผมลำบากในการซอยคะแนนให้ละเอียดไปกว่านี้จึงต้องปัดให้ห่างกัน 0.5 หมดครับ

ตอนนี้เป็นเวลา 02.40 . ซึ่งผมง่วงมากแล้ว ต้องขอตัวพักผ่อน ส่วนที่เหลือจะมาพิมพ์ต่อพรุ่งนี้ครับ

ราตรีสวัสดิ์ ทุกๆ ท่าน

มาว่ากันต่อจากข้างบนเลย

ตัวที่ให้คะแนนยากที่สุดคือ Manji ครับ ค่าที่ได้ 3.5 ทุกค่า ควรจะเป็น 4 แต่มีแต่คือตัวอื่นที่ได้ 4 มันเหนือกว่าครับ เหนือกว่านิดเดียวจริงๆ ผมต้องลองทวนแล้ว ทวนอีก เพราะอยากให้ 4 แต่มันไม่เสมอกันจริงๆ

และขณะที่เขียนอยู่นี้ ผมเพิ่งสังเกตุเห็นว่า ตัวที่มาดัน Manji ลง ไม่ใช่ใครอื่น ก็คือ Marine Band Deluxe คู่แข่งฟ้าประทานของเค้านั้นเอง (นี่คือความบังเอิญจริงๆ เมื่อคืนนี้ที่นั่งเทส ผมก็ไล่ไปที่ละตัวเทียบกันโดยไม่ได้เพ่งว่าตัวใดคืออะไรเลย เพราะฉะนั้นถ้าใครฟังแล้วชอบเสียงของ Manji สองรุ่นนี้ก็จะคะแนนเท่ากันพอดี…บังเอิญจริงๆ ผมถึงบอกว่า Suzuki ตั้งใจทำ Manji มาแข่งกับ Marine Band และ Web ต่างประเทศบางแห่งเรียก Manji ว่า Marine Band แห่งญี่ปุ่น)

และตัวที่ผมผิดคาดมากที่สุดคือ Suzuki Pure Harp เนื่องจากมีราคาแพงที่สุดในกลุ่ม แต่กลับได้ผลไม่ดีนัก (และบางอย่างเป็นเอามาก) ก็คงเป็นผลมาจากการเน้นว่าต้องเป็นไม้ทั้งหมดนั้นเอง คุณสมบัติบางอย่างไม้กลับเป็นจุดอ่อน (เช่น การใช้ไม้ทำ Cover Plate ทำให้ดูดซับเสียง การทำให้บางแต่แข็งแรงได้ยาก หน้าสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะ ) ทุกอย่างมีผลกับเสียงทั้งนั้น แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมเพิ่งสังเกตุ (เมื่อก่อนเป่าเดี่ยวๆ ไม่เคยเอามาเทียบรวมกลุ่มแบบนี้) คือความนุ่มของเสียง กับ Pure Harp แล้วอยู่ในขั้นทึ่ง (แต่มันก็ไม่เหมาะกับการเอามาเล่นเพลงทั่วๆ ไป) มันนุ่มกว่าเมื่อเทียบกับ Harp ตัวอื่นเปรียบได้ขนาด เอามือลูบผ้าดิบ แล้วไปลูบผ้าไหมเลยทีเดียว

ต่อไปก็ถึงคิว สามสาวหมวยแท้หนึ่ง กับเยอรมันสัญชาติจีน (Golden Cup, Silver Star และ Folk Blues)

ขอเริ่มที่ตัวใหม่สุดของผม Golden Cup วันนี้ได้สำรวจมิติของขนาด พบว่าเท่ากันเด่ะกับ Marine Band Special 20 (เป็นอย่างที่คิดตั้งแต่ยังไม่มี Golden Cup ไว้ในครอบครองว่า จีนต้องใช้ Model ใด Model หนึ่งของ Hohner เป็นต้นแบบในการผลิตออกตีตลาดแน่นอน ซึ่งยุคที่ Golden Cup ออกสู่ท้องตลาดนั้น Harmonica ยอดนิยมส่วนใหญ่ยังใช้ Comb ที่ทำจากไม้อยู่ มี Marine Band Special 20 นี้ที่เปิดยุค Comb พลาสติค ซึ่งเข้าทางจีนพอดี แต่ถึงจะ Copy อย่างไรก็มีจุดสังเกตุข้อแตกต่างของ Comb คือหมุดยึดแผ่น Plate เข้ากับ Comb อยู่คนล่ะตำแหน่งกัน และปีกรับน้ำหนัก Cover Plate ของ Golden Cup จะยกสูงกว่า นั้นทำให้ส่วนประกอบของทั้งสองยี่ห้อนี้ไม่สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้ (ทำให้ไม่ผิดลิขสิทธิ รึเปล่า ?) หากไม่มีการดัดแปลง (หลายจุด) เสียก่อน

กลับมาที่การทดสอบตามรายละเอียดข้างต้น ตามที่แจ้งให้ทราบแล้วว่า ครั้งแรกเลยนั้นผมได้รวม Golden Cupและ Folk Blues เข้าไปด้วย แต่จากการเปรียบเทียบ สองตัวนี้ไม่สามารถจะแยกลักษณะพิเศษของเสียงได้ บอกได้แต่เพียงลมเบากว่า หรือหนักกว่า, เสียงใสกว่า หรือทึบกว่า, Bending ยาก หรือง่ายกว่า ประมาณนี้เท่านั้น จึงต้องแยกออกจากกลุ่ม ดังแจ้งข้างต้น เพราะฉะนั้นการเปรียบ Harmonica จากจีนจึงยากกว่ารุ่นราคาสูงๆ เนื่องจากไม่มีเอกลักษณ์เฉพาะต้น เปรียบได้เพียงตัวไหนดีกว่าตัวไหนเท่านั้น

อีกทั้งใน 3 ตัวนี้ยังมีข้อแตกต่างของลักษณะทางกายภาพคือ มิติของตัว Harmonica เอง เนื่องจาก

Golden Cup เป็น Harp side Classic (เล็ก)

Folk Blues และ Silver Star เป็น Harp side MS (ใหญ่กว่า) จึงมีผลต่อเสียงด้วย

จึงขอสรุปได้เพียงคร่าวๆ และเป็นการเปรียบเฉพาะตัวที่อยู่ในมือผมเท่านั้น เรียงจากดีที่สุดเป็นตัวแรกดังนี้

การใช้ลมเบาที่สุด Folk Blues, Golden Cup และSilver Star

เสียงโปร่งใส Folk Blues ส่วน Golden Cup พอๆ กับ Silver Star

การ Bend เสียงทั้ง 3 ตัวพอๆ กัน

เมื่อจะเปรียบเทียบความคุ้มค่า Golden Cup จึงคุ้มค่าที่สุด เนื่องจากราคาต่ำสุด

ถ้าท่านใช้ Harmonica มาระยะหนึ่ง ฝึกหัดขั้นต้นได้ในระดับหนึ่ง และต้องการ Harmonica สักชุดไว้เล่น Golden Cup คุ้มค่ามากครับ แต่ถ้าเป็นมือใหม่ซิงๆ ผมไม่กล้าแนะนำเท่าไหร่ เพราะอาจต้องอาศัยผลบุญที่เคยทำไว้มาส่งเสริมด้วยพอสมควร (คือเล่นได้เฉพาะคนมีบุญครับ 5 5 5 ผมจะถูกด่าไม๊เนี่ย)

ความเห็น
  1. มานะ พูดว่า:

    – ขอบคุณมาก สมกับการรอคอย แต่อย่าลืมรายงานผลการทดสอบ Harmonica คนยาก Golden Cup

  2. harmonicafe พูดว่า:

    ขอบคุณที่อุตส่าห์รอครับ
    ผมยกชุดกล่องสีดำ มาจากร้านที่แจ้งไว้นั้นแหละครับ

    วิจารณ์ไปไม่รู้ถูกใจรึเปล่า แต่ผมเองก็ว่าจะไปเอาอีก คราวนี้เลือกเฉพาะ Key ที่ใช่บ่อยๆ ไว้ติดกระเป๋า เผื่อลืมหาย ไม่ต้องกังวลดีครับ
    มีสมาชิกบางคนเล่นในวงเหล้าแล้วเพื่อนนั่งทับ ถ้ารุ่นแพงๆ นี่น้ำตาไหลแน่

  3. Ninenop พูดว่า:

    อยากส่งตัวที่มีเข้าประกวดมั่งจัง แต่ทักษะการ Review ของผมมันยังอ่อนด้อยอยู่ แต่เห็นของสวยๆงามๆแล้ว
    ก็มักจะเกิดกิเลสทุกครั้งไปครับ อยากได้ pure harp แล้วก็ fire breath

  4. มานะ พูดว่า:

    – ถูกใจมาก แยกแยะเป็นหัวข้อดี เหมือนนักวิชาการเลย เป็นบทวิจารณ์ที่มีข้อมูลสนับสนุนดี
    – วันนี้สายๆ ผมจะเช้าไปที่ร้านมีสินธุ์ และ บริษัท ธีระมิวสิก จะไปเอา Marine Band Crossover key D กับ Suzuki Pro Master key D ที่จะเอา key D เพราะเท่าที่ลองเล่น Golden Cup key D ที่มีอยู่ กับเพลงที่ชอบ ของสุรพล สมบัติเจริญ , พนม นพพร ทูล ทองใจ , ก้าน แก้วสุพรรณ เข้าได้กับ key D รู้สึกว่าเพลง key สูงให้อารมณ์เพลงดี
    – ตินิดเดียว ภาพ ทำให้สุดหล่อทั้ง 5 หมดหล่อไปเลย โดยเฉพาะ Pro Master กับ Marine Band สุดหล่อของผม ถ้าใช้ฉากหลัง สีดำ แล้ววัดแสงจาก Grey Card(ถ้าไม่มี Grey Card ใช้ฝ่ามือเราแทนก็ได้) แล้ว Lock แสง(กล้องต้องมี AE lock) ใช้ขาตั้งกล้องช่วย ถ่ายมุมเฉียงนิดหนึ่ง จะได้ไม่มีแสงสะท้อน น่าจะหล่อทั้ง 5 เลย(ติเพื่อก่อนะ)

  5. harmonicafe พูดว่า:

    สวัสดีครับ คุณ Ninenop
    ตอน review ผมไม่คิดมากไงครับ แค่ตั้งใจ (หู) ฟัง แล้วเล่นไปตามที่เราเคยเล่น เปรียบโดยใช้ความรู้สึกเหมือนตอนเราไปเลือกเค้าจากร้าน แค่นั้นเองครับ (แล้วก็ต้องออกตัวไว้ก่อนด้วยว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัว เราจะได้ไม่เครียดว่าใครจะว่าเราใช้อะไรอยู่ประจำ แล้วไปอคติกับอีกยี่ห้อรึเปล่า…ทำนองนั้น)

    กิเลส มีกันทุกคนแหละครับ ให้รู้ทันมันก็พอ…พูดถึง Fire Breath แล้วผมเพิ่งทดสอบกิเลสไปกับมันเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง เจอมันใน ebay ครับ ราคาชวนเคาะเลย รวมค่าส่งแล้วประมาณ 2000 บาท (Watch List ไว้เรียบร้อยว่าเอาแน่) จนวันปิดประมูล ผมนั่งเพ่งอยู่หน้าจอดูเวลาค่อยๆ นับถอยหลังที่ละวินาที แล้วก็นึกถึงสิ่งที่เคยตั้งใจว่าจะเลิกสะสม จะเล่นตัวไหนค่อยซื้อ (แต่อีกใจก็บอกซื้อเลย ถูกหาไม่ได้แล้วน่ะ ซื้อเลย ซื้อเลย กิเลสครับ กิเลส…มันยั่วผม)
    ตกลงคือผมนั่งยิ้มจนจบประมูลเลย แกล้งมัน (ตัวเอง) อยากได้ดีนัก คนอื่นเคาะไปเรียบร้อย ต่ำกว่าราคาที่ผมคิดจะเคาะไว้เยอะเลย ว่าแต่ตัวที่มีคือ Fire Breath หรือครับ อยากเห็น Comb มันชัดๆ จัง

    สวัสดีครับพี่มานะ ได้ Marine Band Crossover มาแล้วช่วยเปรียบเสียงกับ Pro Master และ Marine Band Classic มาเล่าให้ฟังบ้างน่ะครับ (ผมเชื่อหูคนเล่นเครื่องเสียงครับ)

    พูดถึงภาพที่ถ่ายมาลงแล้วอายเลยผม…ตอนเรียนอยู่ปีสุดท้าย และเริ่มทำงานบริษัท ผมทำงานตำแหน่งช่างภาพในสตูดิโอของ Production House แห่งนึง ถ้าตอนนั้นเจ้าของบริษัทได้ยินพี่แนะผมอย่างนี้นี่…ผมถูกเชิญออกจากบริษัทแน่ ผมเลิกถ่ายรูปมา 20 กว่าปีแล้วครับ (รูปบนนั้นถ่ายด้วย Webcam ราคาร้อยกว่าบาทครับ) เลิกตั้งแต่รู้จักกับคอมพิวเตอร์ Macintoch

    ยังจำได้ว่าที่คิดเลิกอาชีพช่างภาพเพราะหัวหน้าเอารูปจากแมกกาซี่นต่างประเทศมาเป็นตัวอย่างให้ถ่ายสินค้าตัวหนึ่ง (ธรรมดาครับทุกวงการใช้งานฝรั่งมาเป็นต้นแบบทั้งนั้น ยกเว้นหมอ 5 5 5) ผมจัดแสงยังไงก็ถ่ายไม่ได้ ไฟสองดวง สามดวงก็แล้ว เบรนสตรอมกันทั้งฝ่ายศิลป ผลคือมันผิดธรรมชาติของแสง มันใช้คอมพิวเตอร์ทำ (20 กว่าปีก่อน มันเป็นอะไรที่ใหม่มากน่ะครับ windows เกิดรึยังผมก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้ามีก็ Windows 2 หรือ 3.0 Text ล้วนๆ ครับ) ผมนึกในใจเลยว่า…มันถึงเวลาแล้วหนอที่เราจะเปลี่ยนอาชีพ ผมก็เสนอบริษัทให้จัดซื้อ Macintoch เข้าฝ่ายศิลป แค่ Com Laser Print ธรรมดาสมัยนั้นซัดเข้าไปเกือบ 4 แสนบาท ผมก็ขลุกอยู่กับ Macintoch ที่แผนกทั้งวันเลย (เป็นผมเพราะช่างภาพคนอื่นไม่รู้จัก Computer แต่ผมเคยเข้าหลักสูตร Graphic โดย Macintoch โดย Photoshop 1.0 รุ่นแรกของเมืองไทยเลยจัดแถวสยามโดยสหวิริยา…ถ้าจำไม่ผิดเพราะ 20 กว่าปีแล้ว) ตั้งแต่นั้นชิวิตก็เปลี่ยนสายงานมาอยู่สิ่งพิมพ์แทนถ่ายภาพ เกือบครึ่งชิวิต ฮา ฮา ฮา เล่าเพลินเลย…แก่แล้วหนอเรา

  6. มานะ พูดว่า:

    – ไปมาแล้วเพิ่งกลับมาถึง เดี๋ยวนี้เอง มาถึงก็เป็น Harmonicafe blog เพื่อจะบอกว่า ไป ธีระมิวสิก กับ มิสิน มาแล้ว เอารถไปจอดไว้ที่วัดมกุฎกษัตริยาราม แล้ว อาศรัยแทคซี่ ตามแบบฉบับของ บ้านนอกเข้ากรุง กลัวหลงกรุง พกเครื่อง GPRS นำทางไปด้วย พอไปถึง พอไปถึงสามยอด จะเลี้ยวเข้าถนนเจริญกรุง รถติดมากๆ คนบ้านนอกใจร้อน เพราะบ้านฉัน มันไม่ติดอย่างนี้ นี่ขนาดวันเสาร์นะ กรุงเทพฯ เมืองไม่น่าอยู่ เลยขออนุญาตแทกซี่ ขอลง แทกซี่ก็ยินดี เพราะไม่ต้องเข้าไปลุยถิ่นรถติด เดินตามเครื่อง GPRS ไปก็ถึง นั่งกินก๋วยเตี๋ยว ก่อนเข้า บริษัท ธีระมิสิค ให้ GPRS หากระทรวงมหาดไทย เครื่องรายงานว่าอยู่ห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร บอกกับลูกชายว่าจะเดินไป 1 กิโลเมตร จัดการก๋วยเตี๋ยวเสร็จ ก็เดินเข้า ธีระมิวสิค ได้ Suzuki Pro Master key D พร้อมกับหยิบ Folk Master key D ติดมาด้วย เพื่อมาทดสอบสนับสนุน คุณ Harmonicafe และแนะนำเพื่อนสมาชิกที่ต้องการหา Harmonica ตัวแรกคุณภาพดีราคาไม่แพง
    – ออกจาก ธีระมิวสิค ออกเดินตาม เครื่อง GPRS ไปยืนงงอยู่ตรง สี่กั๊กเสาชิงช้า (บ้านนอกหลงกรุง) แต่เอาตัวรอด เพราะเตรียมพร้อมมาดี(มีเบอร์โทรศัพท์ของ ร้านมิสิน มากด้วย) จึงอาศัยโทรศัพท์นำทาง เดินไปจนถึงร้าน มิสิน แต่ผิดหวังเล็กน้อย ที่ Marine Band Crossover ไม่มี key D มีแต่ key C กับ E
    จึงต้องเอา key C ที่ร้านมีสิน เหลือบไปเห็นผ้าเช็ดเครื่องดนตรี ราคาผืนละ 120 บาท คงไม่ใช่ที่คุณ Harmonicafe แนะนำแน่นอน จึงรู้ว่าเราแก่ไปมาก อุตส่าห์ จดบันทึกไว้ในเครื่อง Ipod Touch แต่ลืมเปิดดู แต่ก็หยิบผืนละ 120 บาท จากร้านมีสินมาใช้ก่อน หากมีกิจธุระกับ ธีระมิวคิด ค่อยว่ากันใหม่ จะสั่งให้ส่งทางไปรษณีย์ ก็เกรงใจทางร้าน
    – นั่งพิมพ์ข้อความอยู่ ภรรยากับเพื่อนๆกลับมาจากไปเยี่ยมเพื่อน(เป็นทั้งเพื่อนผมและเพื่อนภรรยา เพราะเรารุ่นเดียวกัน) ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย อยู่ 2 คน เพื่อนเริ่มจากไปที่ละคน 2 คน อายุคนเรามันสั้นนัก เราต้องเตรียมตัวที่จะตาย ความตายไม่ใช่สิ่งที่จะต้องกลัว แต่เป็นสิ่งที่น่ายินดี พระพุทธองค์ทรงกล่าวกับพระอานนท์ว่า พระองค์ ระลึกถึงความตายทุกขณะจิต
    – คืนนี้คงมีเวลาทดสอบ Marine Band Crossover ลองเล่นมาในรถบ้างแล้ว แต่ก็คงทดสอบอย่างจริงจังอีกครั้ง แหม ดู Comb ที่ทำจาก ไม้ไผ่ แล้วฝรั่งนี่เก่งในการสร้างคุณค่า+ราคาของวัสถุดิบ ไม้ไผ่ที่ใช้ทำ Comb ราคาต้นทุน คงไม่ถึง 10 บาท แต่ฝรั่งเอาไปสร้างมูลค่าให้ขายได้แพงกว่า Maine Band Deluxe ถึง 300 บาท มูลค่าเพิ่ม 30 เท่า ผมเคยคุยกับเพือน เขาบอกว่า ไม้ไผ่ กำลังจะกลายเป็นไม้เศรษฐกิจ มีการเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ ส่งออก ราคาหลายหมื่น แต่คนไทยส่วนมากยังไม่รู้ เขามาซื้อไม้ไผ่เราราคาถูกๆ แต่เมื่อบวกกับการออกแบบ คุณภาพการผลิต ขายได้ราคาดีมาก

  7. harmonicafe พูดว่า:

    นึกภาพแล้วเหงื่อตกแทน ระยะประมาณนี้ผมก็เดินเหมือนกันครับ เพราะนั่งรถก็รถติดไม่ได้เร็วขึ้นเลย เดินนี่แหละ เดือนนี้ยังดีอากาศพอเย็นๆ แต่บ่ายๆ ก็เอาเรื่องเหมือนกัน เมื่อก่อนนี่ผมหลงแหลกเลยแถวนั้นหลงแยก แยกมันเยอะจัด อยู่กรุงเทพแท้ๆ GPRS ผมไม่เคยใช้เลย อาศัยหลงจนเข็ดแล้วจำไปเอง 5 5 5 (แฟนบ่นประจำ)

    ได้ของเล่นแล้ว จิตใจ มันริ่งโลด พองๆ ฟูๆ รู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง

    ฝรั่งบ้าไม้ไผ่ พอๆ กับบ้าแดด (ตอนผมเด็กๆ เคยได้ยินคนพูด ฝรั่งบ้าแดด เพิ่งมาเข้าใจตอนโตว่าบ้านเค้าขาดแคลนมาก) ไม้ไผ่เป็นไม้เมืองร้อน เครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ไผ่จึงราคาสูง ผมเคยสั่ง Quena มาเป่าเล่น ก็ใช้ไม่ไผ่แถบอเมริกาใต้ เนื้อไม่แกร่งเหมือนไผ่บ้านเรา

    เรื่องผ้าถ้ามีโอกาสไปธีระจะแจ้งให้ทราบครับ จะซื้อเผื่อส่งใส่ซองให้ ใช้ดีครับรูดปืดเดียวแววเลย
    อยากฟัง Folk Master เทียบกับ Golden Cup มากเลย อย่างไรช่วยจัดด้วยน่ะครับ

  8. มานะ พูดว่า:

