คือสัญญา…ไม่ใช่กับใคร แต่กับตัวเองว่าเรื่องต่อไปจะว่ากันเรื่อง Bending เพราะก่อนจะเขียนผมต้องทำเองให้ได้ก่อน…ก็ต้องทำให้ได้แหละครับ ถือเป็นการฝึกฝนตัวเองไปพร้อมกันด้วยเลย
ที่หายไปนานก็เพราะฝึกไปด้วย คัดเลือกเพลงที่เหมาะสำหรับฝึกไปด้วย…ไม่อยากให้ทุกท่านเสียเวลามาหัด Bend ที่ละช่อง ที่ละเสียง (เหมือนตำราฝรั่งแทบทุกเล่มที่ผมเจอ…มันน่าเบื่อชะมัด) ซัดกันทีเดียวเป็นเพลงไปเลย…จะแยกฝึกที่ล่ะช่อง หรือจะฝึกทั้งเพลงก็ได้ตามใจชอบ เป่าเป็นเพลงได้มันค่อยมีกำลังใจฝึกหน่อย
Tab ที่ผมนำมาลงคือเพลง Amazing Grace เป็นเพลงที่ Bend เสียงแล้วจะหวานมาก (เพราะฉะนั้นเป่าด้วย Chromatic จะไม่หวานเท่า Diatonic) ผู้เล่น Harmonica ทุกคนต้องผ่านเพลงนี้ครับ (ผมก็สอบผ่านทุกเสียงแหละ แต่ให้คะแนนตัวเองแค่ 6 เต็ม 10พอ คริ คริ คริ เลยไม่เอามาลงให้ฟังไง) มันจะเพราะหรือไม่อยู่ที่การ Bend, Lick ที่ใส่ และลูกเล่นต่างๆ ตามชั่วโมงบินของแต่ล่ะคน ลองไป Search ใน youtube โดยใส่คำว่า Amazing Grace Harmonica ดูครับ จะเห็นว่าไม่มีใครเป่าเรียบๆ ตาม Tab หรือโน๊ตเลย การฝึกฝนจน by heart เท่านั้นสำหรับ Diatonic
อารัมภบทมาพอสมควรเข้าเรื่อง Bending กันเลยดีกว่า…
จะขอแนะนำการ Bending เฉพาะที่ผมปฎิบัติอยู่ ซึ่งมีอวัยวะสามส่วนที่จะทำงานประสานกันคือ ลิ้น กราม (หรือคาง ในบางตำรา) และมือ (แหม…อวัยวะแต่ละอย่างนี่ ถ้าพิมพ์ผิดเป็น ลิ้น กาม และ คราง…Blog นี้จะเปลี่ยนแนวเลยน่ะเนี่ย)
เริ่มที่แบบดูดเข้าก่อน (draw bending) ใช้กับช่อง 1-4 และ 6 (ตามภาพประกอบ)
เวลาเล่นให้กระดก Harmonica ขึ้นเหมือนเรากระดกแก้วน้ำขึ้นดื่ม เหตุผลเพื่อบีบให้ลมแคบขึ้น reed จะสั่นในความถี่ที่เปลี่ยนไป และเลื่อนกรามลง หรือยื่นคางออกรวมทั้งใช้ลิ้นช่วยด้วยโดยหดโคนลิ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ในช่องปาก (ใช้ลิ้นทำหน้าที่เหมือนคันชักของทรอมโบน) ลองออกเสียงคำว่า Two Tea ลักษณะลิ้นกับกราม (คาง) จะเป็นแบบนั้นแหละครับ แต่เราต้อง Over Action เพื่อเพิ่มเสียงให้ชัด บวกกระดกมืออย่างที่บอกข้างต้น (แต่บางคนก็ใช้ลิ้น กับคางอย่างเดียว ถ้าใช้ร่วมกันนี่ขยับถีง 4 step เสียงกันเลยทีเดียวที่ช่อง 3 ซึ่งก็คือตัว B, Bb, A และ Ab ผมเลือกคลิปมาประกอบก็เข้าใจง่าย แต่เขาใช้ออกเสียงคำว่า Hoodle)
ต่อมาก็แบบเป่าออก (blow bending) ใช้กับช่อง 8-10 (ตามภาพประกอบ)
ใช้อวัยวะสามส่วนเหมือนเดิมเคลื่อนไหวแบบเดิม เปลี่ยนแค่ลิ้นให้ทำกลับกันโดยออกเสีย Tea Two หรือ Diddle แทน ถ้าท่านทำdraw bending ได้แล้ว blow bending ไม่ใช่เรื่องยากครับ ขั้นแรกให้ทุ่มเทฝึก draw bending ให้คล่องก่อน ช่องที่หัดง่ายที่สุดคือช่อง 2 (และลิ้นช่องนี้จะพังง่ายที่สุดเช่นกัน ผมหัดจนช่อง 2พิการไปแล้วหนึ่งตัว แนะนำให้ลองที่ช่องนี้ แต่ไปหัดหนักที่ช่องอื่นครับ)
ทั้งนี้ผมได้นำคลิปที่แนะเทคนิคการ Bend ทั้งดูด และเป่า (ช่วงเสียงตามรูป) ถึงจะเป็นภาษาอังกฤษแต่คนเล่นแกแอคชั่นดี เข้าใจง่ายครับ
พอจะจับจุดกันได้แล้วใช่ไม๊ ถ้าพอไหวก็มาต่อเป็นเพลงกันเลยดีกว่า
และสำหรับสัญลักษณ์ใน Tab เพลง Amazing Grace ซึ่งผมนำมาจากตำราคนละเล่มกับ Tab ก่อนจึงแตกต่างกันเล็กน้อยดังนี้
ตัวเลขเฉยๆ คือเป่าที่ช่องนั้น
ตัวเลขมีวงกลม คือดูดที่ช่องนั้น
ลูกศรขึ้นคือ Blow Bend มีขีดเดียวคือ 1 step, สองขีดตือ 2 step
ลูกศรลงคือ Draw Bend มีขีดเดียวคือ 1 step, สองขีดตือ 2 step
(ลงเสียง Online ต้องจ่ายตังค์เพิ่ม เลยต้องให้กด Load จาก Link ข้างบนครับ)
ขออธิบายเพิ่มเติมอีกนิดสำหรับ Tab เพลง Amazing Grace ที่ลงจะเป็นการฝึก Bend ช่วงเสียงสูง และเสียงต่ำ ผมจึงนำคลิปเพลงนี้ที่เล่นโดยเสียงช่วงกลางมาเพิ่มให้ทุกท่านลอง Bend เสียงกันเองตามใจชอบ (+ คือเป่า, – คือดูด ไม่มีสัญลักษณ์การ Bending ใส่กันเองได้เลยครับ)
จบเรื่อง Bending ทุกท่านก็สามารถเป่าเพลงใดๆ ใต้หล้าได้เกิน 80 % แล้วล่ะครับ แต่จะเพราะ หรือเป็นเพลงรึเปล่าก็อยู่ที่การฝึกฝน…ผมเองเนี่ยเป็นนักดนตรีไม่ได้ก็เพราะเอาแต่เล่น ไม่ชอบฝึกเนี่ยแหละ แถมเกือบ 3 ปีที่ผ่านมาไม่มีบ้านจะอยู่ (รื้อบ้านเก่าปลูกใหม่) ต้องไปอยู่คอนโด…แค่นอนกรนห้องข้างๆ ก็ให้พรแล้วไม่ต้องไปพูดถึงหยิบ Harmonica มาฝึกเลย เพราะฉะนั้นผมฝึกที่ทำงานแค่วันไม่กี่ชั่วโมง บางวันก็ไม่ได้ฝึก และเพื่งเริ่มกับ Diatonicใช้เวลาไม่ถึงเดือนยังทำได้…ทุกๆ ท่านที่เข้ามาอ่านก็ต้องทำได้แน่นอนเช่นกัน…ลุยเลยครับ
