เล่นโน้ตกันได้อย่างไร

Posted: สิงหาคม 3, 2010 in เพิ่มพูนทักษะ

Credit : คุณ JapHarmonica แห่ง

http://www.acousticthai.net/community/showthread.php?tid=6753

Update 02/01/54 : คุณ Jap ทำ Blog แล้ว เข้าเยี่ยมชมได้เลยครับ

http://japharmonica.wordpress.com/


หลังจากที่เลือกชนิดได้แล้ว วันนี้มาต่อกันดีกว่า ว่ามันจะเล่นโน้ตกันได้อย่างไร

harmonica ส่วนใหญ่จะเล่นโดยใช้ทั้งการ เป่า และ ดูด ผิดกับเครื่องดนตรีอื่น ที่จะเป่าอย่างเดียว

โน้ตปกติที่เราคุ้นเคยกันก็คือ
โด เร มี ฟา ซอล ลา ที

หรือบางคนก็เรียกเป็น
C D E F G A B
ซึ่ง C=โด D=เร E=มี F=ฟา G=ซอล A=ลา B=ที

มาตรฐานจึงให้เล่นโน้ต เป่า สลับกับ ดูด
ก็เลยให้ โด มี ซอล เล่นโดยการเป่า
ส่วน เร ฟา ลา เล่นโดยการดูด
คราวนี้ก็เหลือ ที ชึ่งก็ให้เล่นโดยการดูดเหมือนกัน โด รอบใหม่จะได้เริ่มเป่าใหม่

มาเริ่มจาก tremolo harmonica กันก่อน เอารูปมาจาก suzuki เหมือนเดิม

ช่วงกลาง (middle octave) ก็จะเรียงกันสวยงาม
C d E f G a C b
(
ตัวใหญ่=เป่า ตัวเล็ก=ดูด)
จะมีสลับก็แค่ ทีโด

แต่ต้องระวังในช่วงเสียงต่ำสูง มันก็จะเยื้องกันเล็กน้อย ตามภาพ เพราะมันดูดมากกว่าเป่านั่นเอง

ข้อดีของการเรียงโน้ตแบบนี้ก็คือ จะได้ไม่สับสนกับการเป่าดูด ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นว่า เล่น โด เดี๋ยวก็เป่า เดี๋ยวก็ดูด งงตายเลย
ข้อดีอีกอย่างของการสลับโน้ตก็คือ ถ้าเป่า ไม่ว่าจะตรงไหน ก็จะได้เสียง โด มี ซอล ชึ่งถ้ามีพื้นมาบ้างก็จะรู้ว่า มันคือ คอร์ด C Major ชึ่งจะตรงกับ key ของ harmonica นั่นเอง ทำให้ เล่นยังไง ก็เพี้ยนยาก

มาดูที่ diatonic harmonica กันบ้าง

ดูตรง key C แล้วกันนะ ก็จะเห็นว่า ช่อง 4-7 ก็จะเรียงเหมือนกัน Cd Ef Ga Cb ง่ายดี
แต่พอช่วงเสียงสูง ก็จะเยื้องเล็กน้อย โดนจะตัดเสียง ที ออกไป เป็น dE fG aC
ส่วนตรงเสียงต่ำ ก็จะตัด ลา ออกไป แถมเอา ซอล มาแทนฟาด้วย แบบนี้ Cd Eg Gb

แล้วทำไมต้องทำแบบนี้ ก็คนคิดที่ชื่อ Richter เค้าต้องการให้เวลาดูดช่วงเสียงต่ำเป็น (เร) ซอล ที เร ซึ่งก็คือ คอร์ด G Major นั่นเอง แถมถ้าเพิ่มเสียงฟาจากช่องที่5 คราวนี้ก็จะกลายเป็น คอร์ด G7 เลย OHHHHH GODDDDD

สุดท้าย มาดูที่ chromatic harmonica

ก็เล่นง่ายๆเลย ไม่ต้องคิดมาก Cd Ef Ga Cb แล้วก็ให้ C มันซ้ำกันไปเลย จะได้เล่นง่ายขึ้น
แต่ก็จะมีปุ่มกดด้านข้าง ทำให้เสียงสูงขึ้นมาครึ่งเสียง หรือที่เรียกว่า sharp นั่นเอง

 

 

สำหรับมือใหม่ ก็แนะนำ tremolo หรือ diatonic harmonica

โดยให้เลือกที่ตรงกลางเป็นพลาสติก จะเล่นง่ายสุด
(
มันจะมีทั้ง พลาสติก, ไม้ หรือ โลหะ)