    – ขอรายงานการทดสอบ Marine Band Crossover , Suzuki Folk Master , Golden Cup โดยทำต่อจากที่ คุณ Harmonicafe ทำไว้แล้ว
    – ผมให้คะแนนเฉพาะ MBC , FM และ GC (MBC = Marine Band Crossover , FM = Suzuki Folk Master , GC = Golden Cup) ผมใช้ MC , MJ , PM ที่ผมมีอยู่เป็นตัวเปรียบเทียบกับคะแนนของคุณ Harmonicafe
    – ผลการให้คะแนนปรากฎในตารางข้างบน เป็นการให้คะแนนจากนักทดสอบมือใหม่เป็นข้อมูลให้ท่านผู้อ่านได้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการเลือกซื้อ Harmonica แต่ก่อนซื้อท่านควรจะทดสอบความชอบส่วนตัวท่านด้วย อย่างผมติดตามข้อมูลใน Internet แนะนำ Hohner special 20 แต่เมื่อผมซื้อมาเล่น ผมไม่ชอบเอาเลย มันเป็นความรู้สึกส่วนตัว ไม่ใช่ Hohner special 20 ไม่ดี
    – สำหรับ MBC ที่ให้คะแนน การกินลม 5.5 นั้น เพราะ นอกจากลมไม่รั่วแล้ว ยังใช้ลมน้อย หากเปรียบกับ PM แล้ว PM ลมไม่รั่วก็จริง แต่ต้องใช้แรงลมเพื่อให้เกิดเสียงมากกว่า MBC หากจะใช้คำฝรั่งก็คือ MBC มี Responsiveness ที่ดีกว่า PM
    – ณ ขณะนี้ MBC เป็นตัวที่ถูกใจผมมากที่สุด ความแตกต่างของ PM กับ MBC ในภาพรวม PM เป็น กีต้าร์ไฟฟ้า ที่สุดยอด ส่วน MBC ก็เป็น กีต้าร์ โปร่งที่สุดยอด แต่บังเอิญผมชอบกีต้าร์ โปร่งมากกว่ากีต้าร์ไฟฟ้าเท่านั้นเอง
    – สำหรับ Suzuki Folk Master (ราคา 450 บาท) เป็นตัวที่น่าสนใจ สำหรับ Harmonica ราคาระดับกลาง เป็น Harmonica ที่คุณภาพเกินราคา ยังเป็นตัวที่ผมหยิบเล่นเป็นประจำ(12 มี.ค.54)และยังถูกใจ เหมาะที่จะเป็น Harmonica สำหรับผู้เริ่มต้น ที่ยังมีงบประมาณไม่มาก
    – ส่วน Golden Cup(ราคา 80 บาท) เป็น Harmonica ราคาต่ำที่น่าใช้
    – ผมคงจะสิ้นสุดการค้นหา Harmonica คู่ใจเสียที่ แต่ต้องไปตามเอา Marine Bande Deluxe key D จากร้าน มีสิน อีกตัว สำหรับ Marine Band Crossover key D คงต้องคอยต่อไป หากมีบุญวาสนาคงจะได้ครอบครอง ต่อไปนี้คงจะตั้งหน้าตั้งตาฝึกฝนวิทยายุทธ เพื่อจะได้ไม่อายเพื่อนสมาชิก

  9. มานะ พูดว่า:

    – ต้องขอโทษเพื่อสมาชิก ที่ตัวอักษรที่ปรากฎ ไม่เรียงช่องไฟตรงกับต้นฉบับ ทำให้เปรียบเทียบไม่ออก เดี๋ยวผมจะส่งคะแนน ให้คุณ Harmonicafe ลงให้อีกครั้ง

  10. Ninenop พูดว่า:

    ถึงคุณ harmonicafe
    ผมเองก็ไม่มี fire breath ครับ แต่เคยเห็นรูปตอนที่ออกมาใหม่ๆ ชื่อมันเท่ห์ดีครับ ลมหายใจไฟ แต่ที่ผมเข้าใจ
    มันน่าจะเป็นรุ่นน้อง pure harp นะครับ reed น่าจะใช้แทนกันได้ comb กะ cover plate น่าจะไม่เหมือนกัน

    ถีงคุณ มานะ
    ร้านมีสินมี Marine Band Crossover ด้วยเหรอครับ ไม่ได้ไปนานแล้ว ปีก่อนๆที่ไปก็เห็น Chromatic หลายตัวแต่ดูป้ายราคาแล้วแทบจะเป็นลม คงต้องลองไปดูบ้างล่ะเผื่อจะมีตัวแปลกๆ คีย์อื่นๆที่ผมยังไม่มีม

    เวลาผมไป ผมก็จะเลือกรถที่เหมาะสมกับฐานะครับ แน่นอนว่ารถเมล์ครับ แล้วก็อาจจเดินจากหลังกระทรวงไล่ออกมาเวิ้งนาครเขษมแล้วก็ซื้อของเล่นของใช้ต่างๆที่คลองถมต่อถ้ายังมีตังในกระเป๋าเหลือ

    เรื่องไม้ไผ่เนี่ย ผมคิดว่าถ้าเรารู้วิธีการเพิ่มมูลค่าและก็มันจะขายได้ราคาไม่น้อย ผมเองเคยซื้อขลุ่ยจีน (dizi)
    อันที่เป็นระดับ Professional เนี่ยต้องคัดไม้ไผ่คุณภาพแล้วก็ต้องรอหรือเก็บให้มันแห้ง 5 ปี ถึงจะเอามาทำขลุ่ยได้ ราคาก็จะแพงกว่าแบบปกติ

    ขอเป็นอีกหนึ่งคนที่จะรอดู Review Marine Band Crossover นะครับ

  11. มานะ พูดว่า:

    – ถึง คุณ Ninenop ที่ร้านมีสิน มี Marine Band Crossover ครับ มี key C กับ key E ของน่าจะยังคงเหลือลองโทรฯถามที่เบอร์ 02-622-0896-9 นอกจาก Crossover แก้ว ยังมี Hohner หลายรุ่นมาก เช่น Marine Band , Marine Band Deluxe , Special 20 และรุ่นอืนอีก ราคาไม่แพง แต่ราคาที่ติดที่ตัวกล่องกับราคาขายไม่ตรงกัน เช่น Crossover ราคาติดกล่อง 1,900 บาท แต่ขายจริง 1,700 บาท(ไม่ได้ต่อราคา ผู้ขายบอกเอง) แต่ผมไม่ได้ขอดูตัวอื่น ได้แต่มองผ่านๆ ด้วยเป้าหมายจะไปเอา Crossover ตัวเดียว
    – ผมเชียร์ Crossover ผมว่าเสียงมันเป็น Harmonica ดี(เสียงคล้ายแคน ไม่เป็นเสี่ยงเดี่ยว) ไม่สดใสเกินไป ไม่กินลม ตอบสนองดีมาก

  12. มานะ พูดว่า:

    – ถึงคุณ Harmonicafe ขอบคุณมากหากจะเป็นธุระเรื่อง ผ้าเช็ด Harmonica แต่ถ้าไปทางนั้นฝากแวะ ร้านมีสิน เอา Marine Band Deluxe key D ใส่ซองส่งมาให้ด้วย(จะได้ประหยัดค่าส่ง ตอนแรกคิดว่าจะโทรฯ สั่งกับทางร้านมีสิน) จะไปเมื่อไร แจ้งมาทาง email ด้วย จะได้โอนเงินไปให้
    – มีความสุขตอนเล่นเสร็จก็ทำความสะอาด Harmonica ใช้ Cotton bud ชุบ Alcohol เช็ดในช่องเป่ากับตัว Harmonica แล้วเอาผ้าเช็ด ส่องไฟดู โลหะมันวาววับ ไม่มีริ้วรอย มันมีควมสุขดี

    • harmonicafe พูดว่า:

      ไม่เกินศุกร์นี้ไปครับ เพราะต้องไปหาซื้อหนังสือ (ที่ศึกษาภัณฑ์) มาติวลูกชายเข้า ม.1
      แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ พี่จะเอาอะไรก็ List ไว้เลยครับ

  13. Ninenop พูดว่า:

    ขอบคุณครับคุณมานะที่บอกราคา crossover มาให้ด้วย ผมเองก็ตามหา harmonica ที่โดนใจสุดๆมานานแล้ว ในตอนแรกผมมักจะเป่า melody แล้วเจอปัญหาโน้ตไม่ครบ ก็เลยไปเก็บ Chromatic มาเพิ่ม

    พอเล่น Chromatic ก็รู้ว่ายังไงซะมันก็ไม่เหมือน Diatonic, มันคนละแนว ล่าสุดผมได้ Diatonic แบบ Solo Tuned มา ก็ให้ความรู้สึกต่างออกไปอีกแบบ

    ทุกวันนี้หลายๆตัวที่ผมมีก็โดนใจมากแล้ว เพียงแต่ว่าพอเห็นตัวใหม่ๆสวยๆ แปลกๆ ก็อยากได้เพิ่มอีกครับ

    ผมใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่ขายตามคลองถมเช็ด harmonica ครับ,ส่วนในช่องก็ cotton bud กะ alchol เหมือนกัน

  14. มานะ พูดว่า:

    – คงยังไม่มีอะไรเพิ่ม เดี๋ยวแม่บ้านเค้าค้อนเอา วันเสาร์ก่อนออกบ้านแม่บ้านแซวว่า เอามาตัวเดียวก็พอนะ กล่องทีเก็บจะเต็มแล้ว เราก็ไม่ได้รับปากเพราะกลัวผิดศีลข้อ 4 เพราะในใจท่องไว้แล้ว Marine Band Crossover key D กับ Pro Master key D แต่เมื่อไปจริง ก็เกินมา 1 ตัว คือ Folk Master
    – ที่ท้วงติง เรื่องภาพ ก็จากที่แนะนนำ Web คนเดือนตุลา ติดใจภาพ ก็เลยอยากให้ Blog Harmonicafe มีภาพสวยๆ เอาไว้ดึงดูดสายตาเพื่อสมาชิกให้เพลิดเพลิน สำหรับผมก็ไม่เก่งทางถ่ายภาพ ก็พอถ่ายเป็นและทิ้งมากว่า 5 ปี ตอนนี้ก็กำลังไปรื้อค้นสมบัติเก่าออกมา ทดสอบวิชากันใหม่ อายุมากขึ้น มีความรู้สึกว่าชอบทางด้านศิลปะและธรรมชาติมากขึ้น รู้สึกว่ามันทำให้เรามีความสุขมากขึ้น
    – ผมว่าเราค่อยๆ พัฒนา Harmonicafe blog ไปพร้อมกับของคุณ Japharmonica ตอนนี้ผู้สนใจอาจจะยังน้อย แต่ผมว่า ต่อไปก็จะค่อยๆมากขึ้น ตอนนี้ที่เราควรทำคือการฝึกฝนตนเอง แล้ว ทำ Clip ออกมา ให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมได้ฟัง น่าจะมีคนสนใจมากขึ้น สำหรับผมขอเวลาฝึกฝนอีกสัก 2-3 เดือน เอาไว้ให้พอฟังได้ก็น่าจะทำ Clip ออกมาได้ ตอนนี้ก็คงจะต้อง ไปเตรียมอุปกรณ์สำหรับอัดเสียง โปรแกรมที่จะใช้อัดเสียง ก็คงต้องอัดผ่าน Computer แต่ก็ไม่ทราบว่าเสียงจะออกมาดีแค่ไหน อาจจะต้องอัดผ่านกล้อง Video ต้องไปรื้อฟื้นการตัดต่อ Video อีก มีงานที่จะต้องทำอีกหลายอย่าง ก็อยากทำเพราะสนุกดี

  15. มานะ พูดว่า:

    – เรียนผู้เข้าเยี่ยมชม สำหรับคะแนนการทดสอบ Harmonica อย่างที่คุณ Harmonicafe บอกไว้ การให้คะแนน จากผู้ทดสอบแต่ละคน นำฃ้ำหนักคะแนนต้องต่างกัน คะแนนที่ให้เพียงเพื่อเป็นพื้นฐานในการเลือด Harmonica หากท่านจะซื้อจริง ควรจะทดสอบตัวที่ท่านสนใจอีกครั้งว่าท่านชอบหรือไม่ และเป็นข้อมูลให้ท่านท่านควรจะเลือกทดสอบตัวไหน ผมและคุณ Harmonicafe มิได้มีผลประโยชน์ใดๆ กับบริษัทผู้ผลิต ที่ทำเพราะมีสามชิกสอบถามเข้ามามากเกี่ยวกับการเลือก Harmonica ผมเองเมื่อเริ่มต้นเล่น ก็อยากรู้;ว่าควรจะซื้อ Harmonica ตัวไหนก็อาศัยติดตามหาข้อมูลใน Internet ในการตัดสิน

  16. harmonicafe พูดว่า:

    เพิ่งกลับจากร้านธีระ และมีสินมา เท้ายังร้อนๆ อยู่เลย
    มาถึงก็เปิด Harmonicafe’s Blog ก่อน อ่านที่พี่มานะพิมพ์แล้ว ตรงกับสภาพความเป็นจริงของตลาดเป่ะเลย

    ที่ว่าอย่างนั้นเพราะอะไร…ก็เพิ่งคุยกับคุณต้อมที่ร้านธีระมา เพราะพอดีทราบว่า Harp ล๊อตใหม่เพิ่งมาถึงเลยแวะไปหาแกที่ร้านใหญ่ (ธรรมดาผมชอบซื้อที่ธีระร้านเล็ก เจอพี่ชายคุณต้อมบอกมีของใหม่เข้า) สอบถามว่ามีรุ่นแปลกๆ ติดมามั่งเปล่า (โรคเก่ากำเริบเป็นพักๆ อดซื้อไม่ค่อยจะได้ซิน่า)

    คุณต้อมก็บอกไม่รู้จะสั่งรุ่นอะไรแล้ว เพราะตลาดมันก็อย่างว่า…(ผมพยักหน้า…ใช่…ซื้อรุ่นแพงๆ มาไม่มีใครสนใจ มีซื้ออยู่ไม่กี่คน) ก็คุยกันถึงผู้เล่นเป็นอาชีพไม่ค่อยซื้อรุ่นแพงๆ มักซื้อรุ่นกลางอย่าง Harp Master หรือต่ำกว่า (ซึ่งผมคิดว่าคงเป็น Folk Master) เพราะคำนึงถึงความคุ้มค่า

    ซึ่งผู้อ่านทุกท่านลองย้อนกลับไปดูคะแนนซิครับ จะพบเลยว่าสำหรับมือใหม่จริงๆ แล้ว Harmonica ที่ราคาถูกๆ ก็ใช่ว่าจะคุ้มจะเหมาะ (ได้คะแนน 10 กว่า) และรุ่นแพงๆ ก็ไม่เหมาะเช่นกัน (ได้คะแนน 10 กว่า) จะพบว่าความเหมาะสม (คะแนน 20 ขึ้น) เริ่มที่ Harp ราคาไม่ถึง 500 และไปเรื่อยๆ (ซึ่งยังเกาะกันที่คะแนน 20 กว่าเช่นกัน ) จนถึง Harp ราคา 1000 +/- ไม่กี่ร้อย ซึ่งทั้งหมดที่เราเลือกมาแนะนำล้วนหลายระดับความคุ้มค่า เป็นการเสนอข้อมูลให้พิจารณา ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชังกับรุ่นใดๆ หรือยี่ห้อใดๆ เลย (แม้ผมจะชอบ Suzuki และคุณมานะจะชอบ Hohner ก็ตาม)

  17. japharmonica พูดว่า:

    ขอเข้ามาร่วมแจมด้วยคนครับ

    เรื่องแรก เรื่องการให้คะแนน เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าจะทำดีหรือเปล่า แต่ติดที่ตัวเองก็มีหรือเคยสัมผัสแต่ราคากลางๆเหมือนกัน ราคาต่ำก็ไม่กล้าซื้อมาลอง เพราะกลัวว่าต้องซื้อใหม่อีกอยู่ดี เคยมี chromatic ของ golden cup อยู่ เล่นไปเล่นมา ลิ้นก็ขาดไปที่ละช่องสองช่องเลยครับ เลยไม่กล้าแนะนำ ไม่รู้ว่าตัวเองเล่นหนักเกิน หรือ มันบอบบางเกิน ตอนนี้ก็ไม่เหลือ golden cup แบบดั้งเดิมอยู่แล้ว เพราะเอาไปแปลงซะหมด เป็น minor บ้าง country บ้าง เอาไว้ฝึกฝีมือด้านอื่นแทน

    ถัดมาคือ ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นคนเปิดประเด็น แล้วไปลากเจ้า pure harp มารวมกลุ่มด้วย เลยทำให้คะแนนตกฮวบฮาบหรือเปล่า ที่จริงแล้วแค่อยากรู้ว่าเสียงไม้(เกือบ)ล้วนจะเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้กำลังสนใจ Grégoire Maret Signature Model ที่โฆษณาไว้ว่า เป็น chromatic ตัวแรกที่ทำจากไม้(เกือบ)ล้วนเหมือนกัน เกือบสอยมาหลายทีแล้ว แต่เห็นราคาก็เป็นต้องชะงักทุกที ราคาขนาดนี้ไปซื้อ super 64X ที่อยากได้มานานดีกว่า (แต่ก็ซื้อไม่ลงทั้งคู่ ไม่อยากกินมาม่าเป็นปีๆ) ถ้าคุณต้อมจะใจดีสั่งมาราคาพิเศษก็แจ๋วเลย (แต่คงไม่หวังมาก)

    เท่าที่ฟังจากรสนิยม ไม่ต้องเดาเลยว่า คุณมานะต้องชอบ Hohner มากกว่ายี่ห้ออื่นแน่นอนๆ เพราะมันมีความกลมกลืนของเสียงมากกว่ายี่ห้ออื่น (just intonation) ส่วน Suzuki ใช้การตั้งเสียงด้วยเลเซอร์ มันเลยเที่ยงตรงกว่า ทำให้ขาดความกลมกลืนและความเป็นอคูสติกไป คล้ายกับผู้หญิงที่ทำศัลยกรรมมา ถึงจะสวย เพอร์เฟค แต่ก็รู้สึกได้อยู่ดีว่ามันไม่ธรรมชาติ เห็นด้วยไหมครับ

    ส่วนของคุณ harmonicafe ที่เคยเล่าว่าเริ่มต้นจาก chromatic อาจเป็นหนึ่งเหตุผลที่ชอบความเพอร์เฟค เลยชอบ Suzuki มากกว่ามั้ง (เดาเอา)

    ถ้าจะลองให้เกรดเองบ้าง อาจจะให้ประมาณนี้

    รุ่นราคาประหยัด
    golden cup กับ silver star ใกล้เคียงกันมาก แต่ถ้าเทียบราคาด้วยก็ไม่ต้องพูดถึง นอนมาอยู่แล้ว
    folk master ดีกว่าเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าให้เลือกแนะนำแค่ในสามตัวเลือกก็ต้องตัวนี้ อย่างน้อยก็มาตรฐานดีกว่า แต่ถ้าที่เคยลองมา นับจนถึงตอนนี้ก็ต้องยกให้ Suzuki air wave เลยครับ เหมาะกับมือใหม่มากๆ เสียงก็ใช้ได้เลย (ถ้าสนใจอาจมี review ให้ชมกัน)

    รุ่นประมาณพัน
    เลือกยากมากครับ เพราะเสียงก็มีจุดเด่นไปคนละอย่าง ขอเรียงตามที่ตัวเองชอบแล้วกันครับ จากน้อยไปมาก แต่ขออนุญาตไม่ให้คะแนนนะครับ ไม่กล้าให้
    big river
    blues bender
    blues harp
    Lee Oskar
    harpmaster
    bluesmaster
    pro harp
    special 20
    golden melody
    marine band classic
    promaster
    hammond
    cross harp
    fire breath
    pure harp
    manji
    marine band deluxe
    XB 40
    overdrive
    meisterklass
    crossover

    ยิ่งพิมพ์ก็ยิ่งรู้สึกว่าให้คะแนนยาก อย่าเชื่อทั้งหมดนะครับ เพราะเป็นควาวเห็นส่วนตัว (อันเลือนลาง)

  18. มานะ พูดว่า:

    – ผมว่าคุณ Japharmonica ก็ชอบผู้หญิงสวยเป็นธรรมชาติเหมือนผม(ความจริงก็เป็นเช่นนั้น แม่บ้านผมเค้าไม่แต่งหน้าเลย) ที่คุณ Japharmonica เรียงลำดับมา ชอบมาก จะเก็บไว้เป็นข้อมูลทำลายกิเลสไปได้มาก(ถ้าแม่บ้านผมเค้าทราบ เค้าคงจะขอบคุณ คุณ Japharmonica อย่างมาก) อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องไปสนใจ meisterklass ที่คุณ Harmonicafe จะส่งมาให้ผมลองเล่น
    – ต้องขอโทษ ผู้ที่เข้ามาติดตามข้อความ เพราะบ่อยครั้งที่ผมพิมพ์ผิด ทั้งๆ ที่ว่าพยายามตรวจทาน แต่ก็ผิดบ่อยมาก บางครั้งกลับไปอ่านก็สื่อความหมายวรรคนั้นไม่ออกเหมือนกัน อย่างไรก็ฝากเดาความหมายของวรรคนั้นกันให้ออกก็แล้วกัน

  19. japharmonica พูดว่า:

    ขอตอบคุณมานะว่าถูกต้องเลยครับ ผมชอบแบบธรรมชาติมากกว่า
    แต่เท่าที่เรียงลำดับมา คือเรียงตามความชอบส่วนตัวนะครับ ไม่ไดัเรียงตามคุณภาพเสียง
    ถ้ามีโอกาสไดัลอง meisterklass ก็น่าลองครับ มันจะค่อนไปทาง promaster เพราะเป็นโลหะเหมือนกัน เสียงจะออกโทนใส ไม่ค่อยมีลมรั่ว แต่ก็ออกตัวช้าไปนิด โดยรวมชอบมากกว่า promaster ครับ

    ที่จริงแล้ว ส่วนตัวจะชอบเสียงของตระกูล marine band มากที่สุด แต่เนื่องจากรุ่น deluxe จะต่างจาก classic ไม่มาก พอเทียบราคาเลยรู้สึกว่าไม่คุ้ม สุดท้ายเลยไม่มีเป็นของตัวเองเลยซักตัว พอรุ่น crossover ออกมาเลยชอบมาก แต่ก็ยังไม่มีงบไปสอยมาเก็บไว้อีกเหมือนกัน
    ส่วน XB-40 กับ overdrive ต้องยกนิ้วให้เลยครับ คนออกแบบเก่งมาก เสียงถือว่าดีกว่าพลาสติกรุ่นอื่นๆมาก แถมมีออพชั่นเสริมอีก อยากให้สูงกว่า meisterklass ด้วยซ้ำ แต่ก็รู้สึกว่าเล่นยากเกินไปถ้าเป็นมือใหม่ เลยกดคะแนนลงไปนิดนึง
    แต่ถ้าจะให้เทียบมวยกันเป็นคู่ๆน่าจะง่ายกว่านี้เยอะเลย