Harmonicafe.com 
ผมเล่น harp ด้วยเทคนิคใช้ปลายลิ้นควบคุม แต่พอจะ bending มันทำไม่ได้ เว้นแต่จะต้องเปลี่ยนมาใช้เทคนิคเป่าเฉพาะช่องครับ มีอะไรที่ไม่ถูกต้องเหรอครับ
เป่าเฉพาะช่องที่ว่าคือทำปากจู๋ แล้วเป่าตรงช่องเสียงที่ต้องการใช้ไม๊ครับ
ถ้าใช้…อันนี้ผมผ่านมาแล้ว…งมโข่งอยู่เป็นเดือนๆ
ที่ทำได้เวลาทำปากจู๋เพราะ พื้นที่ลมในช่องปากเวลาทำปากจู๋มีน้อย ทำให้เวลา Bending ใช้การควบคุมอวัยวะเพียงเล็กน้อย เสียงก็เปลี่ยน
แต่…แนะนำว่าอย่างหัดแบบนั้น (อย่างที่ผมแนะไว้แต่ต้น) เพราะท่านจะได้แต่ Bend เสียง พอจะเล่นเทคนิคอื่นก็ลำบาก เพราะเดี๋ยวต้องทำปากจู่ สลับปากกว้างเป็นที่รำคาญใจมาก (แต่บางคนก็ทำ…อันนี้ไม่ผิดครับ ไม่ว่ากันเป็นความถนัดเฉพาะคน)
ส่วนอวัยวะอื่นนั้นถูกต้องหมดแล้ว (เพราะ Bend แล้วเเสียงเปลี่ยนแสดงว่าถูกต้อง) เพียงแต่เพิ่มความรุนแรงขึ้นตามพื้นที่ว่างที่เพิ่มขึ้น (จากการทำปากกว้างคาบ 4 ช่อง) ขยับลิ้น และคางให้สุดในจุด Peak ของลม
ต้องฝึก ฝึก และฝึก ครับ (ผมฝึกจน Harp พังไปตัวนึง…แต่มีเพื่อนผมบางคนจับมาเข้าปาก แล้ว Bend ได้เฉยเลย…แต่ให้ทำอีกครั้งทำไม่ได้ 5 5 5)
ช่วงนี้ไม่ได้ Post ใดๆ เลย เพราะย้ายบ้าน กลับบ้านเก่า (ไม่ใช่ตาย…แต่หมายถึงบ้านเก่าที่ปลูกใหม่เข้าอยู่ได้แล้ว) เลยยุ่งแต่ยกของหนัก ไม่ได้ยกของเบา (Harmonica) เลย
ก็เตรียมเพลงไว้แล้วหลายเพลง…อีกไม่กี่วันคงได้เอามาลงให้ทุกท่านได้ลองกันครับ
ครับใช่ครับ การเปลี่ยนไปๆมาๆ มันทำให้เสียจังหวะ
และรู้มาอีกอย่างว่าถ้าเป่าแบบเต็มเสียง จะเล่นได้ง่ายและควบคุมเสียงได้ง่ายกว่าการเล่นแผ่วๆแบบเกรงใจเพื่อนบ้าน ตอนนี้เลยซัดซะเต็มเสียง เชื่อแล้วครับที่ว่าเล่นจน harp พังน่ะ ไม่ใช่เรื่องพูดเล่น
สงสารแต่น้องข้างบ้าน คงต้องทนกันไปอีกนาน ยิ่งตอนนี้กำลังฝึก bending เสียงซะด้วย..
5 5 5 สงสารน้องก็หาโหลด mp3 solo Harmonica เพราะๆ ใส่ Thumb Drive ไปฝากน้องสิครับ แล้วสั่งว่าถ้าได้ยินเสียงพี่ฝึกหัดเป่า ให้รีบใส่หูฟังแล้วจินตนาการหน้าพี่ว่ากำลังบรรเลงเพลงที่น้องได้ยินอยู่นี้ เผลอแป๊บเดียว พี่ก็จะ Live แบบเดียวกับที่น้องฟังนี้ให้ดูสดๆ เลย
ขอแนะนำเพิ่มเติมอีกนิดเรื่องการใช้ลม เพื่อพลัง และคุณภาพเสียงให้ใช้ลมจากกระบังลม หรือคือใช้ลมหายใจของเราเป็นตัวทำให้เกิดเสียง จะได้คุณภาพ และอึดกว่าใช้ลมเป่า (ลมเย็น)
ลมที่มีคุณภาพคือลมร้อนจากการหายใจ ลองทำเสียง ha ha ดูนั้นละครับ ใช้ลมนั้นเป็นต้นกำเนิดเสียง ในระยะยาวจะทำให้อึดในเพลงยาวๆ ตัวผมเองเป่าผิดมาตลอดชีวิต เล่นหลายๆ เพลงแล้วเจ็บคอ ยังสงสัยว่าร่างกายเรานี้ไม่เหมาะกับเครื่องเป่าเหรอ…จนมาเจอข้อแนะนำใน youtube ถึงได้อ๋ออออ…เราทำผิดมานานมาก ทุกวันนี้ผมยังพยายามแก้อยู่ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง…นึกขึ้นได้เลยบอกไว้น่ะที่นี้ อยากให้หัดถูกวิธีไว้เสียแต่แรก จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาแก้แบบผมครับ
พลังที่เกิดจากการฝึกที่ถูกวิธีจะทำให้ต่อยอดได้เร็วขึ้น ตอนนี้ผมสามารถ Overblow และ Overdraw ได้จนครบทุกเสียงแล้ว…คือผมสามารถเล่น Chromatic ได้ด้วยการใช้ Diatonic Harmonica ที่ทำได้เพราะช่วงนี้ผมไม่มีเวลาฝึก Lick ใดๆ เพื่อเพิ่มลูกเล่นในเพลงเลย (เนื่องจากภาระเรื่องกลับบ้านเก่าที่เล่าข้างต้น) ได้แต่นั่ง Bend เสียงเล่น Bend ไป Bend มา พร้อมกับดู youtube ทำตามฝรั่งเทพไปด้วย เลยสำเร็จวิชาไหมฟ้าไปแล้วครับ รู้เคล็ดวิชา ฝึกกระบวนท่าเพิ่มเติมก็จะได้เวลาปรากฎตัวในยุทธภพแล้ว Ha Ha Ha (อ่านแล้วดูเหมือนคนไม่เต็มยังไงไม่รู้)
พิมพ์ไปแล้วมานั่งอ่านทวนดู…กลัวจะสับสนการ Bend กับ Overblow ใช้เทคนิคคนล่ะอย่าง แต่เอามาเสริมกันน่ะครับ
ผมกลัวบางท่านจะสับสนว่า Bending ให้แรงขึ้นคือ Overblow ไม่ใช่น่ะครับ เพียงแต่ต้อง Bending ให้ได้คล่องก่อนจึงค่อย Overblow