ยี่ห้อที่ราคาถูกหน่อยก็ made in Chaina เช่น golden cup, lark, hero, johnson
คุณภาพก็สมราคา

ส่วนยี่ห้อดีหลายอัน ก็ออกรุ่นราคาถูกมา เช่น Hohner silver star (Germany), Suzuki easy rider (Japan) หรือ Huang เสียงก็สมราคาเหมือนกัน (คือไม่ดีมากนั่นเอง)

ถ้าอยากได้เสียงดีหน่อยก็ต้อง
Hohner: big river, special 20, marine band (
ไม้)
Suzuki: folk master, blues master
Lee Oskar
หรือ Tombo (น่าจะเป็นบริษัทเดียวกันไปแล้ว)

หมายเหตุ : ส่วนล่างนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนตัว ขอเพิ่มเติมจากของคุณ JapHarmonica

สำหรับมือใหม่ นอกจาก tremolo และ diatonic แล้วผมขอเพิ่ม Chromatic ด้วย จากเหตุผลที่เคยเขียนเล่าเมื่อวันก่อน ซึ่งถ้าทุนน้อยก็สามารถใช้ของจีนยี่ห้อ Tower ได้ (ราคาประมาณ 200-300 บาท) เนื่องจาก Chromatic ไม่ต้อง Bend เสียง ตอนซื้อเพียงเลือกโดยไล่ (ใช้เครื่อง Test เสียงของทางร้าน ไม่ใช่เอาปากเราไปเป่าไล่เสียง) ว่าเสียงออกครบทุกช่อง (เคยมีประสบการตรงว่าเลือกกันนานเลยครับ) ทุกเสียงเป็นใช่ได้แล้วครับ Chromatic ของ Tower รุ่นนี้คุณภาพเกินราคาคุ้มค่าครับ (แม้จะกินลมไปบ้างเนื่องจากไม่มี Wind Save เหมือนยี่ห้อแพงๆ แต่คิดบวกซะว่าทำให้ปอดเรามีพลังมากขึ้น 555) ถึงช่องเป่าจะไม่เหมือน Hohner และ Suzuki แต่มีวิธีแก้ไขให้ใกล้เคียงได้ (เพื่อต่อไปในอนาคตท่านเปลี่ยนมาใช้ Hohner หรือ Suzuki จะได้ชินปาก และลิ้นในการควบคุมเสียง) ใครซื้อมาใช้ comment ทิ้งไว้ได้ผมจะลงรูปวิธีทำให้ เนื่องจากอธิบายโดยไม่มีเครื่องอยู่ในมือจะนึกภาพไม่ออกครับ

ของจีนไม่ใช่มีแค่ golden cup, lark, hero, johnson แต่รวมถึง Hohner และ Suzuki ด้วย รุ่นถูกๆ เดี๋ยวนี้ผลิตในจีนหมดแล้ว ให้สังเกตุจากราคา ถ้า Hohner ราคาต่ำกว่า 800 ลงมาทำในจีนหมด (เช่น Silver Star. Folk Blue, Puck, Little Lady) ของ Suzuki จะมีอยู่รุ่นหนึ่ง (ขออภัยที่จำชื่อรุ่นไม่ได้) ราคาประมาณ 450 บาท ประกอบในจีน แต่ลิ้น (Reed) ผลิตจากญี่ปุ่นคุณภาพดีสามารถหยิบมา Bend เสียงได้แทบทุกอัน ถ้าราคาต่ำกว่านี้ไม่ได้บอกว่าใช้ไม่ได้ แต่ให้ลอง Bend เสียงก่อนซื้อทุกตัว (ซึ่งลำบากเพราะต้องใช้ปากเรา ไม่สามารถใช้เครื่องเป่าลม Test ได้)

การหาซื้อ Harmonica โดยเฉพาะของ Hohner ไม่แนะนำที่หลังกระทรวง (ความคิดเห็น และประสบการจากการไปมาทุกร้าน โดยเฉพาะร้านใหญ่ที่สุดในหลังกระทรวง) เพราะบอกราคาแพงมาก และไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า (อาจเข้าไปดูรุ่น และราคาเพื่อเปรียบเทียบได้) แนะนำให้ซื้อที่เวิ้งนครเขษม หรือลัคกี้ประตูน้ำ แต่ถ้าเป็นของ Suzuki แนะนำร้านธีระมิวสิค เวิ้งนครเขษม ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่าย (และมีอัธยาศัยดีมาก)