  20. harmonicafe พูดว่า:

    แหม…พูดถึงเปรียบกันเป็นคู่ๆ แล้วเลยอดไม่ได้ครับ
    (เอามาจับให้ดูเฉยๆ น่ะครับ เพราะพวกที่เอามาเทียบนี่ระดับสุดยอดของแต่ล่ะค่าย ผมไม่มีความสามารถพอ)

    เริ่มที่โลหะเสียงใสปิ๊ง (Hohner แพงกว่าเท่าตัว)
    Hohner : meisterklass Suzuki : promaster

    นวัตกรรมใหม่ก็ต้อง (Hohner แพงกว่าเท่าตัว)
    Hohner : XB 40 Suzuki : overdrive

    กลับสู่รากเง้า คือทำด้วยไม้ (Suzuki pure harp แพงกว่าเกือบเท่า แล้วก็สลับกันไปมาครับจากสูงไปต่ำ)
    1. pure harp 2. crossover ราคาพอๆ กับ 3. fire breath 4. Deluxe ราคาพอๆ กับ 5. Manji (ไม้เทียม)

    ที่ผมสนใจแต่ยังไม่มีก็คือ Hohner XB 40 กับ Suzuki Fire Breath ซึ่งทุกครั้งที่ผ่านไปเห็นเข้าก็มองตาเป็นมันทุกครั้ง แต่เก็บไว้ฝึกตัดกิเลส ไม่สอยเสียที เอาไว้ฝีมือเข้าขั้นเมื่อไหร่จะอนุญาติตัวเองให้เก็บได้ครับ เก่งเมื่อไหร่จะมา Review 9 ตัวบนนี้ให้ชม (ถ้าอายุยืนยาวถึงวันนั้นน่ะครับ)

  21. ตั้ม พูดว่า:

    แวะมาอ่านครับ เพลินดี

  22. harmonicafe พูดว่า:

    สวัสดีคุณตั้ม…หายไปนานเลย ยังเล่นอยู่รึเปล่าครับ
    เนื้อหาการฝึกหัดคงไม่มีอะไรเพิ่มจากนี้ไปอีกนาน

    คงจะต่างคนต่างเล่นกันอยู่เงียบๆ ไปอีกพักใหญ่แหละครับ
    โผล่มาอีกทีน่าจะแข่งกันทำ Clip โชว์ฝีมือกันแล้ว

    ไปเยี่ยมชม Clip ของคุณ Jap จะทำให้เห็นภาพชัดเจนมาก

    ยินดีต้อนรับ

    คิดถึงคุณเหยือกเบียร์อีกคน งานคงยุ่งน่าดู
    เคยแวะไปดูที่ web ของคุณเหยือกเบียร์…โห้…อิจฉาสุดๆ
    ไปทุ่งท้องเขียวขจีตลอด (ไปทุ่งหมายถึงไปไร่ไปนาน่ะครับ ไม่ใช้หมายถึงท้องเสีย…ศัพท์บ้านนอก)
    …เมื่อไหร่ผมจะได้อยู่ใกล้ๆ ธรรมชาติบ้างน้าาา
    เบื่อกรุงเทพ สุดๆ แล้ว

  23. เหยือกเบียร์ พูดว่า:

    เข้ามาอ่านเรื่อยๆแบบเจียมเนื้อเจียมตัวไม่กล้าคุยอะไรครับ.. ด้วยว่าระดับฝีมือยังอยู่(ระดับเริ่มต้น)เท่าเดิม ทั้งที่ harpmaster วางอยู่แค่เอื้อม มองอยู่ทุกเย็น ครั้นเอื้อมมือจะไปหยิบharpทีไร มือเลี้ยวเปลี่ยนทางไปจับหูเหยือกทุกทีครับ อีกอย่างคือระยะนี้เดินทางบ่อยมาก ไม่สะดวกที่จะเอาharpไปฝึกเล่น และคุณHamonicafe ก็ทราบดีว่า ถ้าฟังคนที่ยังเล่นไม่เข้าที่มาเป่ากรอกหูจะกวนอารมณ์มากเอาการ..และในกรณีนี้ผมเป็นฝ่ายเกรงใจชาวบ้าน

    ตอนนี้ผมอยากหลบ Diatonic มาเล่น Chromatic สักพัก เพราะอยากทำอะไรง่ายๆเพื่อการพักสมอง ใจเล็งไปที่ Suzuki scx56 แต่ราคาหนักหนาเอาการ (ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนจะอยู่ประมาณ 5xxx) ตอนนี้อยากหา Chromatic ที่ราคาไม่แพง พอเล่นข้างวงโซดาได้ไม่ขัดหู(และไม่เสียดายมากถ้าถูกคนเมาแย่งไปเล่นแล้วทำตกหล่น 555) ไม่ทราบพอจะมีท่านใดแนะนำได้บ้างครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

    ผมติดตามเว็บไซท์นี้อย่างสม่ำเสมอแม้ไม่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ขอชื่นชมสังคมที่ร่วมสร้างเสริมแบ่งปันความรู้อย่างผู้มีน้ำใจและถ้อยทีถ้อยอาศัยกันครับ

  24. harmonicafe พูดว่า:

    สวัสดีครับคุณเหยือกเบียร์…ไม่ได้คุยกันซะนานเลย
    วันที่ไปร้านธีระมิวสิคเมื่อวันก่อน คุยกับคุณต้อมถึงรุ่นที่ขายดีที่สุด นักดนตรีที่เล่นเป็นอาชีพของบ้านเราเลือกใช้เพราะคุ้มค่าที่สุด ปรากฎว่าคือรุ่น HarpMaster ผมเลยติดใจกับรุ่นนี้มากๆ กลับบ้านมาหาข้อมูลใน Net เพิ่มเติมว่านักดนตรีบ้านเราเท่านั้นหรือที่นิยม ปรากฎว่าเมืองนอกแถบอเมริกา (ยุโรปส่วนมากจะเสร็จ Hohner) มียี่ห้อหนึ่งเป็นของอเมริกา และเป็นที่นิยมมาก ชื่อ BushMan ปรากฎว่ารุ่นยอดนิยมของเค้าเหมือน HarpMaster เด่ะเลย และมี web ฝรั่ง web หนึ่งนำมารีวิว ผลปรากฎว่ามันให้เสียงที่เหมือนกัน (แต่ไม่ได้บอกว่าใครลอกใคร หรือใครจ้างใครผลิตให้กัน) แปลกดีครับ (และหมายถึง Harp ดีด้วยครับ)

    ส่วน Chromatic รุ่นทนโซดา และกับแกล้งคงต้องเป็นของจีน ไปจ่ายตลาดคราวที่แล้วเห็นแว๊บๆ แต่ไม่ได้ถามราคา ไว้คราวหน้าจะถามให้ครับ (แนะนำ แต่ไม่อยากจัดหาเพราะกลัวคนนินทาว่าทำ Blog ขายของครับ)

    คุณเหยือกเบียร์อย่าลืมแวะไปที่ Blog คุณ Jap น่ะครับ ถ้าการ Bending โดยใช้ลิ้นควบคุมเสียงมันยาก คุณ Jap ใช้วิธีที่แตกต่างกับผม (แต่ผมทำไม่ค่อยได้เช่นกัน 5 5 5) อาจง่ายขึ้นก็ได้

    อยากลงท้ายว่าขอให้มีความสุข หรือสนุก อะไรทำนองนั้น แต่มาคิดๆ ดูแล้ว ทั้งสภาพแวดล้อม และการใช้ชีวิตประจำวันคุณเหยือกเบียร์น่าจะมีความสุขมากกว่าผมเยอะ…เฮ้อ เบื่อกรุงเทพครับ

  25. เหยือกเบียร์ พูดว่า:

    คุณharmonicafeครับ ผมทำเบอร์คุณต้อมหาย ไม่ทราบพอจะมีเบอร์โทรรึเปล่าครับ? จะปรึกษาเรื่องราคาล่าสุดของ scx-56 กับการตามเก็บ Harp master ให้ครบเซ็ท..

    เรื่องการเกรงจะเป็นเว็บขายของนี่นะครับ อยากขอให้มองในอีกมุมว่า คนอยู่ภูธรไม่มีทางเลือกมากนักเลย ถ้าไม่ซื้อผ่านเว็บแบบวัดดวง(คราวที่แล้วผมโชคดีได้โทรเจอะคุณต้อมจึงได้คำแนะนำดีๆ ก่อนตัดสินใจสั่งซื้อ) ก็ต้องถ่อสังขารไปเลือกหาซื้อเอง..เรื่องพิกัดร้านก็หนักหนาพอแรงแล้ว ยังมีเรื่องเวลาที่ต้องทิ้งไปเป็นวันๆ, เรื่องสินค้าที่อาจจะหมดพอดี, การตัดสินใจเรื่องราคาสินค้าและคุณภาพ..สรุปได้เลยว่าถึงบอกว่ามีของอยู่ตรงไหนผมก็ไม่สามารถซื้อไปได้..ช่วงผมเข้าไปทำงานที่ กทม.จะมีเวลาเหลือหลังเสร็จงานแค่ชั่วโมงสองชั่วโมงเอง.. ที่เล่ามานี้ก็เพื่ออยากขอให้คุณharmonicafe อย่าเอาเป็นเอาตายกับการรักษาภาพลักษณ์ของ blog ให้ปลอดการทำธุรกิจเลยครับ ถ้ามีตัวแทนจำหน่ายที่ไว้ใจได้ พร้อมอำนวยความสะดวกในการจัดส่งสินค้า ก็เชิญเค้ามาร่วมด้วยเถอะครับ โดยมีคุณharmonicafe คอยกำกับดูแลให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของblog และรักษาผลประโยชน์ให้สมาชิก ผมว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมไม่น้อยทีเดียว.. ขอเสียงรับรองจากท่านสมาชิกด้วยครับ ^L^

    ส่วนเรื่องChromatic ของจีนที่ คุณHamonicsfe จะช่วยดูให้นี้ ผมขอรบกวนช่วยประสานเบื้องต้นกับทางร้านเรื่องการจัดส่งพัสดุและการโอนเงินให้ด้วยนะครับ ขอขอบคุณล่วงหน้า ครับผม

  26. มานะ พูดว่า:

    – ผมเห็นด้วยกับคุณเหยือกเบียร์ เรื่องการให้คำแนะนำการซื้อ Harmonica ใน Harmonicafe blog ผมเองถ้าไม่บังเอิญไปได้ Marine Band Classic มา ผมอาจจะเลิกเล่น Harmonica ไปแล้วก็ได้ ตอนที่ผมซื้อ Marine Band ผมยังไม่รู้จัก Marine Band ด้วยซื้อ ที่ซื้อเพราะเป็น Hohner และ เป็น Diatonic
    – ต่อมาเมื่อติดตามข้อมูล ใน Harmonicafe blog รวมทั้งข้อมูลใน Internet ทำให้รู้จัก Harmonica มากขึ้น อยากได้บางรุ่น แต่ก็ไม้รู้จะซื้อจากที่ไหน อยากได้ Marine Band Deluxe คุณ Harmonicafe บอกว่า มีที่ บริษัท ลัคกี้ มิวสิค ก็โทรฯ ไปสั่งที่ ลัคกี้ มิวสิค พนักงานขายเป็นผู้หญิง เข้าใจว่า น่าจะไม่ค่อยมีความรู้เรื่อง Harmonia ผมถามย้ำหลายครั้งว่าเป็นรุ่น Marine Band Deluxe ใช่ไหม เธออึกอักแล้วตอบว่า กล่องใส่สีขาว มีตัวเลข 1896 ผมจึงทราบว่าเป็นรุ่น Marine Band Classic ผมบอกว่าต้องการ key D เธอตอบว่ามีแต่ key B ผมเลยได้ Marine Band Classic key B มาโดยบังเอิญ จนคุณ Japharmonica แนะนำร้าน มีสิน ริมคลองหลอด ไปแล้วไม่ผิดหวัง เพราะมี Hohner หลายรุ่นมาก และร้าน ธีระ มิวสิค ก็มี Harmonica Suzuki หลายรุ่นมาก ผมเห็นด้วยที่ Harmonicafe blog จะเป็นตัวกลางเชื่อมความต้องการของคนเล่น Harmonica กับร้านที่ขาย Harmonica เพื่ออำนวยความสะดวกให้สมาชิกต่างจังหวัด ที่ไม่คอยมีเวลาเข้าไปหาซื้อเอง(เหมือนผม) เราสามารถทำได้โดย
    1. ขอให้ทางร้านขายให้สมาชิก Harmonicafe blog ในราคายุติธรรม
    2. ขอให้ทางร้านช่วยตรวจสอบความสมบูรณ์ของสินค้าก่อนส่งให้สมาชิก
    3. อำนวยความสะดวกในการจัดส่ง
    4. สมาชิกอาจจะรวมกันแล้วขอให้ทางร้านซื้อรุ่นที่ต้องการที่ยังไม่มีการสั่งเข้ามา ซึ่งอาจจะได้ราคาถูกกว่าที่สั่งซื้อเอง
    – ผมว่าทุกอย่างมันอยู่ที่เราทำ ผมเชื่อใจคุณ Harmonicafe และคุณ Japharmonica
    – เมื่อมี Harmonica คู่ใจ ก็อยากเล่น เมื่อเล่นเป็นก็อยากแนะนำผู้อื่นต่อ คนเล่น Harmonica ก็จะมากขึ้น
    สนับสนุนคุณเหยือเบียน์เต็มที่

  27. เหยือกเบียร์ พูดว่า:

    ขอบคุณ คุณมานะที่ช่วยรับรองข้อเสนอครับ ^L^

    ผมอ่านข้อความที่ผมเขียนไปความคิดเห็นที่แล้ว ดูจะเป็นการใช้คำพูดที่ห้วนๆคาดคั้นคุณhamonicafe จนน่าเกลียด ใจจริงไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น คิดไปพิมพ์ไปแล้วโพสท์ พอย้อนกลับมาอ่านถึงรู้สึกระคายใจ ต้องขออภัยด้วยนะครับ

    สำหรับข้อความสุดท้าย ผมอยากจะเขียนว่า “ส่วนเรื่องChromatic ของจีนที่ คุณHamonicsfe จะช่วยดูให้นี้ ผมขอความอนุเคราะห์ช่วยเจรจาเบื้องต้นกับทางร้านเพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องการจัดส่งพัสดุและการโอนเงินให้ด้วยนะครับ เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกท่านอื่นๆอีกด้วย ขอขอบคุณล่วงหน้า ครับผม”

  28. harmonicafe พูดว่า:

    อ่านคุณเหยือกเบียร์พิมพ์แล้วเห็นภาพเลย (เห็นใจด้วย) ถ้าเป็นตัวกลางระหว่างร้านกับเพื่อนสมาชิกนี่พอไหวครับ เพราะราคาที่ขายเป็นที่รับรู้จากร้าน และผู้ซื้อ (ไม่ใช่แบบผมซื้อเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แล้วมาขายต่อ…อันนี้ไม่สบายใจครับ) ยินดีช่วยตามของ หรือจัดส่ง (ถ้าร้านปฏิเสธการส่ง หรือคิดค่าส่งแพงเกิน แต่คงต้องหลบเวลางานผมสักนิดอาจไม่ใช่ซื้อปุ๊บส่งปั๊บ)

    ก็ถ้ามีร้านไหนเข้ามาอ่าน และยินดีบริการ แจ้งใน Blog ก็ได้ครับผมจะติดต่อไป หรือถ้ามีข้อมูลบน Web แจ้งไว้ได้เลย ผมจะทำ Link ถาวรให้สมาชิกเข้าได้สะดวกๆ รวมไว้ที่เดียวกัน เดี๋ยวผมเองก็จะไปแจ้งให้ร้านใหญ่ๆ ทราบด้วยตัวเอง ส่วนเค้าจะสนใจหรือเห็นคุณค่าเราหรือไม่คงต้องใช้เวลาสักระยะนึงครับ ให้กลุ่มคนเล่นได้พัฒนาทั้งฝีมือ และจำนวน ผมเชื่อว่าคนเล่นพอได้แต่มีจำนวนหลากหลายระดับ ดีกว่าเก่งโดดๆ อยู่ไม่กี่คนครับ

    ทั้งหมดทั้งมวลผมเพียงต้องการให้คนสนใจเล่น Harmonica มากขึ้น มันเป็นเครื่องดนตรีที่เหมาะกับทุกวัย ราคาไม่แพง (จนเกินไป) และคุณสมบัติ หรือความสามารถเฉพาะตัวของเครื่องดนตรีสูงแบบที่เราเองก็นึกไม่ถึงว่ามันจะทำได้ อยากให้เพื่อนสมาชิกช่วยแนะนำเพื่อน พี่น้อง ลูกหลาน ให้ลองเล่นดู มีผู้สนใจที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog นี้บางท่าน ผมทราบว่าอยู่ในวงการสือมวลชนด้านวิทยุกระจายเสียง (ท่านเป็นผู้บริหารคลื่น) ถ้าเป็นไปได้อยากให้หาเพลงบรรเลง Harmonica จะแนวบูลส์ หรือ แจ๊ส หรือคันทรี่ อะไรก็ได้มาแนะนำให้ DJ ในคลื่นเปิดบ้างจะเป็นพระคุณต่อเยาวชนบ้านเรา (ผมเห็นข่าวเด็กตีกันแล้วเหนื่อยใจ พลังมันเยอะแต่ไม่มีที่ระบาย)

    เรื่องที่วานผมจะดำเนินการให้ ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบครับ ส่วนเบอร์คุณต้อมร้านธีระ คือ 02-2228861 เบอร์นี่ใกล้ตัวคุณต้อมที่สุดครับ

    และต้องขอโทษพี่มานะเรื่องความผิดพลาดของข้อมูล Marine Band Deluxe เนื่องจากช่วงนั้นผมเองก็ไม่มีในมือ อาศัยถามจากเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งที่ไปซื้อมาจากร้านลัคกี้ (ซึ่งสมาชิกท่านนั้นก็คงให้ข้อมูลตามที่คนขายบอกโดยไม่ทราบว่าข้อมูลนั้นไม่ถูกต้อง ก็มาบอกผมอีกที เป็นความผิดของผมที่ไม่รีเช็คอีกครั้ง ทำให้ข้อมูลผิดๆ ถูกส่งต่อกันไปเรื่อยๆ)

    ข้อแนะนำเพิ่มเติมของพี่มานะ เห็นด้วยทุกข้อครับ โดยเฉพาะข้อ 4 (ซึ่งไม่รู้เค้าจะเห็นคุณค่าของเราแค่ไหน Volume เรามันน้อยครับ) เพราะรุ่นใหม่ๆ ที่ราคาถูกๆ (ไม่เกิน 500 บาท) จะดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ เป็นผลเนื่องมาจากเทคโนโลยี่คอมพิวเตอร์ในการออกแบบลิ้นโลหะ และทางเดินของลม) อย่างไรก็ขอแรงผู้สนใจที่เข้ามาอ่านผมเองก็อยากทราบเหมือนกันว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ถ้าสนใจข้อ 4 ช่วยออกเสียงให้ทราบสักนิดนะครับ

  29. japharmonica พูดว่า:

    เรื่องติดต่อประสานงาน ตอนนี้ต้องขอบายนะครับ ต้องรอให้กลับกรุงเทพก่อนค่อยว่ากัน ตอนนี้อยากจะเล่นตัวไหนก็คิดแล้วคิดอีก ให้ที่บ้านส่งไปรษณีย์มาให้ก็ลำบาก(คนส่ง-คนรับ) จะซื้อใหม่ก็ลำบาก(กระเป๋า)

    แต่ถ้าใครสนใจพวก Suzuki หรือ Tombo รุ่นแปลกๆก็บอกกันได้นะครับ

    อ้อ เกือบลืมบอกไปว่า ไป upload ใหม่เรื่อง bending แต่ไม่รู้ว่าจะทำให้เข้าใจหรือทำให้งงมากกว่า ช่วยวิจารณ์ด้วยนะครับ

  30. harmonicafe พูดว่า:

    ทำ Link ก่อนเลยครับ คนไม่เคยเดี๋ยวหาไม่เจอ

    Note Bending

    ชัดเจนเลยสำหรับคนที่ทำไม่ได้เสียที (กับแบบที่ผมใช้ใน Blog นี้ : Bend โดยที่ลิ้นยังคงบังคับเสียงให้ Single Note อยู่)
    ลองกันดูอีกทีน่ะครับ อย่าเพิ่งถอดใจ

    อยากให้คุณ Jap ทำแนวนี้ไปให้ครบ แล้วรวมเป็นหนังสือ (หรือ web) การเล่นแนวบูลส์
    ตั้งแนวไว้ก่อนจะได้มีจุดหมาย (หรือคิดไว้แล้วก็ไม่ทราบได้) ทำให้สำเร็จโดยเร็วจะได้ประโยชน์กับเยาวชนบ้านเรามากๆ ครับ

    แหมเกือบลืม…ผมสนใจ Suzuki ของคุณ Jap มากเลย ไม่ทราบมีรุ่นอะไรบ้างครับที่มี Key ซึ่งตัวแทนบ้านเราไม่ได้เอาเข้ามา ถ้าไม่อยากลงใน Blog หลังไมค์ไปที่ harmonicafe@gmail.com ก็ได้ครับ

  31. มานะ พูดว่า:

    – เมื่อคืนเอาผ้า Yamaha ที่คุณ Harmonicafe ช่วยเป็นธุระ จัดซื้อและเป็นภาระ จัดส่งมาให้ถึงบ้าน เช็ด Hohner special 20 ที่มีคราบสีเหลืองอ่อนๆ ติดที่ Cover plate ถูไป 2 – 3 ครั้ง คราบหายหมด แต่ ผ้านี้ดำปี๋เลย ตรงรอยที่เช็ด คิดถึงโฆษณา ครีม Nevea for men ขึ้นมาทันทีเลย เอา Hohner special 20 มาส่องกับแสงไฟแล้ว ชื่นใจ กลับมาเป็นเหมือนเดิมเสียที หลังจากพยายามเช็ด พยายามถูมาไม่รู้เท่าไร ไม่ออกสักที นี่แหละของดีๆ ถ้าเรามาช่วยกันแนะนำ ก็จะเกิดประโยชน์กับสมาชิก