เหมือนกับต้องเป่า Single Note ให้ได้ก่อนจึงค่อย Bending ฉะนั้นผมจึงจะกล่าวเหมือนเดิมตอนหัด Single note ให้ได้ก่อนถึงค่อยเดินหน้าต่อ
คือ…ให้ Bending ให้ได้ก่อนจึงค่อยสนใจ Overblow ครับ
ฮาร์โมนิก้าราคาถูกสามารถbendingได้หรือไม่ครับ
ผมซื้อมา100บาท ค่อนข้างจะกินลมเยอะ
นอกจากนั้นหัดbendingก็ไม่เคยได้เสียงที่ใกล้เคียงเลยครับ
ฮาร์โมนิก้าราคาถูกสามารถbendingได้หรือไม่ครับ
…คำถามนี้ตอบตรงๆ ตัวเลยคือ…ได้ครับ แต่… มีแต่ที่คุณภาพการควบคุมเสียงให้นิ่งจะลำบากอย่างชัดเจน
ผมเคยเขียนไว้ในตอนก่อนๆ ว่า ถ้าเริ่มหัด ผมแนะนำ Harmonica ที่คุณภาพดีสักนิด (ลองย้อนกลับไปอ่านดูครับ) เนื่องจากผู้หัดยังไม่รู้จุด Peak ของลมซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของเสียง การหาตำแหน่งที่ถูกต้อง…ต้องอาศัยการฝึก ก็จะสังเกตุเห็นจุดเปลี่ยนของเสียง การใช้ Harmonica ที่ควบคุมการผลิตไม่ดีพอบางตัวเป่าตรงจุดที่ถูกต้องแล้วแต่เสียงมันไม่เปลี่ยน (สำหรับผู้หัดใหม่) ก็จะหลงทางเลยครับ
แต่ที่ผมพิมพ์ข้างบนว่า…ได้…หมายถึงผู้ Bend เสียงได้คล่องแล้ว รู้ตำแหน่งอย่างอัตโนมัติ เอา Harmonica แบบร้อย-สองร้อย หยิบอันไหนก็ Bend ได้หมดแหละครับ (ต้องไม่ใช้อันที่ reed มันพังน่ะ และไม่ได้ทุกเสียงเสมอไป) แต่คนเล่นต้องใช่ลมในปริมาณที่ไม่แน่นอน บางช่องธรรมดา บางช่องลิ้นแทบเป็นตะคริว (อาการกินลมคืออาการหนึ่งของ reed ที่ไม่ได้มาตราฐานครับ) ซึ่ง Harmonica แบบนั้นเอาไปเล่นเป็นเพลงลำบาก คนเล่นต้องปรับลมไปมาตลอดเพลง
แต่ถ้าจะเอากันจริงๆ ต้องเลือกหนักหน่อยครับ ลองเป่าดูด้วยปากของเรา (อย่าใช้เครื่องเป่า Test เสียง) ว่าแต่ละช่องใช้ลมใกล้เคียงกันไหม (และต้องดังทุกช่องน่ะครับ ถ้าไม่ดัง ถึงไม่กินลมก็ไม่เอา…5 5 5 ล้อเล่นนน) ผมก็มีอยู่หลายอันซื้อมาอันละ 150 บาท ตอนหัดแทบโยนทิ้ง แต่ตอนนี้เอามาเล่นก็ bend ได้ แต่เสียงแข็ง และกินลม เลยเอาไว้ทับกระดาษใกล้ๆ มือ นานๆ ก็หยิบมาเล่นซะที
เวลาหัด Bend เสียง ให้เลือกช่องที่ง่ายที่สุด 2 หรือ 3 หรือ 4 ลองดูครับ Bend ใส่เครื่อง Tuner เลย ให้ขึ้นชัดๆ จำลักษณะที่เราทำให้เสียงเปลี่ยนได้ แล้วย้ายไปลองกับช่องอื่นดู
ความพยายามอยู่ที่ไหน มันก็อยู่ที่นั้นแหละ (ที่ตัวท่านไง) ขอให้สำเร็จครับ
blog นี้มีประโยชน์จริงๆครับ
ผมซื้อเมาท์ออแกน มาแกะเพลงของ คาราบาวหลายเพลง
แต่รู้ว่าเสียงมันไม่ครบ บ้างเสียงเป่าให้ตามเพลงเสียงไม่ถึง ก็คิดว่ามันใช้มือทำหรือป่าวหว่า
เพิ่งจะรู้ว่ามันเรียกว่า Bend เสียง
ไม่ทราบว่าเจ้าของ blog ใช้ของยี่ห้อไหน รุ่นไหนครับ
และมีรุ่นไหนแนะนำบ้าง ผมเล่นเพลงแนวเพื่อชีวิต
ผมใช้ของ Suzuki รุ่น ProMaster ครับ
แต่ถ้าให้แนะนำความคุ้มค่าเทียบกับราคาแล้ว แนะนำ Suzuki รุ่น HarpMaster ครับ
แต่บางครั้งผมก็หยิบ Marine Band ของ Hohner มาเล่น มันบอกความรู้สึกไม่ถูก เหมือนเป่าขลุ่ยไทย (เทียบคีย์สากล) กับขลุ่ยฝรั่ง (Recoder) วัด Tuner เสียงเดียวกันก็จริง แต่ความรู้สักกับลมมันไม่เหมือนกัน
การ bend นี่ มันเกี่ยวกับ ลม ที่ ดูด หรือ เป่า ไหมครับ ยิ่งแรงเสียงยิ่งเพี๊ยน หรือว่าผมคิดไปเอง
ผมใช้เมาท์ออแกน ราคาร้อยกว่าบาทอะครับ ยี่ห้อ goldencup มีทุกคีย์
พอได้อ่าน blog นี้ แล้ว รู้สึกว่าอยากได้อันใหม่ทันที
เดินหาซื้อตำราสอนเป่าในห้าง ก็ไม่มีเลย
การ bend นี่ มันเกี่ยวกับ ลม ที่ ดูด หรือ เป่า ไหม
…ตอบได้ทันทีว่าเกี่ยวครับ ถ้ายิ่งแรงโดยไม่รู้วิธี Control มัน ก็จะเรียกว่าเสียงเพี้ยน
ถ้ารู้วิธีควบคุมให้ไปทางเดียวกันไม่ว่าสูงขึ้น หรือต่ำลง (โดยใช้ปัจจัยอย่างอื่นร่วมด้วย ตามที่เขียนด้านบน) ก็จะเรียกว่า Bend เสียง
Goldencup ที่มีอยู่ถ้าใช้ลมใกล้เคียงกันทุกช่อง (ใช้มาพอสมควรน่าจะกะได้) ลองเอามาหัดดูก่อนก็ได้ครับ เริ่มจากช่อง 2 หรือ 3 ก็ได้เพราะง่ายสุด พอรู้จุดแล้วช่องอื่นก็ไม่เกินความสามารถครับ ถ้ามันไม่ได้จริงๆ ค่อยซื้อใหม่
ตำราสอน Diatonic Harp ในเมืองไทยไม่มีหรอกครับ ผมก็รออ่านอยู่เหมือนกัน ถ้าผมมีพื้นฐานดนตรีดีก็จะเขียนมันซะเอง…5 5 5 (แต่เจียมตัวเลยทำ Blog แทนดีกว่า) ด้วยความที่รอมานานมาก บวกผมมีนิสัยชอบแบ่งความรู้ให้มันขยาย ยิ่งแบ่งมันก็ยิ่งขยาย (เมื่อ 10 กว่าปีก่อนผมก็เคยเป็นผู้บรรยายรับเชิญประจำรายการ IT 100.5 รุ่นบุกเบิกเลย และยังเป็นผู้ช่วยอาจารย์พิเศษ กับบรรยายให้กับอีก 2 มหาวิทยาลัย รายการเหล่านี้ได้ค่ารถนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้คุ้มค่าในเรื่องเงินทองเลย)