หนังสือ Harmonica โดย อ.นพดล ฉิมท้วม เป็นการสอน Harmonica แบบ Tremolo แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการความสุขจากการเล่นเครื่องดนตรีชิ้นนี้ เพราะผู้แต่งเตรียมบทเพลงไว้ให้ท่านพร้อมสรรพ ไม่ต้องกังวลเรื่องหาโน๊ตมาเล่นไม่ได้ หรือได้โน๊ตมา แต่เสียงจาก Harmonica ไม่ครบเล่นไม่ได้ เล่นไปเรื่อยๆ แล้วท่านจะพัฒนาขึ้นแบบไม่รู้ตัว ทั้งปาก ลิ้น และการใช้ลม (และกลุ่มผู้เล่น Harmonica ก็จะพัฒนาขึ้นด้วย)

ความเห็น
  1. Funkize พูดว่า:

    ขอถามสักนิดนึ่งนะครับ

    ถ้าผมใช้แบบ diatonic หรือ Chromatic มาฝึกเล่นกับหนังสือ Harmonica โดย อ.นพดล ฉิมท้วม

    มันจะเวิร์คไหมครับ แล้วมีหนังสืออะไรแน่นำอีกบ้างหรอครับ

  2. harmonicafe พูดว่า:

    การเรียงช่องของ Tremolo จะมีเสียงบางช่องไม่ตรงกับ Diatonic รวมทั้ง Chromatic ด้วย มีเหมือนกันตรง Octave กลางสำหรับ Chromatic และเหมือน Diatonic ในช่อง 4 เป็นต้นไปใช้ได้เลย (แตกต่างแค่ช่อง 1-3)

    ต้องยึดเสียงเป็นหลักครับ ไล่ช่องดูดีๆ ไม่ยาก Chromatic เล่นได้ทันที Diatonic ต้อง Bend เสียง F กับ A ที่ช่อง 2 กับ 3 นอกนั้นไม่มีปัญหาเพลงทั้งเล่มไม่มี # กับ b เนื่องจาก Tremolo เล่นไม่ได้

    ถ้าหัดตามที่ผมแนะไปเรื่อยๆ หนังสือที่แนะนำคือ หนังสือรวมเพลงที่เป็นโน๊ตตัวเลข หรือโน๊ตขลุ่ยครับ หนังสือเฉพาะสำหรับ Diatonic หรือ Chromatic Harmonica ยังไม่มีที่เป็นภาษาไทย

    มาคิดดูคนจะออกหนังสือ Blue Harmonica หรือ Chromatic Harmonica นี่ต้องคิดการตลาดหนักเลยน่ะ เพราะคนสนใจในบ้านเรามีน้อยมาก ดูจาก Web หรือ Forum ที่พูดคุยกันนี่นับคนได้เลย ถ้ายังไม่มีคนทำเพลงให้หยุดคนให้ฟังได้ แล้วไปออกตามสื่อ หรือทำคลิปเฉียบๆ มาลง Youtube ผมว่าคนสนใจก็ยังคงมีอยู่แค่กลุ่มเล็กๆ อย่างนี้อีกนานแหละครับ (อย่างหนังสือของ อ.นพดล จับที่ Tremolo นั้นถูกตลาดที่สุดแล้วครับ เพราะพูดถึง Harmonica คนไทยก็นึกถึงแต่อันยาวๆ มี 20 กว่าช่องกันทั้งนั้น แต่ถ้าต่างประเทศจะนิยม Diatonic หรือ Chromatic มากกว่าครับ)

  3. Funkize พูดว่า:

    ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวันเลยครับ ขอบคุณมากครับสำหรับรายละเอียด

    ผมชอบน้าตรงที่ไม่ขี้เกียจพิมพ์ตอบเนี่ยแหละครับ เห็นใครถามก็ตอบแบบเต็มๆครบๆกันเลย

    ขออนุญาตเรียกน้านะครับ

  4. harmonicafe พูดว่า:

    เรียกน้าก็ได้ครับ ยังไงน้าก็ดูหนุ่มกว่าปู่ละน่า (ถึงแม้หน้าตาจริงๆ เด็กมัธยมแถวบ้านจะเรียกพี่ก็เถอะ 5 5 5 ล้อเล้นนน)