  32. harmonicafe พูดว่า:

    อรุณสวัสดิ์ครับพี่มานะ ดู Clip ใหม่คุณ Jap รึยังครับ เยี่ยมเลยอธิบายแบบมีหลักการแต่เข้าใจง่าย ๆ

    ผมดูแล้วเกิดความรู้สึกอยากให้มีแบบนี้ครบทุกระดับการเล่น แล้วรวมเป็นหนังสือ จริงๆ อยากอ่านเร็วๆ แต่ไม่กล้าเร่งคุณ Jap เดี๋ยวจะรบกวนเกินไป (เลยทำเป็นมาพิมพ์คุยกับพี่ไงครับ เพราะรู้ว่าแกต้องมาอ่านแน่นอน)

    โชคดีจริงๆ สำหรับคนเล่น Harmonica บ้านเรา มีแนวให้เดินยิ่งหลากหลายยิ่งดี

  33. มานะ พูดว่า:

    – ตามไปดูตามที่แนะนำแล้ว มีความเห็นเหมือนคุณ Harmonicafe แต่ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป ผมว่าตอนนี้สิ่งที่เรายังขาดก็คือ การเล่นให้เป็นเพลง ผมว่าเราน่าจะหาเพลงที่เล่นได้ไม่ยาก และเป็นเพลงที่ทุกคนรู้จักคุ้นเคย เช่นเพลงค่าน้ำนมที่คุณ Harmonicafe เคยที่ไว้ มาทำ Tab ให้สมาชิก และทำ Video ประกอบเป็นตัวอย่าง สมาชิกจะได้สนุกกับ Harmonica คู่ใจ
    – แต่ก็อยากขอฝากถึงสมาชิกที่เริ่มเล่น Harmonica ความจริงแล้วผมไม่อยากให้ท่านรอคอย Tab เมื่อท่านเล่น Single note ได้แล้ว และพอจะ Bend ได้บ้างแล้ว ท่านลองเล่นเพลงที่ท่านชอบ ค่อยๆ เทียบเสียงเอา ใจเย็นๆ ลองทำไป เมื่อได้ระดับเสียงแล้วค่อยๆ ไล่ต่อไปจนครบเพลง ไม่น่าจะเกิน 1 วัน น่าจะได้ครบเพลง เมื่อได้ครบเพลงแล้ว ก็ฝึกให้คล่อง ฝึกเล่นเหมือนฝึกร้องเพลง ผมไม่ได้ทำ Tab แต่จะเล่นแบบ By heart ผมว่าการเล่นแบบนี้ มันทำให้เราเปิดกว้าง ไม่ติดกับ อยู่ที่ Tab แต่จะทำ Tab ไว้หลังจากที่เล่นได้แล้วก็อาจจะมีประโยชน์ภายหลังได้ มันทำให้เราสามารถเล่นเพลงใหม่ที่เราอยากเล่นได้ตลอดเวลา ไม่ต้องไปรอคอยพึ่งคนอื่นที่ Tab ให้ ผมทำวิธีนี้ ทำให้เล่นได้หลายเพลงแล้ว แต่ที่ยังไม่กล้าส่งมาให้ฟังกัน เพราะมันยังไม่ไพเราะ กลัว Post ไปแล้ว หลายคนอาจจะเลิกเล่น Harmonica แต่ผมก็มีความสุขกับการเล่น Harmonica ผมมี Harmonica ติดกระเป๋าเสื้อตลอดเวลา เมื่อมีเวลาก็เล่นเพลงที่ชอบ ความสุขมันก็เกิดขึ้น เป้าหมายของผมในการเล่น Harmonica คือเพื่อความสุขของตนเอง ประเภทที่ว่า ใครว่าไม่เพราะ ฉันก็ว่าก็ว่าฉันเป่าเพราะ(แบบว่าหลงตัวเอง)

  34. japharmonica พูดว่า:

    love me do พอไหวไหมครับ

    Love me do: Part III

    กำลังจะหาเพลงอยู่เหมือนกันครับ ได้มา 4-5 เพลงแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีคนถูกใจแค่ไหน

    ส่วนที่คุณ harmonicafe ถามมาเรื่อง suzuki ยังไม่ค่อยเข้าใจ เอาเป็นว่าถ้าเช็คในเว็บแล้วสนใจรุ่นไหน คีย์อะไร ก็ลองบอกมาครับ กะว่าวันอาทิตย์จะฝากดูราคาอยู่เหมือนกัน ตอนนี้อยากเอา tombo มาลองบ้าง นั่งดูโบรชัวจนเริ่มสนใจแล้ว

  35. harmonicafe พูดว่า:

    อ้อ เรื่อง Suzuki ผมเข้าใจว่าคุณ Jap ซื้อมาแล้วไม่ถูกใจ หรือไม่ได้เล่นแล้วจะขายทิ้งน่ะ ก็เลยถามว่ามีอะไรอยู่บ้าง ขอโทษเข้าใจผิดไปครับ (พอดีทราบว่าคุณ Jap มี Overdrive อยู่ ผมขาดอยู่หลาย Key ยังไม่ครบ)

    ช่วงนี้ไม่มีเล่นเป็นเรื่องเป็นราวเลย หนักไปทางจับมาขัดๆ ถูๆ ให้แววๆ แล้วเก็บ…พอดีลูกชายจะสอบเข้าเรียน ม.1 เลยต้องวาง Harmonica ก่อนชั่วคราวครับ

    ว่าแต่ไปเอาโบชัวร์ Tombo มาจากไหนครับ บ้านเรามีตัวแทนด้วยหรือ

  36. สรชา พูดว่า:

    สวัสดีครับ

    กรุณาแนะนำ Harmonica สำหรับมือใหม่หน่อยครับ
    ยังไม่เคยเล่นเลยครับ (เป่าไม่เป็นเลย)
    ในชีวิตนี้ อยากเล่นดนตรีเป็นซักหนึ่งชนิด
    ที่คิดไว้ก็คือ Harmonica นี่แหละครับ
    ช่วยแนะนำด้วยนะครับ

    ผมมีงบถึง 5000 บาทครับ
    อยากซื้อครั้งเดียวจบไปเลย

    ขอบคุณมากครับ

  37. harmonicafe พูดว่า:

    สวัสดีเช่นกันครับ
    ยินดีต้อนรับผู้ชื่นชอบ Harmonica ไม่ว่ามือเก่า มือใหม่ทุกท่าน
    เนื่องจากไม่เคยเล่นมาก่อนเลย ก็อยากให้ลองอ่านที่ผมทำ Link ด้านล่างนี้ดูก่อนครับ

    เลือก Harmonica (2)

    ตามที่ระบุว่าอยากซื้อครั้งเดียวจบไปเลย จึงจำเป็นต้องเลือกก่อนครับว่าชอบแบบไหน
    อ่านแล้วลองไล่ดูจาก comment ต่างๆ (เพื่อดูความยากง่ายของการเล่น) แล้วชั่งใจดู

    คราวนี้มาที่เสียง ลองดูจาก youtube ด้านล่างตามลำดับเลยครับ

    เริ่มที่ Tremolo ก่อนเลย เพลงแถบเอเชีย โดยเฉพาะจีนนิยมมาก ฟังคุ้นหูมาแต่เด็ก

    ตามด้วย Diatonic เสียงโปร่งสบายหู (แต่เล่นไม่สบายเท่าไหร่น่ะ ต้องเหยาะความพยายามมากนิดนึง)

    และปิดท้ายด้วย Chromatic เสียงดูซับซ้อน แต่เล่นง่ายกว่า Diatonic (แพงกว่าเยอะด้วย งบที่มีพอไหว และซื้อครั้งเดียวจบแน่)

    และเนื่องจากตัวผมเอง เล่น Chromatic มานานเลยมีใจเอนเอียงต้องแถมอีกหนึ่งคลิปครับ (และงบที่มีอยู่ได้ตัวที่เล่นในคลิปนี้เลยครับ)

    อ่านแล้ว ฟังแล้ว ลองประมวลผลดู แล้วตัดสินใจยังไงมาถามได้อีกครับ จะได้แนะนำถูก

  38. มานะ พูดว่า:

    – ในประสบการณืของผมที่เพิ่มเริ่มเล่นก่อนคุณสรชา ประมาณ 3 เดือน ผมอยากสนับสนุน แบบ Diatonic ผมเริ่มเล่นจากแบบ Tremolo ตามด้วย Diatonic และ แบบ Chromatic แรกที่เดียวผมชอบ Tremolo เราะเล่นง่ายกว่า แต่พอเล่น Diatonic ก็รู้ว่า Diatonic มีลูกเล่น และเสียงที่ดีกว่า ส่วน Chromatic ผมได้มาหลังจากที่ผมเริ่มคุ้นเคยกับ Diatonic แล้ว ผมจึงไม่ได้เล่น Chromatic บ่อยนัก ซึ่งต่างจากคุณ Harmonicafe ที่คุ้นเคยกับ Chromatic ก่อน Diatonic จึงชอบ Chromatic มากกว่า แต่ผมก็อยากสนับสนุนให้เล่น Diatonic ด้วยเหตุผล
    1. เป็นแบบที่คนเล่นมากกว่าแบบอื่น
    2. มีข้อมูลใน Internet ที่แนะนนำการเล่นมากกว่าแบบอื่น
    3. ขนาดเล็ก พกพาสะดวก สามารถหยิบเล่นได้ตลอดเวลา
    4. เหมาะกับการเล่นเดี่ยวๆ หรือการเล่นร่วมกับดนตรีอื่น
    5. มีเทคนิกการเล่นมาก ทั้งแบบ Melody(ทำนองเพลง) Chord และ Bass โดยสมารถเล่นไปพร้อมกัน
    6. ผมวาให้เสียงไพเราะมากกว่าแบบอื่น(จากที่ผมเล่นเอง)
    สำหรับงบของท่านที่ตั้งไว้ ผมว่าน่าลองซื้อทั้ง 2 แบบ มาลองเล่นดู อันนี้เพื่อทดสอบว่าเราชอบแบบไหน ความชอบเป็นเรื่องส่วนตัว ต้องลองค้นหาดู สำหรับ Harmonica ที่อยากแนะนำ ผมชอบ Marine Band ถ้าเป็รุ่น Classic ก็ประมาณ 900 บาท ถ้าเป็นรุ่น Deluxe ราคา 1,400 บาท ถ้าเป็นรุ่น Crossover ราคา1,700 บาท สำหรับ แบบ Chromatic ของ Hohner ราคาตำสุดน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3,500 บาทขึ้นไป ลองติดต่อร้าน มีสิน โทรฯ 02-622-0896-9 ท่านลองอ่านทุกหัวข้อใน Blog นี้ แล้วค่อยตัดสินใจ แต่ Harmonica ตัวแรกที่ท่านซื้อต้องเป็น Key C เท่านั้น เพราะเป็น key ที่ใช้บ่อย และคำแนะนำต่างๆ ที่พบ ใน Internet จะใช้ Harmonica key C
    – สำหรับเมื่อได้ Harmonica มาแล้ว ท่านเริ่มฝึกดังนี้
    1. การถือ Harmonica ที่ถูกต้อง
    2. การคาบ Harmonica
    3. การเป่าแบบ Single note
    4. การ Bend เสียง(สำหรับ แบบ Diatonic)
    5. การเล่นเพลง
    ลองฝึกดู มีปัญหาก็ Post เข้ามา พวกเรายินดีช่วยแนะนำเสมอ
    ขอให้มีความสุขกับ Harmonica เหมือนผม

  39. japharmonica พูดว่า:

    ขอร่วมตอบคุณสรชาครับ
    เริ่มจากข้อมูลที่มีในขณะนี้

    – กรุณาแนะนำ Harmonica สำหรับมือใหม่หน่อยครับ ยังไม่เคยเล่นเลยครับ (เป่าไม่เป็นเลย) ในชีวิตนี้ อยากเล่นดนตรีเป็นซักหนึ่งชนิด
    – ผมมีงบถึง 5000 บาทครับ
    – อยากซื้อครั้งเดียวจบไปเลย

    ข้อมูลน้อยไปหน่อย เอาเท่าที่ได้ก็แล้วกัน
    ก่อนอื่นต้องตอบตามคุณ harmonicafe ครับว่าเลือกชนิดของเสียงที่ชอบก่อน เพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ฟังแต่ความเห็นผมหรือของคุณมานะที่ชอบ diatonic อาจทำให้ไขว้เขวได้ เลือกเองก่อนครับ แต่ละชนิดก็มีข้อดีข้อเสียของมัน แถมเอาแบบครั้งเดียวจบนี่ ต้องเลือกให้ดีเลยครับ จะได้ไม่ผิดหวัง

    ถ้าจะให้ลองเลือกรุ่น ก็น่าจะตามนี้ครับ

    – ชอบเสียง tremolo ก็ต้องซื้อ tremolo สิ แต่เอาแบบครั้งเดียวจบ เล่นได้ทุกคีย์ก็มีตัวเลือกประมาณนี้
    1. เล่นตัวเดียว แล้วหัด bending (ที่ยากกว่าของ diatonic)
    2. เล่นสองตัว คีย์ต่างกันครึ่งเสียง เช่น C กับ C#(Db) รู้สึกว่าเคยเห็นรุ่นที่ขายคู่กันอยู่พร้อมกระเป๋าเลย
    3. เล่นตัวที่มีเสียงชาร์พ/แฟลตในตัว เช่น Yamaha ss220 หรือ Tombo s-50
    4. เล่นตัวนี้เลย Suzuki tremolo chromatic แต่น่าจะเกินงบ

    – ชอบทีเดียวจบ แพงหน่อยไม่เป็นไร ดูแลยุ่งยากกว่าช่างมัน ขอหรูไว้ก่อน ก็ต้องเลือก chromatic รุ่นที่แนะนำก็ต้อง
    1. Hohner chrometta รุ่นประหยัด แต่เสียงไม่ธรรมดา ดูแลไม่ยากมาก
    2. Hohner CX-12 ดูแลง่ายมาก ไม่ต้องใช้ไขควงก็ทำความสะอาดง่าย
    3. Hohner super chromonica เสียงโทนอคูสติก คาดว่าคุณมานะน่าจะชอบ
    4. Suzuki chromatix ยังไม่เคยลอง ของดออกความเห็น

    – ชอบแบบจิ๋วแต่แจ๋ว ลูกเล่นแพรวพราว เสียงใสกังวาล ก็ต้อง diatonic เลือกให้ยากมาก ขอพูดถึงตัวเด่นๆก็แล้วกัน
    1. Hohner marine band (family) ขอรวม marine band deluxe และ crossover ไปด้วยเลย ข้อนี้มีคนช่วยโฆษณาแล้ว ขอข้ามแล้วกัน
    2. Suzuki promaster valved เป็นโลหะ เสียงใส ราคาไม่แพงมาก (ถ้าเทียบกับ Hohner) ที่สำคัญคือ มี valve ช่วยทำให้เล่นง่ายขึ้น ไม่กินลมมาก เล่นครึ่งเสียงได้ง่ายกว่า
    3. Hohner รุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจเช่น big river, special 20, blues harp, pro harp, golden melody
    4. ชอบท้าทายก็ต้อง Suzuki overdrive, Hohner XB-40 เสียงดี ลูกเล่นสุดยอด มือใหม่เล่นไม่ยากเท่าที่เห็น มันจะยากในมือกลางเก่ากลางใหม่ถึงมือเก๋า

    น่าจะมีข้อมูลเพิ่มให้งงมากขึ้นนะเนี่ย

  40. มานะ พูดว่า:

    – ผมมีความเห็นเหมือนคุณ Japharmonica ที่เรา 2 คนอาจจะทำให้คุณสรชา สัปสนมากยิ่งขึ้น ผมว่ามาจาก ความเป็นห่วงสมาชิกใหม่ อยากให้มีข้อมูลในการตัดสินให้มาก เมื่อมากก็อาจจะสับสน ผมว่าคุณสรชา ใจเย็นๆ ค่อยๆ อ่านทบทวน น่าจะได้คำตอบ สำหรับข้อมูลที่ผมให้ไปเมื่อเช้า คงต้องขอเพิ่มเติม นอกจาก Hohner ที่แนะนำไปแล้ว Suzuki ก็น่าสนใจ รุ่น Manji(ราคาประมาณ 1,400 บาท) กับ Pro Master(ราคาประมาณ 1,200) แต่เนื่องจากราคา Chromatic ของ Suzuki ค่อนข้างแพง เริ่มที่ประมาณ 5,500 บาท เมื่อเช้าจึงไม่ได้แนะนำ Suzuki ตอนกลางวันมานั่งคิดดูว่า สมควรแนะนำ Suzuki เป็นทางเลือด้วย เพราะคุณภาพสินค้าใช้ได้ แต่แนวเสียงจะต่างกันกับ Hohner Suzuki Manji แนวเสียงจะคล้ายกับ Hohmer Marine Band ส่วน Suzuki Pro Master แนวเสียงออกใสๆ สำหรับ Suzuki ติดต่อได้ที่ บริษัท ธีระมิวสิค จำกัด โทรฯ 02-222-8861 หากคุณสรชา อยู่กรุงเทพฯ ก็ลองไปดูของก็ได้ เลือกเอาตัวที่ดูแล้วชอบมาใช้ก่อน เมื่อเล่นเป็นแล้วจะรู้แนวทางของตนเอง ค่อยหาตัวที่ถูกใจภายหลัง แรกๆ ก็ต้องลองผิดลองถูก แต่ข้อมูลจะทำให้คุณสรชาลองผิดลองถูกน้อยที่สุด อย่างตัวผมเองลองผิดลองถูกมาจนมี Harmonica จำนวน 11 ตัว แต่หลังจากคุณ Harmonicafe จัดทำการทดสอบเปรียบเทียบ Harmonica รวมถึงข้อมูลจากคุณ Japharmonica ทำให้ผมหยุดค้นหาแล้ว ถ้าไม่ได้ข้อมูลจาก คณ Harmonicafe กับคุณ Japharmonica ผมอาจจะลองผิดลองถูกต่อ เพราะกิเลสความอยากมันคอยผลักอยู่ข้างหลัง
    – ข้อแนะนำอีกประการ สำหรับผู้ที่หัดเล่น Harmonica ควรจะหัดร้องเพลงไปด้วย ดีที่สุดคือการร้อง Karakoe ร้องอย่าให้เพี้ยน ร้องให้คล่องจนจำเนื้อร้องได้ การร้องเพลงจะเป็นการฝึกการฟังเสียไปในตัว เมื่อประสิทธิภาพการฟังของท่านดีแล้ว การเล่น Harmonica เป็นสิ่งไม่ยาก การเล่น Harmonica ก็คือการใช้เสียงของ Harmonica แทนเสียงร้องของท่านนั่นเอง ดังนั้นถ้าหูท่านแยกแยะเสียงได้ละเอียด การเทียบเสียง Harmonica ก็ทำได้ง่าย หากท่านไม่ชอบร้องเพลง ท่านก็ต้องฟังเพลงมากๆ โดยเฉพาะเพลงโปรดของท่านต้องฟังบ่อยๆ แต่การฟังเพลงผลที่ได้สู้การร้องเพลงไม่ได้

  41. มานะ พูดว่า:

    – คุณ Harmonicafe แจ้งมาว่า Chromatic ของ Suzuki ราคาต่ำสุดอยู่ประมาณ 5,000 บาท ต้องขอขอบคุณ คุณ Harmonicafe ที่แจ้งข้อมูลแก้ไขเข้ามา อย่างไรคุณสรชา ลองติดต่อสอบถามทาง ธีระมิวสิค อีกครั้ง แต่ขอเรียนคุณสรชาว่า การซื้อ Harmonica นั้น ผมคิดว่า ครั้งเดียวคงไม่จบ เพราะคุณสรชายังไม่ทราบแนวเสียงที่ชอบเลย ผมว่าลองซื้อมาเล่นดูก่อน แล้วค่อยขยับขยายภายหลัง คุณสรชามีงบค่อนข้างสูง ซื้อรุ่นที่สูงไปเลย อย่างถ้าจะเล่น Marine Band ก็เล่น Crossover เลย ถ้า Suzuki ถ้าชอบแนวเสียงใสๆ ก็ Pro Master(ตัว Comb ทำจากโลหะ Cover plate ทำจาก Stanless เป็นเงาสวยดี)หรือ Suzuki Manji ตัวนี้แนวเสียงคล้าย Marine Band แต่ตัว Comb ทำจาก Resin ไม่ต้องกลัวน้ำ Marine Band Comb ทำจากไม้ ส่วนถ้าสนใจ Chromatic ข้อนี้ต้องขอความเห็นคุณ Harmonicafe ว่ารุ่นไหนน่าเล่น ผมไม่มีความรู้เรื่อง Chromatic เลย มีอยู่ตัวเดียวของ Hohner รุ่น Super Chromatica ถึงไม่ได้ใช้บ่อย แต่ชอบดู ผมว่าออกแบบได้สวยดี โดยเฉพาะลายสลักบน Cover plate สวยมาก
    – ผมว่าคุณสรชา เหมือนผมเลย พยายามลองเล่นเครื่องเล่นดนตรีมาหลายอย่าง แต่ไปไม่เป็นสักอย่าง เคยเรียนเปียโนอยู่พักหนึ่ง ซื้อเปียโนมาตั้งไว้ที่บ้าน จนขณะนี้ปลวกกินไปหมดแล้ว จนถูกภรรยาแซว เคยหัดกีต้า ก็เล่นแล้ว ฟังอย่างไรมันก็ไม่ได้เรื่อง ลองหยิบขลุ่ยมาเป่าก็ต้องเลิก สุดท้าย หยิบ Harmonica ดูน่าจะเป็นเครื่องดนตรีชนิดเดียวที่พอจะไปไหว คุณสรชา ก็ลองเล่นดู เป็นกำลังใจให้

  42. japharmonica พูดว่า:

    ถ้ามีข้อสงสัยเรื่องการเลือกคีย์ก็แวะไปดูที่บล็อกนะครับ เขียนเพิ่มให้แล้ว แล้วจะค่อยๆเพิ่มเรื่องอื่นอีก

  43. yoke พูดว่า:

    สวัสดีค่ะ

    หลังจากนั่งไล่อ่านมาทุกหน้าทั้งเวปนี้และเวปนอกก็ยังตัดสินใจไม่ได้ซักทีว่าจะซื้อรุ่นไหนมาหัดนะคะเนี่ย (นู่นก็ดี นี่ก็น่าสน) จะลองที่ร้านก็เล่นไม่เป็น แถมไม่มีคนรู้จักที่เล่นเป็นอีกตังหาก T_T

    พอดีวันก่อนหยิบ Hohner Puck ที่เพื่อนซื้อมาให้เป้นของขวัญมาลองหัดเล่น พบว่ามันเ่ล่นยากจังไม่รู้เพราะอันเล็กไปหรือเปล่า ก็เลยเข้ามาหาข้อมูลในเนต เห็นว่ามันอันเล็กเลยหัดยากหน่อยก็เลยว่าจะหาอันขนาดปกติมาเล่น

    ขอคำแนะนำหน่อยได้ไหมคะว่า special 20 นี่น่าสนใจในระดับไหนคะ คืออยากได้ตัวที่ comb เป้นพลาสติก (จะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องการทำความสะอาด) แล้วก็ไม่ยากนักสำหรับคนหัดเล่นน่ะค่ะ ถ้ามีตัวอื่นน่าสนใจกว่า รบกวนแนะนำด้วยนะคะ

    แล้วร้านที่แนะนำมาทั้งสองร้านนั้นเค้ามีบริการส่งไปรษณีย์ด้วยมั๊ยคะ เผื่อจะติดต่อให้ส่งของ เพราะมันไกลบ้านจังเลย 😦

  44. harmonicafe พูดว่า:

    Hohner Puck เป็น Harp ไซด์เล็กสุดครับ (ไม่นับรุ่น Little Lady เพระไม่ครบ 3 Octave) เอาไว้เล่นโชว์ เล่นจริงค่อนข้างลำบาก หัดจากไซด์ปกติดีกว่าครับ (ความจริงมีขนาด Pocket ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด เช่นรุ่น Piccolo แต่ถ้าหัดใหม่ใช้ size คลาสสิค หรือ MS จะถนัดกว่าครับ)

    สนใจ special 20 ก็ต้องร้านมีสิน ร้านเดียว (เมื่อก่อนผมก็ไม่รู้ว่ามีนำเข้ามา) ผมเพิ่งไปมาเมื่อวานนี้เอง (พอดีไปซื้อรางเดินสาย Lan ที่คลองถมเลยแวะซะหน่อย) ดูจากที่โชว์ในตู้เป็น Lot เก่ามากเลย สอบถามทราบว่าราคา 950 บาท ลองไปชมดูจะดีที่สุด แต่ให้แวะไปเวิ้งด้วยน่ะครับ เปรียบเทียบดูก่อน เพราะเห็นว่าอยากได้แบบ Comb พลาสติด ต้องไม่พลาดชม Suzuki ก่อนครับ ถึงค่อยตัดสินใจ เพราะสำหรับ Comb พลาสติด Suzuki จะหลากราคากว่า (เริ่มที่ถูกกว่าคือ 450 บาท) ในมาตราฐาน Reed ที่เป็น Laser Cut ในขณะที่ Hohner จะเริ่มที่ราคา 800 บาท +/- ไม่กี่บาท (พูดเฉพาะจากเยอรมัน ไม่รวมที่ผลิตจากจีน)

    จะลองพลาสติคก่อนก็ได้ เป่าสักระยะนึง พอหูเริ่มแยกแยะได้เริ่มสนใจไม้…คราวนี้ล่ะ Shopping กันสนุกล่ะครับ สำหรับ Hohner เป็นเจ้าตลาดอยู่ก็เริ่มที่ราคา 800 ต้นๆ (Marine Band Classic ร้านฮงเซ่ง ถูกสุดอยู่เวิ้งนครเขษม ครับ) ไล่ไปจนถึง Crossover 1700 บาท ที่ร้านมีสินที่เดียว มา Suzuki บ้าง ณ เวลานี้มีแต่ไม้เทียมคือ Manji 1400 บาท แต่รอสักเดือนกว่าๆ ครับ Fire Breathe คู่แข่งฟ้าประทานของ Crossover จะนำเข้ามาให้ลองเปรียบกันดูให้รู้หมู่หรือจ่าไปเลย ที่พูดถึงไม้ให้ฟังเพราะ รับรองว่าคนเล่น Harp (ผมว่า 100 %) พอเริ่มเป่าได้ เริ่มสนุกกับมัน เป็นต้องหาซื้อรุ่นที่เป็นไม้มาเล่นแน่นอน

    เรื่องการจัดส่งไปรษณีย์ ร้านธีระเค้ารับจัดการให้ครับ แต่มีสิน ผมไม่แน่ใจต้องลองโทรสอบถามดู
    พูดถึงร้านมีสิน หลังจากไปครั้งล่าสุด (เมื่อวานนี้) คราวนี้ต้องขอชมเลยครับ อัธยาศัยเยี่ยมอย่างผิดหูผิดตา จากถามคำตอบคำ เป็นทักทายถามไถ่ เชิญชวน และที่เด็ดคือ หยิบแคตตาล็อคของ Hohner มาให้ผมฟรีๆ (เป็นเล่มเลยนี่หายากน่ะครับ เก็บไว้สักพักมันจะมีค่าขึ้นเรื่อยๆ ของปีเก่าๆ นี่เค้ามาขายกันใน ebay เลย) ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ซื้ออะไรสักชิ้น พี่ผู้หญิงเจ้าของร้านใจดีมากๆ เลยตั้งใจว่าคราวหน้าจะไปอุดหนุนแน่…เล็งไว้ตัวนึงแล้ว

    มีอะไรถามเพิ่มเติมได้น่ะครับ ยินดีต้อนรับสู้สังคมคนเล่น Harmonica ครับ

  45. สรชา พูดว่า:

    สวัสดีครับ
    ผมตัดสินใจเอา Diatonic ครับ
    แต่มีคนแนะนำดังนี้ครับ (ถ้าผิดกฏหรือเสียมารยาท ลบทิ้งได้เลยนะครับ และขออนุญาตเจ้าของความเห็นนำมาโพสในนี้นะครับ)
    “สำหรับหัดเล่น แนะนำ Suzuki Easy Rider เลยครับราคาถูกที่สุดของซูซูกิ หรือจะเป็นรุ่น สามารถหาซื้อได้ที่ ซอยเวิ้งนครเกษม ร้านธีระมิวสิค(เป็นตัวแทนนำเข้าของ Suzuki) หรือตามร้านเครื่องดนตรีทั่วไปนะครับ(อาจจะมีหรือไม่มี) แนะนำให้ซื้อคีย์ C นะครับ เพราะเป็นคีย์พื้นฐานครับ

    **ถ้าเพิ่งหัดเล่น ไม่แนะนำรุ่นที่สูงกว่านี้นะครับ เพราะอาจเกิดเสียงไม่ตรงได้เนื่องมาจากการเล่น
    ***ฮาร์โมนิก้า มีเทคนิคพิเศษทีเรียกว่า เบนดิ้ง ซึ่งจะใช้การเป่าหรือดูดด้วยเทคนิคพิเศษ ทำให้เสียงเกิดการเปลียนโน้ตทั้งที่ยังเป่า(หรือดูด)ช่องเดิม ฮาร์โมนิก้ารุ่นที่สูงขึ้นจะถูกออกแบบมาให้เบนดิ้งง่าย การเล่นของผู้ที่เพิ่งหัดเล่น อาจจะเบนดิ้งโดยไม่ตั้งใจ ดั้งนั้น ควรใช้รุ่นพื้นฐานก่อนนะครับ เพื่อให้ทราบเสียงแต่ละโน้ตด้วย”

    เลยสับสนนิดหน่อยว่าจะเอา easy rider หรือ Pro master หรือ Hohner marine band crossover ดี
    เรื่องงบไม่ใช่ปัญหาครับ
    ปัญหาคือความยากง่ายในการฝึก ที่จะไม่ทำให้เราเบื่อไปเสียก่อนน่ะครับ

    ปล.ผมอยู่ต่างประเทศน่ะครับ ใช้วิธีฝากเพื่อนซื้แล้วส่งมาให้ครับ
    เลยไม่อยากซื้อบ่อย

    ขอบคุณทั้ง3ท่านมากครับ

  46. japharmonica พูดว่า:

    ขอแวะเข้ามาบ่นก่อนครับ เมื่อคืนนี้อุตส่าห์มี harmonetta ที่เล็งไว้ 

    http://cgi.ebay.de/ws/eBayISAPI.dll?ViewItemnext&item=160537416971.html

    ตามbidอยู่ตั้งแต่ร้อยกว่ายูโร กะว่าได้ของดีราคาถูกแล้ว สุดท้ายมาโดนปาดหน้าเอานาทีสุดท้าย จะตามเพิ่มก็ไม่ทันแล้ว เสียดายมาก ดูสภาพดีกว่าตัวที่เคยมี แถมมีคู่มือให้อีกต่างหาก ต้องรอกันต่อไป (พลาดมาห้าหกครั้งแล้ว แบบนี้ทุกครั้งเลย)

  47. มานะ พูดว่า:

    – ตอบคุณ Yoke สำหรับ Hohner Special 20 ผมค่อนข้างผิดหวัง ผมติดตามใน Internet มีคนแนะนำมาก แต่พอผมได้มาแล้ว ผิดหวังมาก ถ้าอยากจะได้ Comb พลาสติค ผมแนะนำ Suzuki Manji Comb ทำจาก Resin เสียงออกทาง Comb ไม้เหมือน Marine Band หรือไม่ก็ Suzuki Pro Master Comb โลหะเสียงใสดี ไม่สะดวกมาซื้อเอง ติดต่อร้าน ธีระมิวสิค บริการส่ง แต่ที่ร้าน มีสิน ไม่บริการส่ง
    – สำหรับคุณสรชา ผมแนะนำเลือกเฉพาะ Pro Master กับ Marine Band Crossover ผมมีประสบการณ์ซื้อ Harmonica ราคาถูกมาลองเล่น เกือบจะเลิกเล่นไปเลยเพราะมันเล่นยาก ท่านคิดดู ขนาดนักดนตรีเก่ง เขายังหาเครื่องดนตรีคุณภาพสูง Harmonica ราคาไม่สูงนักเมื่อเทียบกับเครื่องดนตรีอื่น Harmonica เล่นได้ไม่ยากนัก ท่านลองฝึกไปสัก 1 เดือน ก็พอเล่นได้ เมื่อท่านมี Harmonica ดีๆ ท่านจะมีความสุขกับ Harmonica ตัวโปรด ผมเองขณะนี้เล่นได้พอสมควรแล้ว ตัวHarmonica ก็ยังมีผลมาก ตัวโปรดของผมตอนนี้ก็ Marine Band Crossover รองลงมา Marine Band Deluxe และ Suzuki Pro Master และ Suzuki Manji ตามลำดับ
    – อยากฝากถาม คุณ Harmonicafe กับคุณ Japharmonica เรื่อง Hohner XB-40 ผมเริ่มสนใ ผมดูข้อมูลแล้วน่าสนใจ ไม่ทราบท่านทั้งสอง มีความเห็นหรือมีข้อมูลเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง ไม่ทราบว่าที่ร้าน มิสินมีหรือเปล่า จะโทรฯ ไปถามวันนี้ ร้านน่าจะปิดตรุษจีน ไม่ทราบว่าคุณ Harmonicafe ผ่านไปเมื่อวันก่อนเห็นผ่าตาหรือไม่

  48. japharmonica พูดว่า:

    บ่นเพลิน ลืมตอบไปเลย

    ขอตอบคุณ yoke ก่อนนะครับ
    Hohner Puck นี่เอาไว้เล่นขำๆครับ ควรจะพอเป็นบ้างถึงจะดี ไม่เหมาะสำหรับหัด เพราะตัวเล็ก หัดเล่นเสียงเดียวยากกว่า แถมลิ้นของมันก็เล็ก ทำให้เล่นหรือ bend ยากกว่า
    ส่วน Piccolo หายากมาก ยังไม่มีโอกาสได้ซื้อเก็บไว้เลย แต่ถ้าหัดใหม่เริ่มจากขนาดปกติดีกว่าครับ ยกเว้นชอบรูปร่างก็ต้อง Hohner  Piccolo หรือ Suzuki Pipe humming หรือถ้าชอบสีสันสวยงามแถมเริ่มต้นง่ายก็ต้อง Suzuki Air wave ครับ กำลังติดใจเลย

    ส่วนถ้าชอบพลาสติก Special 20 ก็เป็นทางเลือกที่ดี เล่นง่าย เสียงดี ถ้าให้แนะนำรุ่นอื่นโดยเทียบกับ special 20 ก็

    Hohner big river เป็นตัวเลียนแบบ Marine band ราคาถูกกว่าเล็กน้อย 
    Hohner pro harp ไม่แนะนำดีกว่า สีดำ ผูัหญิงคงไม่ชอบ เสียงทึบกว่า special 20 เล็กนัอย
    Hohner golden melody งานเนี้ยบ แพงกว่าเล็กน้อย มีสีทองให้เลือกด้วย ถ้าชอบเล่น melody ก็ถือว่าเสียงดีกว่า
    150th Anniversary ถ้าเจอก็แนะนำเลยครับ เป็นพลาสติกใส สวยมาก (เอาแค่ standard ก็พอนะครับ ไม่ต้องถึง gold หรือ chrome มันแพงเกิน) เสียงดีกว่า ค่อนไปทาง marine band กล่องก็สวย เชียร์เลยครับ 
    ส่วนถ้าของ Suzuki ส่วนมากจะเป็นพลาสติกอยู่แล้ว แต่ไม่อยากแนะนำ easy rider เพราะมันถูกสุด เพิ่มเงินอีกเล็กน้อยก็ได้ของดีกว่า ถ้าหารุ่นไหนไม่ไดัก็บอกครับ

  49. japharmonica พูดว่า:

    ตอบคุณสรชาครับ
    ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหนครับ ซื้อเองอาจจะง่ายกว่าส่งจากไทยนะครับ
    ถ้าอยู่อเมริกาหรือยุโรปก็ไปเดินหา Hohner ได้ง่ายเลย หลายรุ่นไม่มีในบ้านเรา จะสั่งทางเน็ตก็ไม่ยากครับ
    ถัาอยู่แถวญี่ปุ่นก็ซื้อ Suzuki หรือ Tombo ก็น่าจะดีกว่า มีให้เลือกเยอะมาก
    เกือบลืมอีกยี่ห้อ Hering ครับ เสียงดีใช้ได้ โดยเฉพาะรุ่น vintage นี่ชอบเป็นพิเศษเลย
    อีกยี่ห้อที่คุณภาพสูง คือ Seydel ครับ แต่แพงครับ
    ถ้าในสามตัวที่ให้เลือก ขอเลือก easy rider ออกก่อนเลยครับ ไม่ประทับใจ ไม่คุ้มราคา

  50. japharmonica พูดว่า:

    เพิ่งเห็นความเห็นของคุณมานะ

    สำหรับ XB-40 เสียงดีเลย ข้อดีคือ bend ง่ายมาก แถมมากกว่าปกติด้วย
    ส่วนข้อเสียคือ bend ง่ายมาก ส่วนตัวยังคุมไม่ค่อยอยู่
    นอกนั้นก็เรื่องขนาดครับ ที่ใหญ่กว่าปกติไปหน่อย
    แต่ที่มีคนบ่นมากก็คือ เสียงสูงเล่นยากไปหน่อย แต่บริษัทก็ตามตลาดครับ เลยทำออกมาแต่ low key ซึ่งปกติแล้วคีย์ C จะเป็นคีย์กลางๆ แต่ของเจ้านี่จะเป็นคีย์สูงสุด เพราะเดิมเขาออกมาแค่ C กับ G พอมีคนบ่นมาก ที่เหลือก็เลยออกแต่คีย์ต่ำ
    สรุปคือดีครับ แต่แนะนำว่าอย่าซื้อคีย์ C ครับ ไว้รอที่บ้านส่งมาก่อน อาจมีคลิปครับ

  51. harmonicafe พูดว่า:

    ที่คุณสรชาพิมพ์มา คือเรื่องของลมล้วนๆ เลยครับ ขออนุญาตไม่เห็นด้วย กับผู้ที่แนะนำดังนี้ครับ
    **ถ้าเพิ่งหัดเล่น ไม่แนะนำรุ่นที่สูงกว่านี้นะครับ เพราะอาจเกิดเสียงไม่ตรงได้เนื่องมาจากการเล่น
    – รุ่นสูงๆ มาตราฐานยิ่งสูงครับ ระดับลมที่ทำให้โน้ตเปลี่ยนจะคงที่ นั้นทำให้เรามีสัมผัสในการควบคุมลมที่ดีในการฝึกหัด ถ้าเล่นปกติไม่มีทางเพี้ยนครับ ถ้าเพี้ยนนั้นคือเราเป่าผิด นี้เป็นข้อดีน่ะครับ ไม่ใช่ข้อเสีย แต่ขอยกเว้นคำอธิบายนี้กับรุ่น XB-40 (เนื่องจากถูกออกแบบ Reed มาเป็นพิเศษ ผมไม่มีอยู่ในมือ ต้องรอคุณ Jap มาอธิบายเพิ่มครับ)

    ***ฮาร์โมนิก้า มีเทคนิคพิเศษทีเรียกว่า เบนดิ้ง ซึ่งจะใช้การเป่าหรือดูดด้วยเทคนิคพิเศษ ทำให้เสียงเกิดการเปลียนโน้ตทั้งที่ยังเป่า(หรือดูด)ช่องเดิม ฮาร์โมนิก้ารุ่นที่สูงขึ้นจะถูกออกแบบมาให้เบนดิ้งง่าย การเล่นของผู้ที่เพิ่งหัดเล่น อาจจะเบนดิ้งโดยไม่ตั้งใจ ดั้งนั้น ควรใช้รุ่นพื้นฐานก่อนนะครับ เพื่อให้ทราบเสียงแต่ละโน้ตด้วย”
    – รุ่นที่สูงขึ้นจะถูกออกแบบมาให้เบนดิ้งง่าย นั้นใช่เลย แต่อยู่ในระดับการใช้ลมที่ระดับหนึ่งซึ่งเป็นมาตรฐานที่เราควรฝึกให้จำให้ได้ Harp ราคาถูกซะอีกที่ใช้ลมในการ Bending ไม่สม่ำเสมอ ทำให้เราต้องปรับลมไปมาอยู่ตลอดยิ่งฝึกได้ช้าครับ

    ที่กล่าวทั้งหมดเป็นประสบการส่วนตัว อาจถูกสำหรับผม แต่ผิดสำหรับผู้อื่น เคารพความเห็นของทุกท่านครับ ขอท่านอื่นเสริมความเห็นด้วยครับ
    อ้อ คุณ Jap จะเอา Harmonetta มาเป่านี่ ผมขอเตือนไว้ก่อนน่ะครับ เพราะเคยดูในคลิปของฝรั่ง คือมันเหมือนคนที่กำลังพยายามเอาเครื่องพิมพ์ดีดยัดใส่ปากตัวเองยังไงยังงั้นเลยครับ 5 5 5 ถ้าถ่ายแล้ว ก่อนเอาขึ้น youtube นี่ต้องคิดให้หนักเลย

  52. มานะ พูดว่า:

    – ผมอ่านคำตอบของคุณ Harmonicafe เมื่อเช้าทำให้ผมงงไปหนึ่งวัน ว่าเอ๊ะทำไมข้อความมันขัดแย้งกัน จนตอนเย็นกลับมาอ่านใหม่ แล้วกลับไปอ่านข้อความของคุณสรชา จึงเข้าใจว่า ข้อความที่อยู่หลัง เครื่องหมาย ** กับ *** คือข้อความที่คุณสรชา Post มา ทำให้มาคิดว่า บางที่เรามักจะตัดสินใจบางเรื่องผิดๆ โดยที่ไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเสียก่อน เมื่อวานก็พบว่าเจ้าหน้าที่ของผม ตีความหนังสือสั่งการไปแบบ ฟ้า กับ เหว เลย ทำให้ผมกลับไปคิดถึง Hohner special 20 ผมกำลังตีความคำแนะนำของผู้อื่นผิดหรือไม่ ผมว่า Hohner special 20 ต้องมีดี ถ้าไม่ดี ทำไมมีคนจำนวนมากแนะนำ เป้าหมายที่คนแนะนำนั้นน่าหมายความว่า Hohner special 20 เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มเล่น Harmonica และเหมาะสำหรับการฝึก Bending แต่ผมกลับนำเอาความชอบส่วนตัวไปใส่ในคำแนะนำ ทำให้ผู้อื่นมองว่า Hohner special 20 ไม่ดี ดังนั้น ผมขอถอนคำตำหนิที่ผมเคยมีต่อ Hohner special 20 ออกทั้งหมด จึงขอเรียนแจ้งท่านผู้อ่านทราบ
    – ผมจะค้นหาความดีของ Hohner special 20 ต่อไป

  53. harmonicafe พูดว่า:

    ข้อความที่จะพิมพ์ต่อไปนี้ เกิดขึ้นเมื่อ 40 กว่าปีแล้วน่ะครับ
    เพราะ Hohner special 20 ออกสู่ท้องตลาดตั้งแต่ปี 1970
    คงต้องนึกภาพย้อนยุคกันพอสมควร

    ข้อดีที่เกิดขึ้นตอนนั้นคือ
    1. ดูแลทำความสะอาดง่าย สำหรับมือใหม่คงมีหลายคนที่เล่นแล้วหมก ไม้ย่อมบวมและรั่ว หรือราขึ้นแน่

    2. แข็งแรงทนทาน เนื่องจากรูปร่างของ Harp ยุคนั้นเป็นแผ่น Cover Plate ตีเป็นปีกแบบ Marine Band ทั้งนั้น ดีไซด์ของ Special 20 นี่แหวกตลาดตอนนั้นเลย

    3. ตัดปัญหาจุกจิกในการผลิตที่เกิดจากไม้

    4. จุดขายใหม่ เนื่องจากยุคนั้นเทคโนโลยี่การ Seal กันน้ำยังไม่เกิดขึ้น สิ่งที่กันน้ำได้ดีในสมัยนั้นก็คือพลาสติค เมื่อเสนอสิ่งใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด ย่อมเป็นการเปิดกว้างขึ้นของยอดขาย (และต่อมาก็พบกันเองว่า พลาสติคไม่ใช่คำตอบสุดท้าย สิ่งใหม่ๆ ก็ถูกเสนอขึ้นมาอีก คือ โลหะ และต่อมาเรื่อยๆ เช่นไม้เนื้อแข็งที่ Seal กันน้ำ จนสุดท้ายที่ไม้ไผ่อัด+seal กันน้ำ และคงมีใหม่ๆ อีกต่อไปเรื่อยๆ)