คนบางกลุ่ม…ส่วนมากเสียด้วย นอกจากไม่แบ่งปันกันแล้ว ยังป่วนคนที่เค้าเสียสละ (เพราะตัวเองตีค่าเป็นเงินเป็นผลกำไรหมด) ผมเคยถูกป่วนออกอากาศทางรายการ IT 100.5 จากเด็กรุ่นใหม่นี่ล่ะครับ คือดูจากคำถามก็รู้ว่าลองของรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่แกล้งถามดัก…โชว์พาวร์ ก็ไม่ว่ากัน ตอบไปก็จบ แต่ก็ทำให้รู้ว่ายังมีคนแบบนี้อีกมากในสังคมไทย แบ่งได้เท่าที่เรามีอยู่ก็แล้วกัน ผมเลยไม่ขวนขวายทางดนตรีเท่าไหร่ สิ่งที่เขียนมาตั้งแต่วันแรกมันเป็นความสุข (และเป็นความรู้) ที่มีอยู่ในตัวเราอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นวิชาการอะไร คนที่รู้มากกว่าผมมีเยอะ แต่เขาอาจจะตีราคาเป็นเงินทองเลยไม่ออกมาสู่ที่สาธารณะ คนที่อยากรู้ (ในขั้นสูง) ก็ต้องให้ค่าวิชากันบ้างไม่ใช่เรื่องผิด ผมเลยให้สิ่งที่ผมมีอยู่โดยไม่ได้ลงทุนขวนขวายอะไรฟรีๆ ส่วนคนที่เก็บเงินก็ควรจะขวนขวายหาความรู้ที่มากกว่าผมมาให้แก่ผู้ตั้งใจจริง ลงทุนเสียเงินทองเพื่อแสวงหาวิชา (ก็ควรได้วิชาที่คุ้มค่าเงิน) การสอน Blue Harmonica (คือใช้ Diatonic Harp สอน) มีโรงเรียนดนตรีจัดสอนอยู่หลายแห่งเท่าที่รู้มีที่ปิ่นเกล้า กับสุทธิสาร ลองค้นจากใน Net ดูครับ แต่ก่อนเรียนแนะนำให้สอบถามเนื้อหากันก่อนว่าสอนเรื่องอะไรไม่ใช่เก็บค่าเรียนครึ่งหมื่นแต่สอนแค่เป่า Single Note (มีจริงน่ะครับถามมาแล้ว) ถ้าเสียเงินขนาดนั้น แต่สอนแค่นี้ แล้วมันจะผลิดอกออกผลอะไรได้ต่อล่ะครับ ก็แป๊กกันอยู่แค่นี้ล่ะ เคยคุยกับผู้นำเข้า Harmonica เค้าบอกทางญี่ปุ่นแปลกใจว่าทำไมเมืองไทยไม่มีคนสนใจ Harmonica ประเทศอื่นนี่เป็นเครื่องดนตรียอดนิยมเลยน่ะครับ ลอง Search ดูตำราใน Amazon ดูสิครับว่าตำราอะไรมีมากสุดรองลงมาจากกีต้าร์
นักดนตรี Harmonica เก่งๆ สามารถเป่า Harmonica ให้ได้อารมณ์เดียวกับเครื่องดนตรีอื่น Harmonica สามารถเป่าเพลงที่แต่งมาสำหรับ Sax ได้อารมณ์เศร้า และหวานอย่าไม่ผิดเพี้ยน เป่าเพลงที่แต่งมาสำหรับ Trumpet ได้โอ่อ้าตระการตาเหมือนพระอาทิตย์ขึ้น และเป่าเพลงร็อคสำหรับกีต้าร์ไฟฟ้าได้มันส์อย่างหัวคลอนเหมือนกัน ทุกอย่างดูได้ใน Youtube ครับ
เขียนอะไรได้เรื่อยเปื่อยขนาดนี่เนี่ย…ความจริงนี่คือสิ่งที่ต้องการเขียนตั้งแต่แรกเริ่มทำ Blog เลย…แต่หาจังหวะลงไม่ได้ เพราะคิดว่าคนที่เข้ามาคงไม่อยากอ่านอะไรแบบนี้ เลยเอามาซุกไว้ตรงนี้ล่ะกัน คนที่อ่านลึกเข้ามาถึงตรงนี้คงอ่านเนื้อหาอื่นหมดแล้ว ก็คงจะรับได้กับสิ่งที่ผมเขียน แต่เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยก็เป็นอีกเรื่องนึง เคารพความเห็นต่างครับ
เริ่ม bend ได้นิดนึงแล้วครับ 555 เล่นเอามึนหัวเลย หายใจไม่ทัน
อยากเป่าเพลงเพื่อชีวิต พี่พอจะมี tab ให้ผมบ้างไหมครับ
ใช้โน๊ตตัวเลขแบบขลุ่ยมาเป่าได้เลยครับ ผมเห็นเพิ่งมีรวมเล่มเพลงเพื่อชีวิตออกมาเล่มเบ่อเร่อเลย
แต่ถ้ายังจำโน๊ตไหนดูด โน๊ตไหนเป่าไม่ได้ ก็ค่อยๆ แปลงเป็น Tab ขึ้นมาเองเลยครับ ลองอ่านที่ผมเขียนเก่าๆ ไว้มาเทียบดู (แต่คิดว่าคงจำเสียงได้ เพราะใช้แกะเพลงอยู่นี่ครับ)
ผม Online ตลอดเวลาทำงาน แต่อาจไม่ได้ตอบเลยทันทีทีเห็นคำถามเพราะอาจติดงานยุ่งอยู่ แต่ไม่เกิน 24 ชม. ตอบแน่นอนครับเพราะ Blog นี้ไม่ได้ทำ Search Engine Optimize มีคนเข้ามาอ่านแค่ไม่กี่คนสงสัยอะไรถามได้เลยครับ ว่างเมื่อไหร่ตอบทันที ถ้าทำ SEO กลัวความรู้ไม่พอตอบไม่ทันคนถาม ทุกวันนี้ก็ตอบไปหัดเล่นไปด้วยครับ
อยากจะลงเพลงที่ตัวเองเล่นไว้เป็นตัวอย่างให้เยอะๆ ก่อน (มีเพลงที่เตรียม Backing Track ไว้แล้ว 3-4 เพลง เน้น Bending ล้วนๆ เลย) ค่อยทำ SEO แต่เวลาว่างจะซ้อมไม่ค่อยจะมี มีแต่เวลาเป่าเล่นเล่นซะเยอะ ผมชอบเล่น ไม่ค่อยชอบซ้อม…มันรู้สึกเครียดยังไงไม่รู้ คงหากินทางดนตรีไม่ได้ (เคยคิดจะไปนั่งเปิดหมวกเป่า Harp อยู่ แฟนผมบอกเอาไว้ไม่มีค่ายาก่อนค่อยไปทำ 5 5 5)