    ช่วงแรกต้องขยันตอบเอาให้เคลียร์ เพราะคนถามคือคนที่สนใจจริงๆ มาเจอ Blog นี้ได้ก็เพราะตั้งใจ Search หาจาก Google นี่เป็นเหตุผลที่ผมไม่ทำ SEO (Search Engine Optimize) เพราะ SEO มันจะไปยัด Link เข้าทุกๆ แห่งที่ Engine มันไปถึง คนที่เข้า Blog โดยไม่ได้ตั้งใจมีสัดส่วนสูง และอาจ Post ถามเรื่อยเปื่อย ซึ่งผมทำ SEO เมื่อไหร่คงตอบยาวๆ แบบนี้ไม่ไหวแน่ครับ

    ตั้งใจแต่แรกแล้วว่าจะพยายามตอบให้มากที่สุดเท่าที่ความรู้ที่ผมมีจะตอบได้ (ซี่งบางครั้งอาจตอบไปเกินความรู้ที่มี ซึ่งคือ…มั่วนั่นเอง 5 5 5 ล้อเล้นนน…อีกแล้ววว) เพราะคนเล่น Harp แม้จะน้อย แต่ก็มาก (เอะ…ยังไงกัน…ลุง เอ้ย น้านี่ก้อ) พอที่จะผ่านตาผมทุกครั้งที่เข้า Net เลยเสียดายที่จะสูญเสียคนเหล่านี้ไปเพียงเพราะเขาหาวิธีที่จะเริ่มเล่นไม่ได้เท่านั้น

    สำหรับเนื้อหาที่ผมเขียนจนถึงวันนี้ (19/11/53) รวมกับส่วนของคุณ Jap (เรื่องเริ่มเล่นโน๊ต และการ Post คุยเรื่อง Overblow) และใน Web Board ของคุณ Jazzy เรื่องคอร์ด ทั้งหมดก็จะครบเนื้อหาที่ตำรา Harmonica เล่มใดเล่มหนึ่งควรจะมี ขาดเพียงแบบฝึกหัด ซึ่งทดแทนโดยสื่อสมัยนี้คือ Internet ซึ่งมี “แบบ” ให้ “ฝึกหัด” มากมายนับไม่ถ้วน ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการฝึกเพื่ออะไร
    ฝึกเพื่อเป่าเล่นๆ แบบผมก็ไม่เคร่งเครียด หาโน๊ตขลุ่ยมาก็เล่นได้แล้ว
    ฝึกเพื่อประกอบอาชีพ ก็อาศัยพื้นฐานด้านดนตรีอื่นที่มีอยู่ สามารถต่อยอดได้ไม่ลำบากอะไร
    ฝึกเพื่อเป็นจอมยุทธ ก็ไปหาหน้าผาโดด พอใกล้ๆ ตายจะมีผู้เฒ่าออกจากถ้ำมารักษาและถ่ายทอดวิชาให้ (คือผมตั้งใจเปรียบเทียบว่าต้องฝึกหนัก หมกหมุ่นเหมือนอยู่ในถ่ำ ขลุกอยู่แต่กับ youtube เจียนตายเลย แล้วจะพบคลิปยอดฝีมือจนได้ในวันใดวันหนึง….แหม…ไปได้น๊อเรา)

  5. peddi พูดว่า:

    ผมคนหนึ่งที่ชอบhormonica มากแต่น่าเสียดายที่มาอยู่ที่ห่างไกล japan มีอยู่หลายคีย์

  6. นัทนัท :) พูดว่า:

    สนใจมากครับ อยากเล่นเป็น อยากได้ suzuki folk master เปนตัวเเรกด้วย 555

  7. นัทนัท :) พูดว่า:

    ครับผม คิดว่า จะไม่มีไครตอบเเล้วส่ะอีก ขอบคุณครับ

  8. มานะ พูดว่า:

    เรียนคุณนัทนัท หากไม่มีปัญหาเรื่อง กำลังทรัพย์ ผมแนะนำ SUZUKI Manji ผมมี Manji key C พอใจมาก เทียบกับ Hohner special 20 ที่คุณ JP Allen แนะนำ ผมว่า Manji ดีกว่า ผมมีประสบการณ์ ผมซื้อ Hohmer Silver Star(ราคา 350 บาท) เป่ายากมาก กระทั่งผมมาได้ Hohner Marine Band เป่าง่ายกว่า หากผมไม่ได้ Marine Band ผมอาจจะเลิกเล่น Harmonica ก็เป็นได้ ตอนนี้ผมกลับไปเอา Silver Star มาเล่น ก็ยังเล่นไม่ได้อยู่ดี ผมมิได้หมายความว่า SUZUKI Folk Master ไม่ดี ผมยังไม่เคยลองเล่น ผมว่าจะลองซื้อมาเล่นดู เหมือนกัน ในความคิดของผม ถ้าเรามีกำลังทรัพย์เพียงพอเล่นรุ่นที่ดีไปเลย คุณภาพต้องดีแน่