    จะเห็นว่าประโยชน์แต่ล่ะอย่างสำหรับมือใหม่ และมือหนัก (ฝรั่ง) ทั้งนั้น และจากข้างต้นนั้นเองทำให้ special 20 ถูกใช้เป็นต้นแบบในการ Copy ของยี่ห้ออื่น และขายในราคาที่ถูกกว่า ในขณะที่บริษัท Hohner ก็แตกสายการผลิตรุ่นใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ Special 20 เป็นอย่างไรเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ก็ยังคงเป็นอย่างนั้น (ยกเว้นบรรจุภัณฑ์เปลี่ยนจาก Softcase เป็น Hardcase) ทุกวันนี้ข้อดีต่างๆ ข้างต้น เราจึงสามารถซื้อหาในราคาที่ต่ำมากจากยี่ห้ออื่นๆ (แต่ก็ไม่เนี๊ยบ และขาดความสม่ำเสมอของคุณภาพ)

    ของที่พี่มานะมีอยู่ตอนนี้ มันกลบความเด่นดังเมื่อ 40 ปีที่แล้วไปหมดแล้วครับ เปรียบเหมือนพี่ย้อนเวลาไปเจอ Sex Symbol เมื่อ 40 ปีที่แล้วอย่างมาริลีน มอนโร แล้วเทียบกับ น้องเป้ยบ้านเราก็พอ พี่คงเห็นว่ามาริลีน มอนโรนี่เรียบร้อยพอๆ กับพจมาน สว่างวงศ์ แห่งบ้านทรายทองเลย

    อ้อ XB-40 ที่ร้านมีสิน มีหลายตัวครับราคาติดไว้ที่ 3 พันกว่า 2-3 ร้อย นี่ล่ะไม่แน่ใจ คิดว่าราคาขายคงประมาณ 3 ถ้วน เป็น Diatonic ตัวเดียวของ Hohner ที่ไม่เคยผ่านมือผม (เฉพาะใน List ที่คุณ Jap เคยพิมพ์ไว้น่ะครับ) เลยให้รายละเอียดใดๆ ไม่ได้เลย

    สำหรับคุณ yoke ผมเห็นด้วยกับคุณ Jap ในสองตัวนี้ครับ คือ Golden melody (ถ้าซื้อที่ลัคกี้มิวสิค : 900 บาท จะได้ราคาถูกกว่า Special 20 ที่ร้านมีสิน : 950 บาท) อีกตัวคือ Suzuki Air wave (ราคาในบ้านเราไม่น่าจะเกิน 400 บาท) ตัวนี้ Reed เยี่ยมระดับเดียวกับตัวที่ราคาเกินครึ่งพัน และเหมาะกับคนเล่นแบบ Pucker มาก แต่ต้องรอของนิดนึงกำลังเข้ามาครับ

    ส่วน 150th Anniversary ที่ร้านมีสิน มีครับเหลืออยู่ 100 กว่าตัว (ผมไปสอยมาแล้ว และกะว่าจะไปซื้อมาตุนไว้เพิ่ม เลยสอบถามว่ามีกี่ตัว คือกลัวของหมด พอทางร้านบอกมีร้อยกว่าตัวเลยสบายใจหน่อย) อันนี้สวยจริงๆ (อ้าว คุณ Jap ไหนบอกไม่ชอบสาวทำศัลยกรรมไง 5 5 5 )

  54. Ninenop พูดว่า:

    ขอออกความเห็นด้วยคนครับ

    สำหรับ XB40 ผมมีคีย์ G ครับ bend ง่าย จนควบคุมยาก ในหลายๆครั้งที่ต้องการเป่าโน้ตธรรมดา ก็จะกลายเป็น bend ไปซะแล้ว ตัวใหญ่ไล่ๆโครมาติและก็มีระบบ valve เหมือนกัน คิดว่าโชคดีมากที่ซื้อคีย์ C มา เพราะกลัวเจอปัญหาเป่าโน้ตช่วงๆสูงๆ ช่องท้ายๆเหมือนกัน และเท่าที่ลองเล่นมาก็มีปัญหา valve ติดบ้างเล็กน้อย

    piccolo ผมว่ามันไม่ค่อยต่างจาก puck เท่าไหร่ เล็กไล่ๆกัน แต่เป็นไม้ แล้วก็มีพื้นที่แผ่นทองเหลืองเหลือเยอะเวลาเป่านานจะรู้สึกไม่อร่อยครับ

    golden melody (gold) ผมคิดว่าคุณภาพเสียงใกล้ๆกับ marineband แต่ design โค้งมนเหมาะมือมากเวลาเป่า ผมกลัวสีทองที่มีจะเลือน สุดท้ายก็เลยเก็บลงกล่อง ไว้รอหาสีเงินมาสะสมเพิ่ม

    ผมไม่เคยไปลัคกี้มิวสิคซะทีไม่แน่ใจว่าอยู่ตรงไหน มี golden melody สีเงินด้วยไหมครับ

    marineband รุ่น 150 ปี ทึ่เป็น plastic ใสก็สวยดีนะครับ แต่คิดว่าคุณภาพเสียงก็คงไม่ต่างจาก ตระกูล marineband ตัวอื่นๆเท่าไหร่

  55. harmonicafe พูดว่า:

    ลัคกี้มิวสิค อยู่ตรงข้ามพันทิพย์ ประตูน้ำครับ เยื้องกันนิดๆ
    ที่มีก็ Golden Melody สีเงิน กล่องแดงครับ เดือนนี้มี Lote ใหม่เข้าพอดี แต่ไม่แน่ใจว่าวันไหนครับ ลองโทรสอบถาม (เบอร์อยู่ comment ไหนลองไล่ดู ผมจำไม่ได้แล้ว)

    คุณ Ninenop สะสมจาก ebay หรือที่ไหนครับ มีรุ่นแปลก หรือหายากสุดๆ บ้างไม๊ครับ

  56. Ninenop พูดว่า:

    ผมก็เดินเก็บเอาตามแหล่งขายในกทม.นี่ล่ะครับ
    lucky music นี่ผมนึกออกล่ะ เคยแต่ผ่านไปไม่เคยเข้าเลย ยังนึกว่าเป็น stock ของร้านเดียวกับธีระด้วยซ้ำ

    รุ่นแปลกๆ ผมไม่ค่อยมีครับ ล่าสุดก็ seydel solist 12 ช่อง คีย์ low c สั่งมาเองเลย หาใน ebay มันไม่มี

    แต่สมัยก่อนผมเคยมี yamaha เสียงเดี่ยว 10 กว่าช่อง ที่โน้ต เป่า/ดูด แยกกันนะครับ ทำหายไปตอนย้ายหอ

    แต่ถ้ารุ่นแปลกๆ อย่าง hohner รังผึ้ง ที่คุณ jap สนใจนั้นผมขอผ่านครับ

    ตอนนี้อยากได้อะไหล่ cx12 แบบคุณ harmonicafe บ้างน่ะครับ (โดยเฉพาะ reed แบบ C tenor) ถ้าเจอบน ebay แล้วไม่แพงมากก็ฝากบอกผมด้วยนะครับ

  57. yoke พูดว่า:

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำจากทุกคนมากเลยค่ะ 🙂

    Airwave สีสวยน่ารักถูกใจ เอาตัวนี้มาลองก่อนน่าจะดี แต่ต้องรอของหน่อยนึงสิเนอะ

    แต่ที่ชอบ design สุดๆก็คงเป็น CrossOver แต่ร้านไม่มีจัดส่งซะนี่ (แต่ก็อยากได้แฮะ ไว้เล่น airwave คล่องๆหน่อยแล้วรอดู Fire Breath มาเทียบกับตัวนี้หน่อยดีก่า ^^)

    PS. เมือวานดันเอา Puck ไปเล่นที่ต่างจังหวดแล้วลืมทิ้งไว้ซะนี่ T_T

  58. มานะ พูดว่า:

    – สำหรับปัญหาของคุณ Yoke ผมว่าถ้าคุณ Harmonicafe แวะไปที่ร้าน มีสิน คราวหน้า น่าจะคุยกับทางร้าน ให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดส่งให้ ซึ่งทาง ร้านก็สามารถคิดค่าส่งเพิ่มเติมได้อยู่แล้ว น่าจะทำให้ทางร้านขายสินค้าได้มากขึ้น ในแง่การค้าทางร้านได้ประโยชน์เต็มๆ โดยมีพวกเราช่วยแนะนำทางร้านให้ฟรี ทางร้านเพียงแต่แจ้งหมายเลขบัญชีธนาคารให้พวกเราทราบ เมื่อเราโอนเงินแล้ว ทางร้านค่อยส่งของ ผมว่าเรื่องนี้ ร้านอื่นๆเขาก็ทำกันอยู่แล้ว

  59. yoke พูดว่า:

    อาจเป็นไปได้ว่าเครื่องดนตรีบางอย่างค่อนข้างบอบบางมั๊งคะ ทางไปรษณีย์เค้าก็ไม่ค่อยได้แคร์ของที่เราส่งกันซักเท่าไหร่ เห็นบางทีโยนของขึ้นรถกันโครมๆ เห็นแล้วสยองของพัง ยิ่งเครื่องดนตรีที่มันต้องจูนเสียงหรือมีบางส่วนหักง่าย มันก็ค่อนข้างเสี่ยงกับการใช้บริการไปรษณีย์ว่าลูกค้าจะได้ของไปในสภาพไหน เค้าก็เลยอาจตัดสินใจไม่ส่งของทางนี้ก็ได้มั๊งคะ

  60. harmonicafe พูดว่า:

    เรื่องให้ร้านมีสินจัดส่งไปรษณีย์นี่คงต้องวานคุณ Jap เพราะรู้จักกับลูกชายทางร้านอาจแนะนำกันได้สนิทกว่า

    อีกอย่างหนึ่ง เมื่อคราวที่ไปซื้อครั้งก่อนผมก็ได้คุยเรื่องจัดส่งให้ลูกค้าต่างจังหวัดกับทางเจ้าของร้านเองเลย ก็ยืนยันครับว่าคงไม่ส่งเนื่องจากทางร้านบอกว่า ลำบากในการเช็คยอดโอนเงินจากธนาคาร (ซึ่งความจริงมันง่ายมาก แต่ผมไม่สนิทพอที่จะแนะนำรายละเอียด) คือแกค่อนข้างจะอนุรักษ์นิยม คงต้องแนะนำผ่านทางลูกชายจะเข้าใจได้ง่ายกว่า

    ส่วนเรื่องการขนส่ง เดี๋ยวนี้พัฒนาแล้วครับ ผมไม่เคยได้รับ Harp ชำรุดจากการขนส่งเลยทั้งๆ ที่มันเดินทางมาไกลตั้งครึ่งโลก การหีบห่อด้วยกล่อง+วัสดุกันกระแทกภายนอก+Case ของ Harmonica เอง เอาอยู่ครับ

  61. yoke พูดว่า:

    ฮะๆ ถ้าเป็น Harp เบาๆก็คงไม่น่าเสียหายเพราะมันเบา แต่วันก่อนสั่ง Lens กล้องมาจาก e-bay… Filter เหล็กล้วนๆ บี้ติดเลนส์มาเลยค่ะ ไม่รู้ไปทำอีท่าไหร่มันถึงได้แบนมาได้ขนาดนั้น ยังดีที่เอาเงินคืนได้ แต่ก็ต้องเสียค่าส่งกลับเองอีก T_T

    ช่วงนี้ใครจะไปเดินดูของเล่นๆที่ร้านธีระ ควรเปลี่ยนเป็นอาทิตย์หน้านะคะ เพราะเค้าปิดตรุษจีนกัน วันนี้โทรไปที่ร้านมีเสียงตอบกลับมาว่า เปิดตั้งวันจันทร์แน่ะ

  62. harmonicafe พูดว่า:

    โฮ่…เห็นใจเลยครับ ผมก็เคยโดน (หลอก) ทาง ebay นี่แหละ
    มันเจ็บใจเพราะไม่ใช่เสียเงินอย่างเดียว แต่มันเสียความรู้สึกในการรอด้วย

    นั่งนับวันที่ของจะมา พอได้รับของแกะห่อดูแล้วไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง ใจมันแฟบลงทันตาเห็นเลย

    จะรับทราบไว้ถ้าจะสั่งของที่ละเอียดอ่อนมากๆ ครับ

  63. yoke พูดว่า:

    เจอ Harmonica แปลกๆใน ebay ค่ะ เป็น Diatonic ตั้ง 24 ช่องแน่ะ ไล่เสียงกันยังไงก็ไม่รู้นะเนี่ย ช่องเยอะจัด ใครสนใจลองเข้าไปดูได้นะคะ แต่ไม่รับประกันคุณภาพ ^^

    http://cgi.ebay.com/NEW-HUNTINGTON-DIATONIC-24-HOLE-HARMONICA-KEY-C-/220593134379?pt=LH_DefaultDomain_0&hash=item335c601b2b

  64. Ninenop พูดว่า:

    เท่าที่ดูในรูปซึ่งเห็นแค่ด้านบน ผมคิดว่าเป็นแบบเสียงคู่ธรรมดาและน่าจะผลิตในจีนด้วยซ้ำครับ
    หาซื้อได้ในบ้านเราทั่วๆไป เพียงแค่ว่ายี่ห้อมันสร้างขึ้นมาเอง ไม่น่าจะเป็นที่รู้จักแพร่หลาย
    ไม่ค่อยน่าซื้อเท่าไหร่ครับ

  65. harmonicafe พูดว่า:

    เห็นด้วยคับคุณ Ninenop เพราะผม Search ดูไม่พบแบบอื่น หรือสินค้าตัวอื่นนอกจากแบบนี้แบบเดียว และรูปด้านบนแบบนี้อย่างเดียว แถมบางร้านไม่ระบุว่าเป็น Diatonic ใดๆ คงโฆษณาไปแบบมั่วๆ หรือก็ไม่รู้ แต่ดันใช้ชื่อ Huntington ซึ่งเป็นชื่อ Harmonica Club ที่ค่อนข้างใหญ่ในอเมริกาซะด้วย

    สรุปแล้วเป็นโฆษณาขำๆ ครับ

    อ้อ วันก่อนลืมตอบคุณ Ninenop เรื่อง Plate อะไหล่ของ CX12 ผมเคยเจอมีขายในฮ่องกงครับ (เป็นร้านขายเครื่องดนตรีในฮ่องกงที่มาโฆษณาขายใน ebay) เค้ามาเปิดตัวร้านออนไลน์ พอดีตอนนั้นงบผมหมด เลยไม่ได้ซื้อ แล้วหมดชุดนั้น (ครบทุก Key) ก็ไม่มาขายอีกเลย ผมเลยจำแม่นว่าเป็นร้านในฮ่องกง ก็คิดแต่ในใจว่าถ้าไปจะไปเอามาทั้งชุดเลย…จนถึงวันนี้ยังไม่มีโอกาสได้ไปเลยครับ หลายปีจนจำชื่อร้านก็ไม่ได้แล้ว คิดแต่ว่าฮ่องกงมันไม่ใหญ่หรอก ไปก็คงเจอ 5 5 5

  66. yoke พูดว่า:

    นั่นสิ ดูไงๆก็ไม่น่าจะ Diatonic ถ้ามันใช่จริง เสียงคงแยะพิลึกเลย

    หน้าตาบอกยี่ห้อ…. จีนแดงชัวรฺ์ ^^

  67. Ninenop พูดว่า:

    คุณ harmonicafe ครับ reedplate ครบทุกคีย์นี่มันจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ครับ

    หวังว่าคงจะได้เจออีกซักทีนะครับ ผมจะได้สอยมาด้วยโดยเฉพาะ C Tenor

  68. harmonicafe พูดว่า:

    หลายปีมากแล้วครับ ผมเองก็รอจนเลิกรอไปแล้ว คิดว่าเค้าคงเอาลงเรียกลูกค้า มีบ่อยแต่สินค้ามักไม่ซ้ำกันแล้วแต่จังหวะ และโอกาสของแต่ล่ะเจ้า แต่ล่ะร้าน
    ผมเองเคยได้ Hohner Meisterklasse 3 ตัวจากร้านเครื่องดนตรีมือ 2 ในเยอรมัน และ ProMaster ชุด 5 ตัวใหม่เอี่ยมจากร้านใน Canada ส่วน Plate ของ CX-12 เข้าลงขาย Plate ชุดเดียว แต่แจ้งว่ามีทุก Key แล้วแต่เราจะเลือก หรือต้องการหลาย key ก็สั่งเพิ่มได้ ส่วนราคาผมจำไม่แม่นเท่าไหร่ รู้แต่ว่าถูกมากน่าจะสัก 20-30 เหรียญ ไม่แน่ใจครับ

    ไม่คาดหวังว่าจะมีอีกหรอกครับ ทุกวันนี้ก็ไม่ค่อยได้เข้า ebay เท่าไหร่ (4-5 ปีก่อนนี่เข้าทุกวัน)
    สมัยนี้หายากแล้วครับ คนทำเป็นธุรกืจจนเราเข้าไม่ถึง สู้ราคาไม่ไหวแล้ว นอกจากอาศัยดวงครับ

  69. มานะ พูดว่า:

    – เมื่อวาน ได้เพื่อนเล่น Harmonica เป็นแฟนสาวของเจ้าของร้านกาแฟสด ที่ผมเป็นขาประจำ เห็นผมถือ Harmonica เธอบอกว่า อยากเล่น วันนี้ผมเลยเอา Hohner special 20 ไปให้เธอไว้ฝึกหัด พร้อมกับแนะนำวิธีเล่น บอกเธอว่า ถ้าเล่นเป็นแล้ว ผมจะยกกล่อง Harmonica ที่ผมมีอยู่ไปให้เลือกตัวที่ชอบก่อนสั่งซื้อมาเป็นของตัวเอง ในความคิดของผม ผู้หญิงน่าจะเหมาะกับ Pro Master ช่วงนี้ต้องเป็นพี่เลี้ยงเธอไปก่อน อย่างไรก็ได้เพื่อนเล่น Harmonica อีกคน ให้ Harmonicafe blog กับ Japharmonica blog เธอไปด้วย

  70. harmonicafe พูดว่า:

    ดีใจจังได้เพื่อนอีกหนึ่ง ผมก็ชวนเล่นเพิ่มได้อีกคนนึงครับ…ลูกชายผมเอง…5 5 5 TOT (หัวเราะทั้งน้ำตา)
    แต่ก่อนร่อนชะไร…ไม่เคยได้สนใจเลย ผมเองก็สอนลูกไม่ค่อยจะได้ สอนแล้วทำไม่ได้มันขัดใจชอบกล
    แต่แกมาเห็น Suzuki Airwave ของผมเข้าสิ คว้าหมับเลย (ดีไซน์ สี และวัสดุที่ใช้ทำ มันดึงดูดใจจริงๆ)

    ผมเองก็รู้ตัวว่าเดี๋ยวพอสอนก็ทำไม่ได้อีก…เลยเปิด Blog ของคุณ Jap ให้แกหัดตาม…ไชโย ไชโย…สำเร็จครับ เล่น Love me do ได้จนจบ

    นี่ต้องตะล่อมๆ ให้แกตูไปเรื่อยๆ พยายามไม่สอน ขืนสอนเอง เดี๋ยวเลิกเล่นแน่…

  71. japharmonica พูดว่า:

    ตอบคุณ harmonicafe เรื่องที่จะให้ติดต่อทางร้านมีสินคงต้อขอบายครับ เพราะรู้จักกันในฐานะลูกค้าประจำคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แถมไม่รู้ว่าปีนี้จะได้เข้ากรุงเทพหรือเปล่าก็ยังไม่แน่ใจเลยครับ
    ส่วนเรื่องลูกชาย ขอแสดงความยินดีด้วยครับที่มีผู้สืบทอดความหวังแล้ว บอกแล้วว่า Airwave มันของดีมีคุณภาพครับ

    ตอบคุณ yoke และอีกหลายท่านว่า คำว่า diatonic โดยทั่วไปจะมีความหมายถึงสเกลเมเจอร์หรือไมเนอร์ครับ คือจะมีโน้ตแค่ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด เท่านั้น ซึ่งคำที่ตรงข้ามกันก็คือ chromatic นั่นเอง ดังนั้นถ้าจะว่ากันตามตรงแล้ว tremolo harmonica ควรจะถือว่าเป็น diatonic harmonica ชนิดหนึง เพียงแต่เป็นชนิดลิ้นคู่ (double reeds) ที่ตั้งเสียงให้ต่างกันเล็กน้อย ผลที่ได้จากหลักการของการเกิด beat จะทำให้เกิดเสียงดังสลับค่อยด้วยความถี่หนึ่งๆ เวลาเราได้ยินเสียงจึงเหมือนเล่น tremolo หรือการเล่นโน็ตถี่ๆนั่นเอง (ถ้ายังงง ลองหาคลิป หรือไม่ ถ้ามีกีต้าร์หรือเครื่องสายอื่นๆ ลองตั้งสายให้เพี้ยนเล็กน้อย แล้วลองเล่นโน้ตเดียวกันที่อยู่คนละสายดูครับ) แล้วก็ขอไว้อาลัยให้กับเจ้า puck น้อยที่ต้องมาจากไปก่อนวัยอันควรครับ ว่าจะขอรับบริจาคเสียหน่อย อดเลย