เม้าท์ แบบที่ตรงกลางเป็น ไม้ หรือ พลาสติก ต่างกันยังไงครับ
แล้วผมควรจะไปหาซื้อที่ไหน ที่ของดีราคาถูก
ที่ราคาไม่เกิน 1พัน มียี่ห้อไหนรุ่นไหนน่าใช้บ้างครับ
เขียนมาตั้งเยอะ ลืมเรื่องส่วนประกอบของ Harmonica ซะนี่
เอาส่วนที่ถามนี่ก่อนก็แล้วกัน เพราะเป็นส่วนที่แบ่งเกรด Harmonica เลยก็ว่าได้
ส่วนกลางที่มีรูปร่างคล้ายหวี (เมื่อแกะออกมาดู) เรียกว่า Comb ครับ นิยมทำมาจากวัสดุ 3 อย่างคือ ไม้, พลาสติด และโลหะ
แรกเริ่มของ Harmonica แทบ 100% Comb ทำจากไม้ แน่นอนมือโปรทั้งหลายย่อมใช้ Harmonica ที่ Comb ทำจากไม้ ค่านิยมจึงไปอยู่ที่ไม้ ตอนนั้น (150 กว่าปีโดยประมาณ) เจ้าตลาด Harmonica คือ Hohner ใครๆ ก็ใช้ Hohner รุ่น Marine Band การผลิตสมัยนั้น Hand Made ล้วนๆ วัสดุคือไม้ก็มีมากมาย สามารถคัดไม้ที่แห้งและแกร่งตามธรรมชาติซึ่งดูดซับ (ทั้งน้ำ และคลื่นเสียง) น้อย คุณภาพย่อมยอดเยี่ยมเป็นธรรมดา
แต่จากการเติบโตของตลาด การผลิต และวัตถุดิบ เข้าสู่กระบวนการ Mass Product ใช้เครื่องจักรในการผลิต วัตถุดิบคุณภาพต่ำลง ไม้เป็นไม้ที่ไม่แกร่ง แห้งจากการอบ ไม่ได้แห้งจากธรรมชาติ ย่อมทำให้เกิดข้อเสียชัดเจนขึ้นคือ Harmonica อายุการใช้งานต่ำลง ลมรั่วง่าย (เนื่องจากไม้ถูกความชื้นแล้วบวม พอแห้งแล้วหดตัว ยืดหด บ่อยๆ ทุกวันก็รั่ว (มันไม่ถึงกับเสีย แต่เวลาเป่าจะกินลมจากไม้…ไม่ใช่จาก reed ที่ผลิตไม่ดี) ย่อหน้านี้ทั้งย่อหน้า ไม่ได้นั่งเทียนเขียน แต่เกิดจากการสังเกตุสิ่งที่ผมสะสมคือ ผมมี Marine Band อยู่ 30-40 ตัว ไล่มาตั้งแต่ตัวแรกอายุร่วม 100 ปี (PATENT APPLIED August 1897 ตัวที่ผมถือถ่ายรูปในหัวเรื่อง เลือก Harmonica (2)…ดูประวัติจาก http://www.patmissin.com/ffaq/q38.html )จนถึง Marine Band MS (ไม่มีขายในบ้านเรา) เอามาวางไล่ดูพัฒนาการได้เลยครับ แค่เนื้อไม้ก็เห็นข้อแตกต่างชัดเจน
จากข้อเสียของไม้ก็ถูกแก้ไขโดยนำพลาสติคมาใช้แทน…ราคาถูก และไม่อุ้มน้ำ (ซึ่งมันก็ไม่อุ้มน้ำเอาซะเลย ซึ่งมันก็ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะสัมผัสมันแข็งๆ แห้งแล้วฝืด เข้ามาแทน น้ำหนักก็ไม่กระชับมือ) แต่จากค่านิยมที่กล่าวข้างต้น ไม้ถูกจัดเกรดไว้สูงกว่า และถูกนำไปโมดิฟายด์โดยผู้ผลิตรายย่อยเคลือบโน้น เคลือบนี่ ลบมุมลบเหลี่ยม…ขายกันไป…จนบริษัท Suzuki คงเห็นช่องทางการตลาดมั้งเลยออกรุ่นใหม่ชื่อ Manji ใช้ Comb ที่ทำจากพลาสติดสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติคล้ายไม้ผมลองแล้วก็ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าพลาสติดครับ ไม่แข็งเหมือนพลาสติค อุ้มน้ำเพื่อคงความชื้นไว้นิดๆ ไม่ให้ฝืด แต่ที่สำคัญผมว่าอยู่ที่ reed ของมันมากกว่าที่ง่ายต่อการ Bending มาก ผม Bending ได้ก็เพราะ Manji นี่ล่ะครับ แต่เวลาใช้งานจริงผมกลับไม่ชอบมัน เพราะผมเป่าโหด มันพังคามือผมไปแล้ว 1 ตัว
คราวนี้ก็ถึงคิวโลหะ โลหะถูกจัดเกรดไว้ระดับเดียวกับไม้ ราคาค่อนข้างสูงพอๆ กัน แต่ตัว Top ( Top ในที่นี้วัดจากความแพร่หลายในการใช้ด้วย เพราะที่แพงกว่า Top ก็มี เช่น Pure Harp ของ Suzuki ทำด้วยไม้ล้วนๆ ราคาประมาณ $100 ) ของทั้งสองค่ายกลับเป็นโลหะทั้งคู่คือ Pro Master ของ Suzuki และ Meisterklasse ของ Hohner สองตัวนี้แทบจะเป็นคู่แฝดกันเลย ทั้งรูปทรงน้ำหนัก ผมเลือกใช้ Pro Master ของ Suzuki ที่น้ำหนักมันเหมาะมือดีครับ เสียงก็แน่นแต่กังวาลดี (ที่สำคัญถูกกว่า Meisterklasse เยอะเลย) ในระดับราคานี้ Suzuki มีให้เลือกหลายรุ่นมากบางรุ่น Comb เป็นพลาสติคก็จริง แต่ Cover Plate หนาและมีน้ำหนักจากพลาสติคเกรดเดียวกับ Comb อย่างรุ่น Overdrive* และ Promaster Hammond ($ 60) เสียงงี้แน่นสุดๆ ใจจริงอยากให้เลือกเกรดนี้เนื่องจากความแน่น และหนา ทำให้เสียงหนักแน่นดีมาก แต่ราคา 1200-1400 Up ทุกตัวเลย (ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับรุ่น Overdrive จะมีรูเพื่อช่วยในการ Bend เสียง ถ้าผู้ที่ Bend เสียงได้แล้วอาจจะจับไม่ถนัดมือ ที่กล่าวถึงข้างต้นจุดมุ่งหมายเพื่อแนะนำเรื่องเสียงเท่านั้น)