  9. harmonicafe พูดว่า:

    ผมเคยใช้ Hohner Silverstar แต่ไม่เคยใช้ Suzuki Easy Rider ทำให้เทียบได้ลำบาก
    แต่ราคาของ Silverstar นั้นพอๆ กับ Suzuki Folk Master (ประมาณ 300-350 บาท) แต่คุณภาพ Folk Master นั้นดีกว่า (ประกอบในจีนแต่ reed มาตราฐานญี่ปุ่น ส่วน Silverstar นั้นมาตราฐานจีนครับ)

    ในขณะที่ Suzuki Easy Rider เป็นตัวถูกสุด (ประมาณ 200-250 บาท และคิดว่าคงมาตราฐานจีนล้วนๆ) ราคาต่ำกว่า Folk Master อีกก็ต้องพิจารณาดู ในใจอยากให้ใช้ Folk Master มากกว่าครับ

  10. โอเลย์ พูดว่า:

    Suzuki Folk Master คุณภาพเนี่ยเป็นอย่างไรหรอครับ และสามารถที่ได้ที่ไหน ราคาเท่าไหร่หรอครับ

  11. harmonicafe พูดว่า:

    ถ้าตั้งใจจะซื้อระดับ Silverstar แล้ว ซื้อ Suzuki Folk Master ดีกว่าครับ ดีกว่าทั้ง Silverstar และ Easy Rider ในงบ 3-4 ร้อย ก็นึกออกแต่ตัวนี้ที่ดีที่สุด ดีกว่านี้มีไม๊ ก็มีแต่แพงขึ้น แล้วแต่งบครับ ลองอ่านในหลายๆ บท พูดถึงในหลายๆ รุ่นให้เปรียบเทียบ

    ซื้อได้จากตัวแทน Suzuki คือร้านธีระมิวสิค อยู่ที่เวิ้งนครเขษม หาเบอร์โทรจากใน Blog นี้แหละครับ ลงกระจายอยู่ทั่ว Blog เลย

  12. โอเลย์ พูดว่า:

    เนื่องจากผมจะหัดเล่นแต่พอเข้าไปอ่านในบท ที่พูดถึงในหลายๆ รุ่น แล้วมันทำให้ตัดสินใจไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี(เห็นแล้วก็อยากได้ทุกอัน)ตัดสินใจไม่ถูกจริงๆเลยครับ

  13. harmonicafe พูดว่า:

    ถ้าหัดเล่นแนะนำตัวใดตัวหนึ่งในนี้ครับ
    Folk Master คุณภาพที่มากับราคาถูกสุด (ประมาณ 3-400 บาท)

    Harp Master คุณภาพที่นักดนตรีอาชีพมักเลือกใช้ ในราคาที่ไม่แพง (ประมาณ 550 บาท) ใช้ไม่ต้องถนอม (เพราะเวลานักดนตรีทำงานคงไม่มีเวลามานั่งเช็ด นั่งแหย่คอตตอนบัดทุกรู ทุกรู เวลาเลิกเล่นก็มักยัดใส่กระเป๋ากลับบ้านเลย) และถูกกว่ารุ่นโปรๆ ทั้งหลายประมาณ 3 เท่า (แต่ไม่ได้หมายความว่าน้องใช้รุ่นนี้แล้วไม่ต้องถนอมน่ะครับ พูดให้ฟังว่าเขาไม่มีเวลาดูแลก็เลยต้องใช้รุ่นที่ราคาไม่สูง แต่ให้คุณภาพที่ใกล้เคียงรุ่นโปรที่สุด)

    Airwave สำหรับผู้ที่ลองเล่นรุ่นมาตราฐานทั่วๆ ไปแล้วเป่าไม่ได้ซะที รุ่นนี้ออกแบบมาให้เป่าง่ายมากๆ (เพราะตัวใหญ่กว่ามาตราฐาน จะติดมาไว้ลองเล่นก็ดีเพราะราคาเพียง 300 บาท (แปรียบเหมือนหัดขับรถด้วยรถจี๊บ มันโล่งๆ ไม่มีอะไรเกะกะ เปลี่ยนเกียร์ก็ง่ายๆ พอเป็นแล้วเข้าใจการใช้ (ลม) แล้วก็เปลี่ยนไปเล่นของมาตราฐาน ทำนองนั้นครับ)