    ตอบคุณ Ninenop เรื่อง reedplate ของ CX-12 ถ้าจำไม่ผิดจะมีไม่ครบ 12 คีย์นะครับ มีแค่ D, Eb, E, F, G, A, Bb, B, C กับ C Tenor ก็คือไม่มีคีย์ Db, F#, Ab ครับ อีกอย่างคือ chromatic ก็เล่นได้ทุกคีย์อยู่แล้ว ความเห็นส่วนตัวว่าไม่ค่อยจำเป็นถ้าจะมีหลายคีย์ ขนาดมีแค่คีย์ C กับ G บางทีสลับกันเล่นยังงงเลยครับ เช่นจะเล่นโน้ตโด ตัวนึงเป่า อีกตัวนึงดูด (สงสัยว่าฝึก ear training มากไปหน่อย) เลยคิดว่าถ้าต้องเสียเงินเพิ่ม สู้หาเวลามาหัดคีย์ต่างๆน่าจะดีกว่า ปรับตัวเองให้เข้ากับเครื่องน่าจะดีกว่าปรับเครื่องให้เข้ากับตัวเอง ความลำบากมีไว้ให้ฝ่าฟัน ไม่ได้ให้หลบเลี่ยง ถ้าให้เลือกซื้อเพิ่ม อาจจะซื้อ C Tenor เพราะเสียงมันต่ำดี แต่เสียงก็เท่ากับรุ่น 16 ช่อง ก็เลยไม่รู้จะซื้อไปทำไมเหมือนกัน ข้อดีที่นึกออกก็มีแค่เรื่องคอร์ดที่หลากหลายกว่าเดิม สรุปคือ ไม่มีเงินซื้อนั่นเองครับ

    ตอบคุณมานะ ในที่สุดก็ค้นหาความดีของ special 20 ได้อีกข้อแล้วครับ

  72. Ninenop พูดว่า:

    คุณ jap ครับ Chromatic นี่ผมเองก็ไม่คิดจะมีหลายคีย์ครับ แต่สำหรับ CX12 นั้นยังอยากได้ C Tenor อยู่
    ถึงแม้ว่าจะมี Super64 เก็บไว้อีกตัว ผมก็ยังอยากได้เสียง C Tenor ของ CX12 อยู่ดีครับ อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวในรุ่นนี้เลย

    แต่ทุกวันนี้ก็ต้องบอกว่ามี Chromatic อยู่ก็เหมือนไม่มีครับ เพราะเป่าแต่โน้ตธรรมดา ไม่ค่อยได้เล่น #,b หรือว่าลองเปลี่ยนคีย์เพลงแต่อย่างใด

    สรุปว่าก็เป็นความชอบส่วนตัวอีกแล้วครับ พอดีช่วงนี้ยังมีตังโบนัสเหลือเล็กน้อยครับ ถ้าหาได้ไม่แพงมากก็อยากมีไว้แต่เท่าๆที คุณ harmonicafe ตอบมาผมคงสิ้นหวังล่ะครับ ไม่งั้นก็คงต้องซื้อ CX12 C Tenor อีกตัวนึ
    งซึ่งคงแพงไป งั้นโครงการนี้คงพับไว้ก่อน หุๆ

  73. harmonicafe พูดว่า:

    อ่านคุณ Jap เขียนแล้ว รู้สึกโดยสัญชาติญาณความเป็นอาจารย์เก่า ขอทายว่าคุณ Jap ทำงานเป็นครูสอนดนตรีใช่ไม๊ครับ (ไม่ได้ตั้งใจล่วงเกินถามเรื่องส่วนตัวน่ะครับ แต่รู้สึกว่ามีบางอย่างในคำตอบ คำอธิบาย เลยอยากทราบว่าสัมผัสผมแม่นไม๊ แค่บอกถูกผิดก็พอครับ ไม่ต้องเฉลยอาชีพก็ได้)

    ส่วนเจ้าลูกชายผมนั้น…อย่าไปคาดหวังอะไรกับแกเลยครับ ผมเลี้ยงแบบอยากเป็น อยากทำอะไร ก็ให้คิด ให้เลือกเอาเอง (คือสมัยนี้มีลูก เลี้ยงลูก อย่าไปหวังอะไรมากเลย ให้เป็นคนดี อย่าเอาเปรียบสังคมก็พอแล้ว)

    สไตล์ความชอบ (เล่น และเก็บ) Harmonica หรือเครื่องเป่าอื่นของคุณ Ninenop นี่เหมือนผมเลย คือซื้อเก็บไว้ก่อน แล้วมาเลือกหยิบเล่นที่หลัง ไม่ได้หมายความว่าต้องซื้อให้ครบหรอกครับ ผมเลยค่อนข้างจะสื่อความหมายได้เข้าใจตรงกันกับคุณ Ninenop เพราะที่แจ้งว่า Plate CX-12 มีทุก Key (ที่มีขาย ไม่ใช่ทุก Key ในระบบที่เครื่องดนตรีอื่นผลิตกัน) ก็หมายถึงจะเลือกเก็บ Key ไหนก็ซื้อ Key นั้น (ถ้าตังค์เหลือ ก็ซื้อเก็บมันทุก Key แหละครับ แต่เชื่อเถอะไม่มีวันมีครบทุก Key หรอก เพราะตังค์ไม่เคยเหลือพอ Key อื่นซะที) แต่ก็หยิบเล่น Key C อย่างเดียวทุกครั้ง เพราะขืนหยิบเล่นทุกตัว…งงตายเลย อย่างคุณ Jap ว่านะแหละ และผมอยากจะทายว่าคุณ Ninenop เล่นตัวไหนบ่อยๆ ก็จะมีตัวนั้นเกินหนึ่งตัวแน่นอน คือเล่นตัวนึง อีกตัวเก็บไว้ (เลยกลายเป็นว่าตัวไหนชอบจะต้องมี 2 ตัวไว้ก่อนแบบผม) ใช่ใม๊ครับ

    และที่อยากได้ C Tenor เหลือเกินเพราะ CX-12 มันไม่มี CX-16 ให้เก็บนั้นเอง (อย่างผมก็เลยไปเก็บ Super 64 X แทน…ดำๆ เหมือนกัน) และสำหรับคุณ Ninenop ถ้าเฉพาะ Plate C Tenor มันหายาก ก็ซื้อมันทั้งตัวแหละครับ ผมเห็นมีเรื่อยๆ แต่ถ้าราคาต่ำๆ นี่ต้องอาศัยดวงบ้าง อย่างไรเตรียมเงินไว้ล่ะกันในราคา 60% ของราคาปกตินี่หาได้ครับ เจอแล้วจะบอก (แต่ตอนนี้ลืมๆ มันไปก่อนน่ะ)

    • Ninenop พูดว่า:

      เป็นแบบที่คุณ harmonicafe บอกจริงๆครับ อย่างน้อยที่ผมมีเก็บไว้ก็ cx12,pro master
      Super 64X เคยมองหาในไทยหาไม่ได้ ก็เลยได้ Super 64 มาแทน เคยลอง bid Super 64X
      ใน ebay แต่ไม่ได้ครับสู้ราคาไม่หว หลังๆพยายามคิดว่าคงไม่ต่างจาก Super 64 เท่าไหร่นัก ก็เลยไม่ได้ดิ้นรนจะไปหามาเก็บเพิ่มครับ ถ้าคุณ harmonicafe มีลองเปรียบเทียบหน่อยได้ไหมครับว่ามันต่างกันแค่ไหน

      ท่านอื่นๆที่ผ่านมาอ่านก็อย่าคิดว่าผมโชว์เหนือ ว่ามีตัวนั้น ตัวโน้น เยอะแยะมากมาย ผมไม่ได้รวยนะครับ ทึ่ซื้อมาก็ซื้อเรื่อยๆในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา บางปีก็ไม่ได้ซื้อเพิ่ม

      แล้วหลายๆตัวที่เป็นรุ่นโปรนั้นผมเองก็ไม่สามารถใช้งานมันอย่างเต็มประสิทธิภาพได้
      การที่จะเล่นได้เก่งๆไม่จำเป็นต้องมีรุ่นท็อปๆไว้เสมอไปครับ อยู่ที่ฝีมือหรือทักษะมากกว่า

      ทักษะการเล่นของผมก็กลางๆครับพอเป่าโน้ตได้ แต่ความพยายามในการสะสมสูงครับขึ้นตามงบประมาณที่พอมีครับผม

  74. harmonicafe พูดว่า:

    แหะ แหะ อาการเดียวกับผม มีรุ่นสูงๆ แต่ไม่รู้หรอกมันดีกว่ารุ่นถัดลงมายังไง 5 5 5

    ผมมี Super 64X (ซื้อมาในราคาถูกกว่า Super 64 ธรรมดาในไทยซะอีก ใหม่เอี่ยมแค่ Eur 100 เองครับ เนื่องจากผมซื้อตั้งแต่ ebay.de เพิ่งเปิดบริการได้ไม่กี่เดือน นับหัวฝรั่งที่มา bid แข่งกับผมได้เลย ) แต่ดันไม่มี Super 64 ธรรมดา เลยเปรียบเทียบให้ไม่ได้ครับ (และคงไม่มีไปอีกนาน เพราะราคาปัจจุบันมันค่อนข้างสูง เอามาก็คงไม่ได้เล่นครับ)

  75. มานะ พูดว่า:

    – ครับก็อย่างที่คุณ Japharmonica บอก ผมค้นหาความดีของ Hohner special 20 ได้อีกข้อ คือใช้เป็นเครื่องมือหาเพื่อนเล่น Harmonica หลังจากนำ Harmonica ไปให้และแนะนำเธอแล้ว ยังไม่ได้ไปติดตามผลงาน เพราะติดอบรม
    – หลังจากเล่นไปเล่นมา ชักจะติดใจ Pro Master มากขึ้น ตอนนี้เลยตัดสินใจไม่ถูกว่า จะไปเอา Key G กับ Key A ของตัวไหนดี ระหว่าง Pro Master กับ Marine Band Deluxe ตัดสินใจยากจริงๆ คืนนี้ต้องตัดสินใจ เพราะพรุ่งนี้หลังอบรม พอมีเวลาไปเสียเงินให้ Harmonica ทั้ง 2 key

  76. harmonicafe พูดว่า:

    ถ้าพี่มานะชอบ Marine Band Deluxe ซื้อแล้วจบก็สอยเลยครับ แต่ผมว่าพี่ต้องลำบากมาตามเก็บ Crossover อีกน่ะสิ มันทับซ้อนแย่งตลาดกันเองพอสมควรน่ะครับสำหรับสองรุ่นนี้ เพราะมีกลุ่มเป้าหมายเดียวกันเลย

    ผมว่าพี่ใช้ ProMaster (ถูกกว่าด้วย) ไปสักพัก แล้วรอ Fire Breath เข้ามาจึงตัดสินใจอีกทีก็ไม่สายน่ะ ผมเองหยุดซื้อชั่วคราวรอ Fire Breath เข้ามาแล้วจะเทียบกับ Crossover อีกครั้งค่อยจัดหนักชุดใหญ่ไปเลย (ระหว่างนี้ต้องรวบรวมปัจจัยไว้รอครับ)

  77. Ninenop พูดว่า:

    วันนี้ผมแอบโดนงานแว้บนึง ไปเดินแถวเวิ้ง เลยแวะไปร้านธีระถามเรื่อง fire breath อึ้งๆ งงๆ กันไปหลายคน
    แต่จับใจความได้ว่ายังไม่มีรุ่นนี้ครับ ผมก็แอบมองตัวอื่นๆอยู่พักนึงแล้วก็ค่อยๆเดินออกมาในตู้มี manji,promaster เยอะทีเดียว แล้วก็เห็นรุ่นอื่นๆบ้าง มีโครมาติกอยู่ 3-4 ตัว คิดๆ และลังเลอยู่ซักพักก็คิดตก (พยายามบอกตัวเองว่ามีหลายตัวแล้วจะเอาไปนอนทับเล่นรึ?) ก็ดับกิเลสได้ เดินออกมานั่งรถเมล์เตรียมเข้างานต่อ โชคดีไปที่ยังไม่เสียตังครับ

  78. harmonicafe พูดว่า:

    ไม่มีใครรู้จักหรอกครับ ขนาดคุณต้อมเองแกยังไม่รู้จักเลย (คนที่ดูแลเรื่อง Harmonica คือคุณต้อมกับพี่สาว แต่ที่รู้จักรุ่นต่างๆ พอสมควรจะมีคุณต้อมคนเดียว) ซึ่งเผอิญคุณต้อมเข้ามาใน Blog นี้ครับ เห็นพวกเราพิมพ์ๆ คุยกันนี่แหละ แกถึงบอกผมว่าจะสั่งเข้ามาให้

    Harmonica กำไรน้อยเมื่อเทียบกับเครื่องดนตรีอื่น บางรุ่นแกก็เชื่อผมสั่งเข้ามา (รุ่น Overdrive) ปรากฎว่ายอดไม่เดินเลย ผมยังรู้สึกผิดอยู่เลยเนื่ย แต่ก็นึกในใจ เมื่อของมันมีคุณภาพ ยังไงซะมันก็ต้องขายได้ เพียงให้คนเล่นรู้จักมันให้ดีพอเท่านั้นแพละ

    ผมรอรุ่น Fire Breath มาเมื่อไหร่ก็ครบล่ะครับสำหรับสาย Acoustic (คือที่เป็นไม้น่ะครับเทียบเป็นสายตามความรู้สึก) ที่จะนำไปเปรียบกับ Hohner แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะมาพร้อม Airwave ในเดือนกพ. นี้รึเปล่า หรือต้องรอ Order ถัดไป

    ผมชอบคุณภาพของ Suzuki มากพอๆ กับ Hohner รุ่นใหม่ๆ (คือชอบมากกว่า Hohner รุ่นเก่าๆ) ยิ่งมาได้ตัวแทนอย่างร้านธีระ ที่แคร์ลูกค้ารายย่อย ทำให้ผมเลือกที่จะใช้ Harmonica ของ Suzuki ครับ ผมอยู่ในวงการธุรกิจราชการมาระยะหนึ่ง ทราบถึงการจัดซื้อเครื่องดนตรีทั้งไทย และสากลว่าตามโรงเรียนต่างๆ ซิกแซกกันอย่างไร ร้านที่ไม่คอยแคร์ลูกค้ารายย่อยเพราะเค้าได้จากการจัดซื้อเหล่านี้เป็นกอบเป็นกำกว่าครับ ผมชอบร้านค้าที่หากินสุจริตตรงไปตรงมา เพราะผมรู้รสชาติการประมูลงานที่ไม่เป็นธรรมมาก่อน จึงต้องเฟดตัวออกจากวงการจัดซื้อของราชการมาอยู่แบบจนๆ (อย่างมีศักดิ์ศรี และสอนลูกได้อย่างเต็มปากเต็มคำ) แค่พอมีพอกินอยู่ทุกวันนี้แหละครับ เดี๋ยวจะออกนอกเรื่องไปกันใหญ่ พักนี้เลือดรักชาติยิ่งเดือดปั๊ด ปั๊ด ปั๊ด อยู่

  79. เหยือกเบียร์ พูดว่า:

    (……..พักนี้เลือดรักชาติยิ่งเดือดปั๊ด ปั๊ด ปั๊ด อยู่) 5555

    งั้นคุณ jap กรุณาจัดเพลง “รักเธอประเทศไทย” ของหรั่ง ให้ด้วยนะครับ

  80. harmonicafe พูดว่า:

    แหม…ขอเพลงนี้แสดงว่าเป็นลูกไทยรักชาติเหมือนกัน 5 5 5

  81. มานะ พูดว่า:

    -คุณ Harmonicafe เดาใจผมถูก เมื่อคืนทำการเปรียบเทียบระหว่าง Marine Band Deluxe กับ Pro Master ตัดสินใจยาก ราคา Pro Master ถูกกว่าเล็กน้อย หากจะเลือก Marine Band Deluxe ก็น่าจะเลือก Crossover มากกว่า แต่ Crossover มีเพียง key C กับ key E อยากจะมี Harmonica ครบ key สัก 1 รุ่น เลยตัดสินใจเลือก Pro Master จะค่อยๆ สะสมให้ครบ key ที่ต้องการ เมื่อไรที่ Crossover มีเข้ามาหลายๆ key ค่อยสะสมต่อ
    -ผมออกจากที่อบรม ที่ รพ.รามาฯ 12.30 น. นั่ง Taxi ไปร้าน มีสิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. ได้ Hohner Golden Melody key C 1 ตัว คุณ Japharmonica คงจะนึกขำผมอยู่ในใจ ไหนบอกว่าจะไม่ซื้อรุ่นนี้ ที่ซื้อเพราะมันคาใจ ติดตามใน Internet หลายคนแนะนำ จึงอยากจะรู้ว่ามันดีอย่างไร เมื่ออยากรู้ก็ต้องลองให้รู้ด้วยตนเอง เห็นตัว Hohner Golden Melody แล้วมีความรู้สึกเหมือนเห็น Hohner special 20 ถึงแม้จะตีตราว่า Made in Germany แต่ผมว่า ทั้ง 2 รุ่นนี้ ไม่น่าจะเป็นสินค้า Made in Germany แท้ๆ ไม่เหมือน Marine Band , Marine Band Deluxe และ Marine Band Crossover ที่น่าจะเป็น Made in Germany แท้ ผมเห็นด้วยกับ คุณ Harmonicafe ที่ว่าคุณภาพการผลิต Hohner สู้ Suzuki ไม่ได้(ยกเว้น ตระกูล Marine Band) คุณภาพของโลหะที่ทำ Cover plate ของ Hohner Golden Melody ดูไม่มีราคาเอาเลย เหมือนของเด็กเล่น Harmonica นอกจากจะเอาไว้เล่นเพลงแล้ว เป็นของสะสมด้วยได้ ดังที่หลายท่านทำอยู่แล้ว ดังนั้นการผลิตน่าจะทำให้น่าสะสมด้วย ผมขอดู Hohner 150th Anniversary ผมว่าสวยสู้ Crossover ไม่ได้ ส่วน Honer XB-40 ผมไม่กล้าขอดูเพราะราคาสูงและก็ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อ กลัวคนขายมองหน้า
    – ผมลองสอบถามเรื่องการสั่งซื้อทางโทรศัพท์ ผู้ขายเป็นผู้หญิงตัวเล็กวัยกลางคน ไม่ใช่คนสาววัยรุ่น บอกว่า สามารถสั่งซื้อทางโทรศัพท์ได้ ทางร้านพร้อมส่งสินค้าให้ทางไปรษณีย์ โดยคิดค่าส่งเพิ่ม สำหรับท่านที่ต้องการสั่ง Harmonica จากร้าน มีสิน ก็ขอให้ติดต่อทางร้านได้
    – ผมออกจากร้าน มีสิน เดินย่ำต๊อก ตามเครื่อง GPRS ไป ร้าน ธีระมิวสิค เพื่อไปเอา Pro Master key A กับ Key E ที่เลือก key E เพราะผมมี Pro Master key C กับ key D จึงต้องการ key ที่สูงขึ้น 1 ตัว จึงเลือก key E จะเอา key F ก็สูงไป
    – ออกจากร้าน ธีระมิวสิค ผมมีนัดไปขึ้นรถที่ โรงแรมทวิน ทาวเวอร์ หลังหัวลำโพง ให้รถคอยอยู่ที่นั่น เครื่อง GPRS รายงานว่าอยู่ห่างจากร้าน ธีระมิวสิค 3.6 กม. ออกมาถนนเจริญกรุง เพื่อขึ้นรถ Taxi เห็นรถเต็มถนนไปหมด เคลื่อนตัว ด้วยความเร็มเท่าๆ กับผมดิน จึงตัดสินใจ เดินชมกรุงดีกว่า คำนวนแล้ว สามารถไปถึง โรงแรม ทวิน ทาวเวอร์ ทันเวลาแน่นอน สุดท้ายก็เดินตามเครื่อง GPRS มาถึง โรงแรม ทวิน ทาวเวอร์ ก่อนเวลานัด 10 นาที ก็ถือว่า เป็นการออกกำลังกายไปในตัว เย็นนี้ก็ไม่ต้องวิ่งออกกำลังกาย ผมวิ่งออกกำลังกายทุกวัน วันละ 30 นาที ก็ได้ระยะทางประมาณ 4 กม. ออกจาก โรงแรม ทวิน ทาวเวอร์ กว่าจะวนรถมาขึ้นทางด่วน ใช้เวลาไปพอสมควร นี่แหละกรุงเทพฯ เมืองไม่น่าอยู่ ขอลากลับหนองแคก่อน เมื่อขึ้นทางด่วนได้ รถวิ่งถึงหนองแค ระยะทางประมาณ 80 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. เท่ากับเวลาที่ผมนั่ง Taxi จาก รพ.รามาฯ ไปถึงร้าน มีสิน ซึ่งมีระยะทางประมาณ 4 กม.