ให้เลือกจากงบ 1000 บาท ถ้าเป็น Suzuki ก็จะเป็น Comb พลาสติดหมดครับ (มีตังค์ทอนเยอะด้วย) ตัว Harp Master ก็ไม่เกินงบ แต่ถ้าจะให้หลากหลายคงต้องหันมาดู Hohner เพราะจะมีให้เลือกเยอะเลยคือ ถ้า Comb ไม้ก็มี Marine Band, Blues Harp ราคาประมาณ 800 กว่าบาท (ทุกร้านจะบอกราคา 900-1000 ต่อเอาล่ะกันครับ) Comb โลหะก็มี Cross Harp (ราคาไม่แน่ใจแต่ไม่น่าเกินพัน (ลองสอบถามร้านในเวิ้ง หรือลัคกี้ ประตูน้ำดูครับ ไม่แนะนำหลังกระทรวงเพราะบอกราคาผ่านมากๆๆๆ ทุกรุ่นต่อไม่ลงเลย อายปากตัวเอง) ส่วน Comb พลาสติค มีเยอะมากราคา 700 ขึ้นครับ ถ้าต่ำกว่านี้เป็น Hohner จากจีน (ลองย้อนไปอ่านที่ผมเขียนแนะนำไว้ครับ)
Harmonica ของ Hohner จะรูปทรง Classic ดีครับ ฝรั่งนิยมกันมาก แต่มักเอาไป Mo กันเหมือนกีต้าร์ อย่างเราๆ เล่นไม่หนักก็ไม่พังหรอกครับ ที่ลมรั่วๆ ส่วนมากใช้ทำมาหากิน เป่าทั้งวันอะไรทำนองนั้น เป่าเล่นวันไม่กี่ชั่วโมงผมว่าใช้กันเป็น 10 ปีแหละ อย่างผม Hohner ของผมไม่มีพังสักตัว Super Chromonica (Comb ไม้) ผมเป่ามาตังแต่อายุ 17 เกือบ 30 ปีแล้วยังไม่พังเลย (แต่อย่าเอามาเทียบกับรุ่น HiTech ใหม่ๆ น่ะครับ…ใช้ลมผิดกันเลย)
หวังว่าคงได้เพื่อนหัดเล่น Harp เพิ่มมาอีกคนในเร็ววันครับ มีคนซักถามบ่อยๆ ผมก็กระตือรือล้นขึ้น
อย่างที่บอก…ผมชอบเล่น ไม่ชอบฝึกซ้อม เพลงที่หัดไว้เลยต่อไม่จบซะที…ไม่กี่วันนี้ก็นอกใจแอบไปมีกิ๊กกับ Ocarina (ขลุ่ยดิน) เสียหลายวัน ซื้อรุ่นไหน ราคาเท่าไหร่มาเล่นไม่สำคัญ ขอแค่เป่าให้เพราะก็พอครับ ขยันๆ ซ้อมน่ะครับ อย่าเอาอย่างผม ก้าวหน้าอย่างไรมาเล่าให้ฟังบ้างน่ะครับ
ความรู้แน่นมากนับถือเลยครับ
ผมเป่าอยู่ทั้งวันอะครับ จนปากชา มึนหัว ไปมหาลัยก็พกไป
เสาร์ -อาทิตย์ นี้ ว่าจะไปหาซื้อสัก 3 คีย์
หนังสือเพลงที่มี ตัวเลข บอกโน๊ต จะเอามาแปลงเล่นเป็นโน๊ตฮาร์โมนิกาได้ไงเหรอครับ
มีวิธีไหมครับ?
ผมเพิ่งซื้อฮาร์โมนิก้า hohner marine band deluxe มาครับ ช่องที่ 10 ทำไมเป่าใช้ลมเยอะ
เบนเสียงยากจัง มันเป็นแบบนี้หรือป่าวครับ คีย์ จี นะครับ
แล้ว suzuki folk master ผมไปเจอมัน สวยมากครับ ยี่ห้อนี้เป็นไงบ้างครับ ทนทานไหม
ไล่ตามลำดับเลยครับ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ก็คือโน๊ต C, D, E, F, G, A, B
พอเปลี่ยนจากเลขเป็นเสียงแล้วก็นำไปเทียบกับ Harp ที่เราใช้ตามตารางที่ผมเคยลงในเรื่อง “เล่นโน้ตกันได้อย่างไร”
ในช่องเสียงแถวบนคือเป่า แถวล่างคือดูด ก็นำไปเขียน Tab เองได้เลย (ตัวอย่างของ Tab เคยลงไว้แล้ว ถนัดแบบไหนก็เลือกเขียนแบบนั้นครับ)
Hohner Marine Band ที่ผมมีอยู่เป็นรุ่น Classic กับ MS ส่วน Deluxe เป็นรุ่นที่ออกมาใหม่ไม่กี่ปีมานี่เอง ซึ่งผมไม่มีจึงไม่เคยลองครับ ลองที่มีอยู่แล้วก็ไม่น่าจะใช้ลมแตกต่างจากช่องอื่นมากมายนัก แต่ให้นึกถึงธรรมชาติเสียงสูง (ด้านขวา สูงสุดคือช่อง 10 ) ย่อมใช้ลมมากกว่าเพราะยิ่งสูงความถี่ยิ่งมากลิ้น (reed) ยิ่งแข็ง แต่ไม่ควรเกินช่องใกล้เคียงมากมาย เช่น ช่อง 10 ก็ไม่ควรกินลมมากกว่าช่อง 9 อย่างชัดเจน, ช่อง 9 ก็ไม่ควรกินลมมากกว่าช่อง 8 อย่างชัดเจน, และช่อง 8 ก็ไม่ควรกินลมมากกว่าช่อง 7 อย่างชัดเจน เป็นต้น
ถ้ามันแตกต่างกันมาก อาจเป็นข้อบกพร่องจากโรงงาน ที่ผมเคยเจอ เป็นตัวที่สั่งมาจากต่างประเทศ (เจอหลายครั้ง) ซึ่งไม่สามารถลองได้ก่อน เป่าแล้วกินลมผิดปกติอยู่ช่องเดียว ถ้าเป็นน้อยลองเป่าแรงๆ (ลิ้นอาจติดนิดหน่อย) ถ้าหายก็ OK ถ้าไม่หายแสดงว่าเป็นมาก ก็ต้องเปิดฝา ดูตรงช่องที่เสียงผิดปกติ จะเห็นลิ้นโลหะยาวๆ ซึ่งเป็นตัวสั่นให้เกิดเสียง ดูเปรียบเทียบกับลิ้นข้างเคียง ควรจะมีระยะอ้าของลิ้นที่ใกล้เคียงกับลิ้นข้างๆ ที่เคยพบมักแคบเกินไปทำให้กินลม (สังเกตดูด้วยนะครับว่าอยู่ใน Case นี้รึเปล่า) ผมจะใช้กระดาษ A4 แข็งๆ สอดเข้าไปเพื่อดันให้ถ่างออก แล้วลองเป่าที่ละนิดๆ จนรู้สึกว่า OK ก็พอ ค่อยๆ ทำน่ะครับอย่าใจร้อน ถ้าง้างมากเกินมันจะเสีย (คราวนี้ต้องถอดหมุดออก…เรื่องใหญ่เลยล่ะ) ถ้าเป็นลิ้นอีกด้านนึงซึ่งสอดกระดาษไม่ได้ ก็ใช้ไขควงแว่นตาอันเล็กค่อยๆ เขี่ยให้ถ่างออกแบบเดียวกัน ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ลองเสียง ครับ