  14. Harmonica Thai. พูดว่า:

    วันนี้เพิ่งไปถอย Hohner Blue Marine คีย์ C มาหนึ่งตัว เสียงดี..ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ…

  15. harmonicafe พูดว่า:

    ดีใจด้วยครับที่ได้ของถูกใจ
    สำหรับ Hohner เสียงเค้าดี ไม่เป็นที่สองรองใครอยู่แล้ว
    ว่าแต่สอย Marine Band รุ่นไหนมาครับ classic, deluxe หรือ crossover (จากร้านไหนครับ)
    คืออยากทราบราคาว่าปัจจุบันอยู่ที่เท่าไหร่แล้ว

  16. Harmonica Thai พูดว่า:

    เป็นตัว Classic ครับ .. ผมซื้อจากร้านแถวๆบ้าน (ต่างจังหวัด) ไม่ค่อยมีให้เลือกครับ ..ซื้อมาราคา 900 บาท (ของเก่าเก็บครับสภาพ 100.%)…ปกติก็เป่าเล่นๆครับ ไม่ได้จริงจังอะไร ตัวแรกของผมที่เคยเป่าเป็น Butterfly ได้เป่าครั้งแรกตอนเด็กๆ (ประมาณ40 ปีที่แล้ว)..เป็นคนไม่ค่อยเก็บรักษาของ ..หายตลอดครับ 555+ หลังๆมาเลยซื้อแต่ของจีน (ราคาถูกดี)..อาศัยเลือกเป่าหาตัวที่เสียงดีๆ ไม่ค่อยกินลม…ผมเล่นทุกประเภทครับ ทั้ง Tremolo Chromatic และ Diatonic ส่วนใหญ่เล่นในวงเหล้า 555+ …แต่ก็อยากศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมครับ เลยเข้ามาเรียนรู้ในห้องนี้ครับ…

  17. harmonicafe พูดว่า:

    ผมก็เป่าเล่นๆ เหมือนกัน แต่ช่วงนี้ไม่ได้เล่นเป็นเรื่องเป็นราวมาเกินปีแล้วครับ

    เป่าครั้งแรกเมื่อ 40 ปีที่แล้ว โอ้โห้…ก็อายุพอๆ กะผมเลยสิ…แต่ตามไปดูใน youtube คุณดูเด็กมากเลยน่ะ เหมือนคนอายุประมาณแถวๆ 20 เป็นคนล่ะคนกับใน youtube รึเปล่าครับ
    ยังไงอายุก็ไม่สำคัญเท่าไหร่ ขอแค่ชอบดนตรีเหมือนกันก็คุยกันถูกคอแล้วละ เพราะเราไม่ได้ไปซีเรียสอะไรที่จะต้องพัฒนาการเล่นให้รวดเร็ว เนื่องจากเราไม่ได้ใช้ดนตรีประกอบอาชีพ จึงเรื่อยๆ มาเรียงๆ ได้

    มีเพื่อนใหม่เข้ามาเลยชักอยากเล่น Harp ขึ้นมาบ้างแล้วสิ

  18. Harmonica Thai. พูดว่า:

    555+….สงสัยจะชื่อคล้ายกันน่ะครับ..ผมไม่เคยลง youtube หรอกครับ เพราะเป็นแค่มือสมัครเล่น..ความสามารถยังไม่พอเพียงครับ.. เพลงที่เล่นส่วนใหญ่ก็เป็นเพลงเก่าๆ..เช่น เพลง ..เพื่อน..ของวงแกรนด์เอ็กซ์…ที่ใช้ Chromatic เล่น…ผมชอบที่จะเล่นบรรเลงกับกีต้าร์มากกว่า…ทั้งเป่า-ทั้งดีด..ในคนๆเดียวครับ…แต่ก็จะมีปัญหาตรงที่ Chromatic ต้องเล่นกด # / b ..ทำให้เล่นกับกีต้าร์ (เล่นคนเดียว) ไปไม่รอด… เวลาที่ต้องมาเล่นเพลงแนว ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ …จึงต้องมาใช้พวก Diatonic บางทีก็ใช้ Tremolo เล่นเพราะให้เสียง Echo ที่ดีกว่า…ในอนาคตคิดว่าจะหันมาเล่นเพลงแนว Blues ดูบ้าง..ครับ

    • taworn พูดว่า:

      ผมเล่น chromatic เพราะเล่นกับโน้ตสากลได้เลย ที่มีอยู่คือ hohner cx12 อยากจะลอง suzuki scx 64 บ้าง คุณ harmonicafe มีความเห็นอย่างไร ราคาแพงไหม? คุณภาพเสียงเป็นอย่างไร ? ขอบคุณ

  19. harmonicafe พูดว่า:

    suzuki scx 64 ราคาต่ำกว่า Hohner CX12 อยู่ประมาณ 2000 บาทครับ (4 พันกว่าได้ 64 เสียง กับ 6 พันกว่าได้ 48 เสียง)
    โครงสร้างโดยรวม suzuki scx 64 จะแข็งแรงกว่า (และนั้นทำให้หนักกว่า และใหญ่กว่าด้วย ถ้าเคยชินกับ CX12 นี่ ต้องปรับตัวพอสมควรเลย) แต่ reed ของ CX12 จะทนทานกว่า (reed ของ Hohner ทุกรุ่น ทุกแบบ ไม่ว่า Chromatic หรือ Diatonic ที่ผลิตในเยอรมันเท่าที่ผมมีอยู่ไม่เคยมีตัวใด reed หัก หรือหลุดเลยครับ แต่สำหรับ suzuki scx 64 ผมเคยพบ reed หัก ซึ่งก็อาจจะบกพร่องจากโรงงานก็ได้ ผมเพียงแต่ให้เป็นข้อมูลไว้ครับ) และจากส่่วนตัวที่แกะดูก็เห็นว่า reed ของ suzuki scx 64 จะออกบอบบาง (แต่เฉียบ) ดูไม่สมบุกสมบันเหมือน CX12

    suzuki scx 64 มีข้อดีด้านโครงสร้างอีกอย่างที่มี Mouth Piece ที่เข้ารูปปากแบบดั้งเดิมทำให้การเล่นเทคนิคที่เกี่ยวกับริมฝีปากคงทำได้สะดวกเหมือนเดิม นั้นทำให้ Hohner ออก CX12 รุ่น Jazz ที่มีการแก้ไข Mouth Piece ให้เล็กลง (แต่ราคาแพงขึ้นมหาโหด รุ่นธรรมดาก็ว่าแพงอยู่แล้ว ToT ToT ) เอาใจคออนุรักษ์นิยม

    CX12 มาเสียตรงวัสดุที่ใช้ทำ Housing เป็นพลาสติค จึงไม่ทนทานเท่าโลหะ ตัวที่ผมมีอยู่ (อายุเกือบ 20 ปีแล้ว) รูที่ใช้ล็อคเขี้ยวด้านข้าง (ที่มีข้างล่ะ 2 รู) กรอบตามอายุ และหักครับ มันซ่อมได้ แต่เสียอารมณ์พอสมควร

    เรื่องเสียงทั้งคู่กินกันไม่ลงครับ Hohner มีแนวเสียงของเค้าเองซึ่งผมอธิบายไม่ถูก ได้แต่เรียกขึ้นมาเองว่า Hohner Sound มันออกแนวอคูสติก ทั้งๆ ที่เครื่องดนตรีชิ้นนี้เป็นพลาสติดทั้งโครง Housing และ Plate ไม่มีอะไรทำจากไม้เลยแปลกดี (อีกตัวก็คือ Diatonic XB-40 ให้เสียงที่ warm มาก ทั้งๆ ที่เป็นพลาสติดเหมือน CX12) ในขณะที่ suzuki scx 64 ให้เสียงใสกว่าครับ…ก็แล้วแต่คนชอบ

    ตอนนี้นึกออกเท่านี้ครับ (จำได้ว่ามีข้อได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่อีก แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก) จะเห็นว่าได้เสียสลับกันไปมาพอสมควร ก็ต้องชั่งใจเอาเองแล้วครับ) ส่วนตัวผมชอบ suzuki scx 64 เพราะมันดูแวววาว Classic ดี แต่ดันซื้อ CX12 มาเล่นก่อน มีหลายตัวหลายเสียงแล้ว เลยไม่อยากไปซื้อ suzuki scx 64 เพิ่มอีก เพราะราคามันไม่ใช่ถูกๆ เหมือน Diatonic ถ้าจะมีให้สะดวกในการหยิบจับเล่นหลายๆ Key นี่มันค่อนข้างจะฟุ่มเฟือยสำหรับผมเกินไปครับ ทุกวันนี้ผมก็เลยเล่นแต่ CX12 ครับ