  82. harmonicafe พูดว่า:

    ขำพี่ตรงกลัวคนขายมองหน้า หุ หุ หุ
    เวลาผมไปร้านนี้ ผมก็กลัวเหมือนกัน 5 5 5 (แต่พักหลังดีขึ้น คือมองแล้วมียิ้มให้ด้วย)

  83. มานะ พูดว่า:

    – ออกนอกเรื่อง Harmonica ไปเรื่อง Corruption ในระบบราชการเพื่อระบายความรู้สึกตามคุณ Harmonicafe ผมว่าเรายังมอง Corruption ผิวเผินเกินไป ความจริง มีอะไรมากกว่าการเรียกผลประโยชน์จากการจัดซื้อ หรือการประมูลงาน การ Corruption ในความหมายของผมคือการเบียดบังผลประโยชน์ที่ รัฐ ควรได้ไป ยกตัวอย่าง
    – ข้าราชการเงินเดือน 20,000 บาท แต่ทำงานได้ผลงานไม่ถึง 20,000 บาท ข้าชการท่านนี้ก็ Corruption แล้ว
    – พนักงานขับรถ หากขับรถด้วยความเร็ว 90 กม./ชม. รถจะกินน้ำมัน กม. ละ 2 บาท แต่พนักงานขับรถที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ทำให้รถกินน้ำมัน กม. ละ 3 บาท พนักงานขับรถก็ Corruption เช่นกัน
    – ข้าราชการเปิดเครื่องปรับอากาศโดยตั้งอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศา ทำให้ รัฐ ต้องจ่ายค่าไฟ มากกว่าที่ควรจะเป็น อันนี้ก็ Corruption
    – ข้าราชการ มัวแต่ไปเดินตามก้นนักการเมือง เพื่อหวังตำแหน่ง จนไม่ได้ทำงานในหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ก็ Corruption เช่นกัน
    – คุณ Harmonicafe ทำถูกต้อง ที่เดินออกห่างระบบการ Corruption ของราชการ เงินเหล่านี้ได้มาก็ไม่ยั่งยืน มีเศรษฐี แถวบ้านผม แกรวยมาจากการโกงข้างชาวนา เดี๋ยวนี้ ลูกหลานหมดเนื้อหมดตัว ยิ่งการโกง หลวง แล้ว บาปกรรมมากกว่าโกงชาวบ้าน ผมเคยว่าจ้าง ร้านค้ามาเปลี่ยนสาย Main ไฟฟ้า จำนวน 60,000 บาท เมื่อเสร็จงาน ผมก็สั่งจ่ายเงิน จำนวน 60,000 บาท ให้ผู้รับจ้าง หลังจากรับเงินไปแล้ว ผู้รับจ้างนำเงินมาให้ผม 10,000 บาท ผมถามว่าเงินอะไร เขาตอบว่า เงินของผม ผมจึงอบรมเขาว่า ต่อไปคุณอย่าทำอย่างนี้ คุณควรจะเสนอราคาที่ให้ รัฐ ประหยัดที่สุด ไม่ควรทำอย่างนี้ แต่ผมก็รับเงินเขาไว้ แล้วนำไปเข้าเงินสวัสดิการของหน่วยงาน เพราะเป็นเงินที่เขาคิดเกินไป ตั้งแต่นั้นก็เลยไม่มีใครกล้าทำอย่างนี้อีก
    – การ Corruption ทำได้ง่ายมาก ทำได้ทุกขั้นตอนตั้งแต่ การจัดซื้อ การตรวจรับ จนถึงการจ่ายเงิน และสามารถทำได้ โดยที่ไม่สามารถจับได้ เพราะมันเป็นระบบที่ผู้ขอ และ ผู้รับ ได้ประโยชน์ด้วยกัน ใครอยากตกนรกก็ปล่อยเขาเถอะครับ เราอย่าไปตกนรกไปร่วมกับเขาเลย
    – ผมเคยอ่านประวัติ ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ ท่านเป็นบุคคลที่ควรเอาเป็นตัวอย่าง แม้ท่านจะเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ท่านก็ใช้รถส่วนตัวคันเก่าๆ มีความเป็นอยู่เหมือนคนทั่วไป ไม่ได้ฟุ้งเฟ้อ ท่านบอกว่าความต้องการของท่าน 1. เมื่อเป็นเด็ก ต้องการให้ รัฐ ดูแลให้ได้รับการศึกษา สูงที่สุดเท่าที่ความสามารถทำได้ 2. เมื่อเรียนจบ ก็ขอให้มีงานทำ ให้สามารถเลี้ยงชีพได้ 3. ยินดีที่จะจ่ายภาษีให้แก่ รัฐ ตาม กฎหมายกำหนด 4. เมื่อมีครอบครัว จะดูแลให้ลูกๆได้รับการศึกษาและมีงานทำเลื้ยงชีพตนเองได้ 5. เมื่อแก่ รัฐ ต้องเลี้ยงดูตามอัตตะภาพ 6. เมื่อตายจะบริจาคทรัพย์สินที่เหลืออยู่ให้แก่องค์กรการกุศล จะไม่ยกมรดกให้ลูก ลูกทุกคนต้องทำมาหากินเอง
    – ผมว่าข้าราชการ น่าเอาอย่าง ดร.ป๋วย
    – ที่น่ากลัวคือ เด็กรุ่นใหม่กลับมองเห็นว่า Corruption ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ทั้งนี้เพราะเด็กรุ่นนี้จำนวนมาก ได้รับความสะดวกสบายจากการ Corruption ของพ่อ แม่

  84. harmonicafe พูดว่า:

    ความจริงกำลังเรียบเรียงเรื่องใหม่ที่จะลง Blog ก็พอดีพี่มานะลง Comment เรื่อง Corruption ซึ่งเป็นเรื่องทีผม่สงสารสังคมไทยเป็นที่สุด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แม้แต่คนที่จะคิดแบบเดียวกับผมก็แทบจะไม่มี หรือถ้ามีเขาก็คงทำแบบผม คือหนีห่างออกมาจากมัน ซึ่งเท่ากับลดบทบาทตัวเองไปโดยปริยาย

    ที่ผมว่า คนที่คิดอย่างผมก็แทบไม่มี ก็อย่างที่พี่บอกคือไม่ใช่เฉพาะเด็กรุ่นใหม่หรอกครับ คนรุ่นเดียวกับเรา และก่อนเราด้วยซ้ำที่เห็นเป็นเรื่องปกติกันไปทั้งสังคมแล้ว ผมเจอกับตัวเองตอนออกจากงานประจำมาทำธุรกิจส่วนตัวด้านสิ่งพิมพ์ ก็วิ่งงานทั้งเอกชน และราชการ หน่วยงานราชการที่เจอก็ไม่ใช่จะเลวร้ายไปทุกที (แต่ดีน้อยครับ) แค่ผมจะดำเนินธุรกิจโดยไม่มีใต้โต๊ะเลยก็แทบจะเป็นไม่ได้ เพราะเมื่อมีการแข่งขันถ้าต้องให้ใต้โต๊ะ ผมไม่ทำก็ไม่ได้งาน ขณะที่คู่แข่งผมทำ และฟันกำไรไปมหาศาล (จากเงินภาษีของเรา) ก็ไปสู้กันที่หน่วยงานอื่นถ้าเป็นอย่างเดิมอีก ผมก็ไม่ได้อีก คู่แข่งก็รับเนื้อๆ ไปอีก จนมาถึงหน่วยงานที่ผู้รับผิดชอบการจัดซื้อไม่ทุจริตสู้กันที่ราคาล้วนๆ ที่ผมเจอคือคู่แข่งเสนอราคาแบบขาดทุนมหาศาลเพิ่อจะเอางาน (คือไม่ให้เราได้งาน) เค้าทำได้เพราะเค้าตุนกำไรจากงานที่ผ่านๆ มา และกะจะฆ่าคู่แข่งอื่นที่เป็นรายเล็กๆ หรือที่เป็นแบบผม…สรุปคือผมดำเนินธุกิจอยู่ได้เพียงจากงานเอกชนเท่านั้น

    และจากหน่วยงานหนึ่งที่ทำให้ผมเลิกวิ่งหางานราชการเลยคือ หนึ่งในวิทยาลัยสงฆ์ (จากที่มีสองแห่งในเมืองไทย) เป็นการจัดพิมพ์ตำราเรียน ผมช็อคเลยเมื่อท่านอาจารย์กระซิบให้เสนอราคาเพิ่มจากที่ผมยื่นไปอีก 40 % (เป็นการจัดซื้อวิธีพิเศษไม่ต้องแข่งกัน…ไอ้วิธีนี้แหละรูโหว่เบ่อเร้อในระบบราชการ) ผมมานอนคิดอยู่หลายวันว่านี่คือจุดเปลี่ยนของชิวิตเลย ถ้าทำผมจะได้งานจากที่นี่ไปตลอดชิวิตเลยก็ว่าได้ (เงินต่อเงิน Conection ต่อ Conection ไปเรื่อยๆ) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ไม่มีใครเพ่งเล็งซะด้วย กินกันนิ่มๆ จนเป็นเจ้าพ่อตำราเรียนเลยล่ะ ผมไปปรึกษากับรุ่นพี่ที่เป็นเจ้าของโรงพิมพ์แห่งหนึ่ง แกบอกเลยว่าเรื่องแค่นี้แทบไม่ต้องคิด ถ้าทำไม่ได้ก็เลิกซะอย่ามาหากินด้านนี้เลย (ผมถึงบอกไงครับว่าคนที่คิดแบบผมแทบไม่มี) สรุปคือผมอายตัวเอง และคิดว่าถ้าต้องดำรงค์ชิวิตอยู่ด้วยการหาเงินแบบนี้ ผมจะสั่งสอนลูกผมให้เป็นตนดี อย่าเอาเปรียบสังคมได้อย่างไรเมื่อเราเองก็ทำไม่ได้ (ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกันกับที่พ่อแม่ผมทำ และสั่งสอนผมมา)

    สรุปคือก็อยู่แบบจนๆ พอมีพอกินพอส่งลูกเรียน แต่ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรให้ มีให้แค่ปัจจัยสี่ อย่างอื่นไปหาเลี้ยงชิวิตเอาเอง (ในอนาคต) แต่ผมเชื่อกฎแห่งกรรมครับ แค่นี้เองสั้นๆ (แม้ว่าอาจารย์ท่านนั้นท่านจะสุดรวย มีเงินเปิดรีสอร์ทอยู่ที่จันทรบุรี และจบชิวิตราชการอย่างสวยหรูก็ตาม)

  85. yoke พูดว่า:

    ฝากป๊ะป๋าไปซื้อ Crossover มาแล้วค่ะ แต่ช่องที่ 2 เสียงดูดมันเสียอะ เลยต้องส่งไปเปลี่ยน
    พอเค้าส่งกลับมาอีกตัวก็เหมือนเดิมอีก ทางร้านเลยบอกว่าคงต้องไปเลือกทีละตัวเอาเลยที่ร้านแล้วละ ไม่รู้ว่าเป็นทั้ง lot หรือเปล่า (เห็นหมายเลขตัวที่ส่งไป กับตัวที่กลับมามันเหมือนกัน เพียงแต่คนละตัว เพราะตำหนิมันต่างกัน)

    โอ้ว ไกลชะมัด แต่คงต้องไปจริงๆสินะนี่ T_T

    แต่ร้านมีสินค้่ารับผิดชอบดีนะคะ เสียก็ส่งตัวใหม่มาให้เปลี่ยนเลย เพียงแต่มันเครื่องเป่าละนะ เค้าคงไม่ test ให้ ไม่งั้นลูกค้าคงไม่ชอบใจซักเท่าไหร่

  86. harmonicafe พูดว่า:

    ตอบคุณ yoke ที่ช่องสองต้องใช้ลมพอดีๆ ครับไม่น่าจะเสียหรอก เป็นแทบทุกตัว ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นครับ

    ช่องนี้พิเศษ ผมเคยแนะนำใครไม่ไม่ทราบแล้ว ต้องใช้ลมร้อน (ลองทำเสียง Ha Ha ดูครับ) อย่าใช้ลมเย็น (ลมเป่า) ลองไล่ลมจากค่อยๆ แล้วเพิ่มขึ้น ถ้าเริ่มเพี้ยนก็ลดลมลง แล้วจำไว้เลยครับให้ใช้ลมเท่านั้นพอ

    ลองดูจาก Blog ตุณ Jap ก็ได้รู้สึกคุณ Jap จะอธิบายอีกวิธีที่ต่างจากผม ลองดูครับถนัดอย่างไหนก็ใช้อย่างนั้น

    (คงต้องรีบขึ้นเรื่องใหม่แล้ว Comment เยอะจนโหลดหัวข้อช้ามาก เรียกจะไม่ขึ้นแล้ว…หรือ Net เรามันช้าหว่า)

  87. yoke พูดว่า:

    อ้าว ช่องสองต้องใช้ลมต่างจากช่องอื่นเหรอคะ
    หรือที่ร้านเค้าก็ไม่รู้เหมือนกันเนี่ย เค้าก็บอกว่าเสียเหมือนกัน ตัวที่ส่งกลับไป ??

    หวา ต้องโทรไปบอกเค้ามั๊ยเนี่ย …

    ต้องใช้ลมเบาๆจริงๆด้วย ขอบคุณที่แนะนำค่ะ ^^

  88. harmonicafe พูดว่า:

    ตามโครงสร้างของ reed ช่อง 2 ต้องผลิตให้ได้ 3 (half) step เสียง และแบบพอดีเป่ะๆ ซะด้วย ผมว่ามันเป็นลักษณะทางโครงสร้างที่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้น ตอนเล่นใหม่ๆ ผมก็นึกว่ามันเสีย (เลยซื้อใหม่เสียหลายตัว หลายยี่ห้อ ตกกะไดพลอยโจนเลยสะสมมันซะเลย)

    แต่แปลกที่ช่อง 3 ก็ต้องผลิตให้ได้ 4 (half) step เสียง กลับอาการไม่หนักเหมือนช่อง 2

    ร้านเค้าไม่รู้หรอกครับ และคงไม่ต้องไปบอกเค้าก็ได้มั๊ง ผมว่าอย่างไรก็ขายหมดอยู่แล้วล่ะครับรุ่นนี้

  89. มานะ พูดว่า:

    – ผมก็เหมือนคุณ Yoke ตอนแรกที่เล่น ก็คิดว่า Harmonica ช่องดูด 2 เสีย ผมลงทุน แกะ Cover plate ของ Suzuki Manji ออกมาดู ก็ไม่พบความผิดปกติ ก็ปรึกษา คุณ Harmoniafe จึงทราบว่าเป็นเรื่องปกติของ ช่อง ดูดที่ 2 ของ Harmonica key C ทุกตัว ทุกรุ่น รู้สึกว่า key อื่นก็มีเหมือนกัน แต่คนละช่อง จำไม่ได้ว่า key ไหน ช่องไหน
    – ทำตามที่คุณ Harmonicafe แนะนำ แต่อย่าลืม อม Harmonica ให้ลึกๆ(แต่ยังเป่า Single note ได้) ใช้ลมจากท้อง ค่อยๆดูด อย่าแรงเกินไป

  90. มานะ พูดว่า:

    – เมื่อวานแวะไปกินกาแฟสด และเยี่ยมติดตามผลงาน เพื่อน Harmonica รายใหม่ ด้วยความที่ผมเป็นผู้แนะนำมือใหม่ จึงไม่ได้อธิบายรายละเอียดให้ครบถ้วน เธอจึงไม่รู้ว่า Harmonica ดูดก็เกิดเสียงได้ ก็แนะนำเธอต่อเรื่องการคาบ Harmonica กับการเป่า Single note ดูเธอตั้งอกตั้งใจดี ครั้งต่อไปจะแนะนำเธอไล่เสียง Note ก็ไม่รู้ว่าพี่เลี้ยงคนนี้จะแนะนำเธอได้เท่าไร ก็จะพยายาม ทักษะความเป็นครูน้อยไปหน่อย ทั้งที่มีภรรยาเป็นครู

  91. มานะ พูดว่า:

    – ผมย้อนกลับมาดู Clip ข้างบน คงต้องขอถอนที่กล่าวว่า “Diatonic เสียงเพราะกว่า Tremolo และ Chromatic” จริงอย่างที่คุณ Harmonicafe กับคุณ Japharmonica กล่าไว้ คนที่เล่นเก่งแล้ว Harmonica แบบไหนก็เล่นได้เพราะเหมือนกัน สำหรับผม เล่น Chromatic ไม่ได้เรื่องเลย เพราะ ขาดการฝึกฝน Tremolo พอไหว แต่จับ Diatonic มากกว่าเลยคุ้นกับ Diatonic

  92. harmonicafe พูดว่า:

    อยู่ที่อารมณ์เราในขณะนั้นมากกว่าครับพี่มานะ บางครั้งผมก็ชอบ Diatonic มากกว่า Chromatic ค่าที่มันช่างไหลลื่นหูเสียเหลือเกิน
    แต่ความชอบส่วนตัว ผมชอบฟัง Jazz มากกว่า Blues ก็เลยมักกลับมาฟัง Chromatic อยู่เสมอๆ
    ขออย่างเดียวคนเล่นเก่งจริงๆ ฟังยังไงก็เพราะครับ ก็เลยหนักไปทางฟังมากกว่าเล่นเอง เพราะเล่นเองออกไปทางเป็ด คือเล่นมันทุกอย่างแต่ไม่เพราะสักอย่าง (ผมว่าที่พี่ไม่ชอบ Chromatic ช่วงแรก เพราะมาฟังที่ผมเล่นใน Clip ล่ะมั๊ง 5 5 5)

    แต่ก็มีอยู่อย่างที่ไม่ชอบเลย ทั้งฟัง และเล่น คือ Beat Box ผมว่ามันแปลกหูดีเฉพาะครั้งแรก แต่ฟังบ่อยๆ แล้วทรมานยังไงไม่รู้ (อันนี้ความรู้สึกส่วนตัวมากๆ ครับ) หรือผมแก่เกินไปแล้วก็เป็นได้ ปู๊ด ปู๊ด กะฉึก กะฉึก อะไรก็ไม่รู้ ผมว่าคนเล่นก็ทรมานไม่แพ้คนฟังเหมือนกัน 5 5 5 (แต่ลูกผมกับน้องแฟนว่าสนุกดี ก็ว่ากันไป)

    Marine Band Full Concert รอนิดน่ะครับพี่ กำลังทำความคุ้นเคย คือเล่นไป เล่นมา มันทำได้ทั้งเสียง Diatonic สลับกับ Tremolo ก็เลยทำให้เพลงมีลูกเล่นเพิ่มขึ้น แต่ยังคุมมันไม่ได้ดังใจนึก จะให้ออก Diatonic ก็ดันออก Tremolo พอจะทำเสียงประสานแบบ Tremolo ดันออกเสียงเดียวแบบ Diatonic แต่ก็น่าสนุกดีครับ

  93. อ่านแล้วได้ความรู้ดี เพราะบางสิ่งบางอย่างเราไม่รู้ ชอบเล่น แต่เล่นไม่เก่ง ชอบสะสมมากกว่าเพราะว่ามันสวยดี พยายามเก็บตัวที่ชอบและรู้สึกว่ามันมีคุณค่า ตอนนี้ก็มี crossover, XB-40, Hohner Chromonica รุ่นเก่า, Sedel รุ่นSingatures “Mungo Jerry”, Hohner3225 deuce & a quarter ตัวนี้ reed plates หนา 2.25 มม., GLH, proharps, Silver Star, Golden Cup, และกำลังจะหา B-Radical ของ Harrison (ของ U.S.A. made)อยู่ (ท่านใดมี หรือที่ไหนมีขายช่วยบอกด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง)

  94. harmonicafe พูดว่า:

    ดีใจครับ ได้รู้จักคนชอบ Harmonica เหมือนกันเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน
    เคยสนใจ B-Radical เหมือนกัน แ่ต่คิวยาวและราคาสูงไป (ไม่) หน่อย
    และมาคิดว่าถ้ามีก็คงไม่กล้าหยิบมาเล่น ต้องเอาขึ้นหิ้งแน่ ก็เลยเลิกสนใจไป
    ถ้าคุณแม้นศิลป์ได้มา ถ่ายรูปแบบชัดๆ มาให้ชมกันบ้างน่ะครับ

    เพิ่งสังเกตุว่าที่คุณแม้นศิลป์สะสมมีแต่ Harp สายยุโรป ไม่ลองของญี่ปุ่นดูบ้างล่ะครับ
    ตัวผมเองก็สะสม Harp ของยุโรปมาตลอดช่วง 10 กว่าปีแรก ไม่มองของญี่ปุ่นเลย
    จนถึงจุดหนึ่งที่อยากจะหาความแตกต่างที่แปลกใหม่จึงลองของเอเชียใกล้ๆ บ้านเราบ้าง
    ต้องตกใจเลยครับ…คุณภาพไม่แพ้ของยุโรปเลย (และผมกล้าบอกว่าดีกว่าด้วย เพราะผมมีของทั้ง Hohner และ Seydel (เฉพาะ Chromatic เมื่อก่อนเป็น BandMaster) Innovative แบบ XB-40 อาจจะสู้ไม่ได้ (แต่ XB-40 ก็มีปัญหามากในตัวมันเองผมลองแล้วเกือบทุก Key จะ work ใน Key เสียงต่ำๆ เท่านั้น) แต่ก็มาทดแทนด้วย Idea ง่ายๆ แบบ Overdrive (แต่เสียงของ XB-40 นี้ยอมรับว่า Hohner Sound จริงๆ ครับ จะแตกต่างกับ Overdrive มากๆ ถ้าชอบ XB-40 ที่เสียงนี้ก็คงหาตัวอื่นมาแทนไม่ได้ แต่ถ้าชอบที่การผลิตเสียงได้มากๆ ล่ะก็แนะนำให้ลอง Overdrive ดูครับ)

    บางครั้งเราก็นึกถึงแต่คุณค่าของ Innovative แต่มองข้ามความเรียบง่ายของ Idea เคยอ่านเรื่องเกี่ยวกับ Innovative ของการสร้างปากกาที่ใช้ในสภาวะไร้แรงดึงดูดในยานอวกาศ (ถ้าไม่มีแรงดึงดูดหมึกในไส้ปากกาจะไม่เดินก็เขียนไม่ติด) อเมริกาทุ่มทุนไปเป็นล้านๆ เหรียญ ได้ปากกาเทอะทะมาหนึ่งด้าม แต่รัสเซียบอกก็แค่ใช้ดินสอก็เขียนได้แล้ว…จบ

  95. Yokeza พูดว่า:

    อยากถามว่าบริษัทธีระมิวสิค กับ ร้านมีสิน เค้ามีบริการส่งไปรษณีย์มาให้ไหมค่ะคือไม่ค่อยสะดวกไปซื้ออะค่ะพอดีอยู่ต่างจังหวัด

  96. harmonicafe พูดว่า:

    มีทั้งสองร้านครับ ลองโทรสอบถามดู ก็จะเป็นค่าเครื่องดนตรี+ค่าส่ง แล้วแต่จะตกลงกับทางร้านครับ

  97. Repel พูดว่า:

    สวัสดีคับ ผมพึ่งจะเริ่มหัดเป่า ผมว่าจะซื้อ crossover ซักตัวดีใหมครับ
    พึ่งโทรไป ถามร้านมีสิน เค้าบอก ของอีกสองวันมาลง แต่ราคา 1900+ หน่ะครับ

  98. harmonicafe พูดว่า:

    ตัวนี้ที่สุดของสายแล้วครับ คุณภาพยอดเยี่ยม เพียงแต่ราคาสูงสักหน่อย
    ถ้ามั่นใจว่าเอาจริงแน่ก็คุมค่ากับเงินที่จ่ายไปครับ

    แต่ถ้ายังไม่มั่นใจในตัวเองนัก… ราคาพันต้นก็ยังมีอีกหลายรุ่น หลาย Brand น่ะครับ
    ถ้าตัดสินใจเอาแน่… ราคาที่บอกมายังน่าจะลดได้อีก… ลองต่อรองราคากับทางร้านดูครับ (เพราะ Lote หลังๆ ค่าเงินบาทเราแข็งมากครับ)

    • Repel พูดว่า:

      ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ เดี๋ยวจะมีอีกตาม มาเป็นกองเลยหละ ครับ 555
      ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ : )

ส่งความเห็นที่ มานะ ยกเลิกการตอบ