ความจริงผมไม่อยากแนะนำเรื่องแบบนี้เลยเพราะถ้ามือหนักมันเสียเอาง่ายๆ แต่จากที่มีเยอะ เลยเจอมาเยอะ มันก็ต้องโดนกันบ้างแล้วแต่ดวง ใจเย็นๆ มืออย่าหนักก็พอครับ
ที่ผมเจอมา Hohner นี่ล่ะแต่งกันบ่อยที่สุด เหมือนกับเขารุ้ว่าคนชอบเอามา Mo เล่นรึไงไม่รู้ ไม่ค่อยจะสมบูรณ์ (แต่การที่เราได้เอามาปรับ มาแต่ง ตามลมที่เราชอบก็ทำให้เรารัก Harp ตัวนั้นมากขึ้น เพราะมันเหมาะกับเราที่สุด ใม่รู้ Hohner ใช้หลักจิตวิทยาแบบนี้ในการขายของรึเปล่า) ฝรั่งทำกันเป็นเรื่องปกติครับ ยิ่งปรับเพื่อ Overblow นี่ร้อยล่ะร้อยเลยว่ากันเป็นลิ้นๆ ตามเพลงที่จะใช้เลยครับ
ผมเป็นคนใม่ชอบเรื่องแบบนี้ (สุขนิยม หยิบง่าย ใช้สะดวกไว้ก่อน) หลักจิตวิทยาแบบนี้เลยใช้กับผมไม่ได้ ผมเลยมาติดใจ Suzuki นี่แหละ Laser Cut ชัวร์แท้แน่นอน แล้วแต่ชอบครับ ฝรั่งมันบ้า Hohner กันขนาดหนัก ปรับแต่งกันอยู่นั้นแล้ว แทบทุกคนที่เล่น Harp เลย ไม่เคยเจอเลยที่มันจะไม่ถอดฝาออกมาแงะเล่น ก็ตามใจมันครับ แงะแล้วดีก็ Ok จะได้ทำตาม แงะแล้วพังมันก็คงไม่มา Post เล่าแน่
แต่สำหรับ Suzuki Folk Master รุ่นนี้เคยจับนานมากแล้ว ไม่แน่ใจว่า reed เป็น Laser Cut เหมือนรุ่นสูงๆ รึเปล่า ผมโทรถามทางธีระ เผอิญคุณต้อมไปต่างประเทศคนอื่นก็ไม่รู้รายละเอียด คงต้องรอสอบถามเพิ่มเติมอีกครั้งครับ
ว่าแต่ทำไมไม่ซื้อคีย์ C ล่ะครับ ผมว่ามันเล่นได้หลากหลายกว่าน่ะ เพลงในท้องตลาด (รวมทั้งโน๊ตที่คนรวมเล่มขาย) มักเป็นคีย์ C อีกอย่าง C harp ถ้าเป่า 2 Position ก็จะได้คีย์ G ซึ่งเป็นการเป่าผสม Bending จะได้สำเนียง Blue (ตอนแรกผมก็สงสัยว่าเพลงคีย์ G ทำไมไม่ใช้ G Harp เป่า ทำไมต้องไปทูโพซิชง ซิชั่น ให้ยุ่งยาก….ก็ไปหาอ่านเลยพอจะเข้าใจได้ว่าการจะเป่าเพลงคีย์ G ด้วย C Harp จำเป็นต้อง Bend เสียงถึงจะได้เสียงครบตาม Scale ทำให้ในบทเพลงมีการเอื้อน (Bending) ผสมอยู่ตลอด ถ้าใช้ G Harp เลยก็จะได้ Melody ตรงๆ ธรรมดาๆ
พอดีเพลงที่แกะไว้เป็นคีย์ จี ซะส่วนใหญ่
ผมจะซื้ออีกเรื่อยๆ จะไม่เอารุ่นเดิมลองใช้แบบที่เป็นอะคลิลิค เหล็ก ไม้ หลายๆแบบอะครับ
เพราะสะสมไว้สวยงามดี
แบบที่เป็น ไม้ ล้างน้ำได้ไหมครับ? ไม้จะเสีย เป็นเชื้อรา หรือสนิมจะขึ้นหรือป่าวครับ
พอดีล้างน้ำไปแล้ว มีเพื่อนทดลองเป่าเยอะครับ
เค้า (ฝรั่ง) ว่ากันว่าล้างได้ แต่ผมเคยแกะดูตัวเก่าๆ หมุดยึด reed มักเป็นสนิม
ส่วนตัวผมเลยไม่นิยมล้างครับ ใช้เคาะเบาๆ ใส่ผ้าเวลาเล่น และเล่นเสร็จก็เช็ดให้สะอาดด้วยคอตตอนบัด
ถ้าล้างไปแล้วก็เคาะกับผ้าให้แห้งครับ ถ้าไม่หมกตอนชื้นๆ ไม่มีราหรอกครับ
แต่ไม่ควรให้ใครยืมอีก เพื่อสุขภาพส่วนตัว เพราะ Harmonica นี่มันยิ่งกว่าแปรงสีฟันอีกน่ะ สีฟันยังมียา เสร็จแล้วยังล้างน้ำ แต่ Harp นี่น้ำลายล้วนๆ แห้งยังไงก็น้ำลายครับ (อ้อ คอตตอนบัดผมจะชุบแอลกอฮอล์ด้วยถ้าเป็นการเช็ดใหญ่ก่อนเก็บเข้ากล่อง เพราะแอลกอฮอล์สมัยนี้หอมดีครับ เป็นการรักษากลิ่นที่ดีให้กับ Harp ด้วย)
ขอร่วมคุยด้วยคนครับ..
– เรียนถามคุณ hamonicafe .. ผมควรจะตัดสินใจแก้ปัญหาชีวิตด้วยการหาChromatix มาเล่นซะดีมั้ย (suzuki scx 48 หรือ 56) หรือควรจะฝึก bending ต่อ
– ท่านที่จะเริ่มต้นเล่น harp เริ่มจากคีย์ c นะครับ ผมมีเกือบครบทุกคีย์แล้ว แต่พอเดินทาง จะพกคีย์ c ไปตัวเดียว..ถ้าเล่นคนเดียวเอาเพลิน ไม่ได้แจมกับเครื่องดนตรีอื่น คีย์ c ตัวเดียวเล่นได้เกือบทุกเพลงแล้ว
– ผมสังเกตว่า ในหนังสือเพลงที่บอกคอร์ทไว้.. ถ้าเริ่มต้นด้วยคอร์ทไหน(เช่นคอร์ท G) จับ harp คีย์นั้นมาเล่น มักจะเล่นได้จบเพลง
– ตอนนี้ผมแกะเพลงของคาราวาน โหยหวนดี และได้บรรยากาศเพลงบลู อีกทั้งส่วนใหญ่เป็นคีย์ c ..จนอดคิดไม่ได้ว่า ตอนพี่หงา เดินป่า-แต่งเพลงปลอบใจมวลชน ตอนนั้นอาศัย คีย์ c เป่าเทียบเสียงตอนแต่งเพลง เพราะมี harp คีย์ c เหน็บตูดไปคีย์เดียว (ฮา)
มะกี้ผมฝากแฟนไปซื้อ คีย์ C มาเพิ่มอีกตัวหนึ่งครับ suzuki pro master
ร้านที่พี่แนะนำมาเลยครับ ธีระมิวสิค คนขายผู้หญิงชื่อ ป้อม หรือป่าว
คุณ Prakarn มีแทปฮาร์โมนิก้า ของคาราวานบ้างไหมครับ ขอบ้างนะครับ
อยากได้ เพลง เดือนเพ็ญ มากเลย