  20. นพดล พูดว่า:

    ผมไปซื้้อ BLUES MASTERจากร้านธีระมาครับคุณภาพใช้ได้ไหมครับ ไม่ค่อยมีความรู้แต่อยากฝึกเล่นครับ

  21. harmonicafe พูดว่า:

    เป็นรุ่นที่น่าใช้มากรุ่นหนึ่งเลยครับ มีความคุ้มค่ากับราคาอยู่ในเกรดเดียวกับ Harp Master ครับ

  22. ภาณุพงศ์ พูดว่า:

    ฮาโมนิก้า แบบ 16ช่อง กับ 24ช่อง ต่างกันยังไงเหรอครับแล้วจะเอาไปเทียบ
    โน๊ตของแบบ 24 ช่องได้หรือป่าวครับ ขอบคุณครับ

  23. harmonicafe พูดว่า:

    แนะนำที่คุณ Jap อธิบายไว้ ละเอียดยิบเลยครับ ตาม Link ด้านล่าง

    โน้ตบน tremolo

    และนี่

    Tremolo layout

    • ภาณุพงศ์ พูดว่า:

      หลงเป่าเล่น 16 ช่อง ไปไล่ โดเรมี ในช่อง 9 10 11 ตั้งนาน
      กำลังคิดจะเลิกเลยเป่ามาหลายอาทิตย์เสียงไม่เหมือนซักที อ่อผิดช่อง – –
      ขอบคุณมากครับ

  24. harmonicafe พูดว่า:

    ยินดีครับ มีอะไรสงสัยสอบถามได้ตลอด
    ขอให้สนุกครับ

  25. ถาวร จุลตามระ พูดว่า:

    ผมได้ suzuki scx 64 มาแล้วราคา 4,800 บาท รู้สึกชอบ เพราะเข้ากับปากพอดี เสียงนุ่มกว่า CX12 ราคาก็ถูก แต่บางเพลง CX12 จะเหมาะกว่า ขอบคุณที่ให้คำแนะนำ ผมคงใช้ควบคู่กันไป ปีใหม่นี้ขอให้มีความสุขตลอดปีนะครับ

  26. harmonicafe พูดว่า:

    เป็น comment แรกของปี ที่ให้ความรู้สึกดีๆ ว่า Blog นี้ก็มีประโยชน์สำหรับผู้รัก Harmonica
    และขอบคุณสำหรับคำอวยพรครับ
    ถือเป้นสิ่งดีๆ ที่ได้รับสำหรับวันแรกของปีนี้ ขอพรนั้นส่งสุขให้ท่านร้อยเท่าพันทวีครับ

  27. POUND พูดว่า:

    พี่ครับ ผมไม่มีความรู้เรื่องคีย์เลย ผมไปถามเขามาแล้วผมจะหัดเล่นที่ chromatic harmonica ครับ อยากทราบว่า yesterday once more ของ the carpenter ใช้อันนี้เล่นได้ไหมครับ

  28. harmonicafe พูดว่า:

    Chromatic Harmonica เล่นได้ทุกเพลงครับ…ยากหรือง่ายเท่านั้น (ในระดับเดียวกับเครื่องดนตรีทั่วไป)

  29. suppatach inzee พูดว่า:

    ผมใช้ของจีนยี่ห้อ Lark ช่วยแนะนำด้วยครับ

  30. harmonicafe พูดว่า:

    Lark รุ่นใหม่ๆ ก็ไม่เคยใช้เหมือนกัน… ไม่ทราบว่าพัฒนาคุณภาพไประดับไหนแล้ว

    ที่เคยใช้ เป็นรุ่นที่เคยขายในเมืองไทยสมัยยังไม่มี Internet ก็เกือบ 20 ปีที่แล้วมั่งครับ
    เป็นตัวโลหะสีเงินในกล่องไม้หุ้มหนังเทียมสีดำ มีสกรีนยี่ห้อ Lark สีเงินที่ฝากล่อง

    ไม่มีเก็บไว้เลยเพราะเอามาเล่นกี่ตัวก็พาไปคืนร้านหมดเนื่องจากเสียงชอบบอดครับ ออกไม่ใครจะครบ 48 เสียง

    แล้วที่ใช้อยู่เป็นรุ่นไหน พอจะมีรูปไม๊ครับ… อาจพอ search หาข้อมูลจากคนที่เคยใช้ใน forum ต่างๆ ได้

ส่งความเห็นที่ harmonicafe ยกเลิกการตอบ