สวัสดีครับคุณเหยือกเบียร์…ไม่ได้คุยกันนานเลย เดี๋ยวจะแปลกใจทำไมผมรู้ชื่อเล่น คือผมก็ search หาความรู้เกี่ยวกับ Harp ไปตามนิสัยถาวร ไปเจอรายละเอียดประเภท Harmonica …เอ้…ข้อความมันคุ้นๆ ลองเข้าไปอ่านถึงเจอเครดิตตัวเองหราอยู่…เลยพบว่าคุณเหยือกเบียร์ช่วยแนะนำความรู้เกี่ยวกับดนตรีชนิดนี้ให้คนใกล้ตัวได้รับทราบ…อันนี้ขอบคุณแทนสังคมคนเล่น Harmonica ในบ้านเราครับ
คราวนี้มาเรื่องที่ถามถึงบ้าง อย่าไปเรียกปัญหาชีวิตครับ…แหมอ่านแล้วนึกถึงตัวเองสมัยเกือบ 10 ปีที่แล้ว…ผมมีปัญหากับแฟนมากเลย เรื่องซื้อเครื่องดนตรีเนี่ย…อธิบายยังไงก็ไม่เข้าใจ เลยต้องอาศัยเวลาเท่านั้นเป็นเครื่องพิสูจน์
ผมสะสมเครื่องดนตรีไม่ใช่เฉพาะ Harmonica แต่ยังมี คลาริเนต (ตัวนี้เลิกสะสมเด็ดขาดไปแล้ว…ขายเรียบ เก็บที่ระลึกไว้เล่นตัวเดียว), Ocarina, Sax ที่ทำจากไม้ ดนตรีไทยก็มี ปี่ใน, ขลุ่ย บ้านที่ผมใช้ทำงานมองไปทางไหนมีแต่เครื่องดนตรีเต็มไปหมด (ตอนย้ายบ้านนี่คุณเอ๋ย…น้ำตาซึมเลย..หาไม่เจอบ้าง บางอันก็บิ่นกระเทาะเสียหายหลายชิ้นเลย) ที่อยากจะบอกคือ ขอให้เก็บให้ดีครับ เครื่องดนตรีที่ดีมีสกุล…ราคาไม่มีวันตก ผมเคยตกงานก็ได้คลาริเนตช่วยชีวิตมาแล้ว (ขายได้กำไร 4 เท่าตัว) Harp Master เป็น Harmonica ที่อยู่ในเกรดสะสมได้ คุณภาพดี รูปร่างสวยงาม เพียงแต่ต้องรอเวลา (ผมยังเก็บไว้เป็น 10 ปีเลย) Harmonica ที่ผมมีอยู่ตอนนี้ถ้าผมลงขายใน ebay ราคาเฉลี่ยจะเพิ่มจากที่ผมซื้อ 3 เท่าตัว ตัวเด่นๆ นี่เพิ่มขึ้น 5 เท่า (ในเมืองไทยขายไม่ได้แถมแรกๆ แฟนผมเรียกเครื่องดนตรีที่ผมสะสมว่าขยะ 5 5 5 นี่น่าจะเรียกปัญหาชีวิตมากกว่าน่ะเนี่ย) ถ้าเรายังไม่มีความสุขในการเล่นตอนนี้ ก็เก็บให้ดีครับเช็ดแอลกอฮอลล์ทุกซอกทุกมุมจนหอมสดชื่นเลย ใช้ผ้าเช็ดรอยมือให้ใสแวว อย่าให้ชื้นสนิมจะถามหา แห้งสนิทแล้วเก็บเข้ากล่องเลยครับ เดี๋ยวก็มีคนถามหา ถึงจะใช้แล้วแต่สะอาด และสภาพดีมีคนต้องการครับ ยิ่งไม่รีบ…สักพัก (นานหน่อย) Suzuki ก็จะเปลี่ยนรุ่น เลิกผลิตรุ่นนี้ (คือผลิตแต่ใช้ชื่ออื่นแทน) ก็จะเป็นของที่หาไม่ได้ในท้องตลาด แค่นั้นเองครับ อย่าไปคิดว่าเงินจม เพราะเป็นของที่เรารัก ไม่ได้ซื้อมาเพื่อเก็งกำไร หยิบขึ้นมาเล่นได้ตลอดเวลา มีความสุขกับมันตลอด บางครั้งไม่มีเวลาเล่น ผมหยิบขึ้นมาเช็ดๆ ขัดๆ ให้แววๆ ก็ยิ้มได้แล้วครับ ขออย่างเดียวเก็บให้ดีครับ ให้สะอาดอย่าชื้น (ใส่กันชื้นไว้กับกล้องก็ได้)
ส่วนจะซื้อChromatix มาเล่น…ถ้าทำให้เรามีความสุขก็ซื้อเลยครับ อดเบียร์สักเดือนครึ่งเดือนก็ซื้อได้แล้วมั่ง ผมว่าsuzuki scx 48 ก็พอ ยังไม่พร้อมจะฝึก bending ตอนนี้ก็หยุดไว้ก่อน คุณเหยือกเบียร์เชื่อไม๊ว่าผมเคยหัด Bending 2-3 ปี ทำอย่างไรก็ Bend ไม่ได้ ก็เล่นแต่ Chromatic มาเรื่อยๆ แต่ก็มี Diatonic Key C วางไว้ใกล้ๆ มือ เป่าเล่นๆ ไม่ได้ก็ช่างมัน เปิดคอมฯ เล่น Karaoke ก็เป่า Chromatic เล่นพอเลิกก็เข้า Net ดู Youtube มีฝรั่งมา Bend ใหม่ๆ ให้ทำตามก็เอา Diatonic มาลองดู เป็นอย่างนี้มาเป็นปีๆ บทมันจะได้มันได้เองเฉยเลย แต่มันไม่นิ่ง ที่ผมบอกว่าหัดเดือนเดียวนั้นคือ วันที่บังเอิญผมเป่าออกมาได้ ผมรีบหัดหนักอย่าเร่งด่วน จับจุดให้ได้ แล้วไล่ให้ได้ทุกช่อง เดือนเดียวได้ครบหมดทุกช่องเลยครับ (แต่ 2-3 ปี เสียงเดียวมันยากเย็นเหลือเกิน) เอาแค่สนุกๆ ครับ (ว่าแต่ซื้อ Harp Master มากี่ Key ครับ ตัวละเท่าไหร่…เผื่อมีคนสนใจผมจะแนะนำให้
Key C เค้าเรียกอีกอย่างว่า Natural Key คือมีเสียงใกล้ธรรมชาติของคนที่สุด มันทำให้เรารับฟังได้รื่นหู ผมก็ใช้ Key C ตลอดครับ นอจากเล่นตาม Note sheet Key อื่น ถึงจะใช้ Harp Keyนั้น
ผมก็คิดเหมือนกันว่าเข้าป่านี่พกแต่ Key C แน่ๆ ครับ แถมน่าจะของจีนแดงด้วย พี่หงาแกอยุ่ในระดับจับอะไรก็ถึงจิตวิญญาณของดนตรีแล้วครับ คาราวานเป็นเพื่อชีวิตจริงๆ ที่ผมศรัทรา และชื่นชม
ตอบคุณตั้ม
ผมซื้อกับคุณต้อมครับ เป็นผู้ชาย…คงเป็นญาติกัน
แต่คุณต้อมมีความรู้เรื่อง Harmonica มากครับเพราะเป็นคนดิวกับทางญี่ปุ่น
น่าจะมีเว็บไซด์ ที่ไว้โพส แลกเปลี่ยน tab harmonica นะครับ
อ่านแล้วเหมือนคุณต้นกำลังบ่นน้อยใจยังไงไม่รู้ ฮิๆ
อย่าคิดมากไปเลยครับ ไม่ใช่ว่าผมหรือคุณHarmonicafe ไม่สนใจคำขอหรือไม่มีน้ำใจจะหามาให้ แต่การใส่เนื้อเพลงพร้อมtab ลงบนบอร์ดนี้มันทำไม่ได้หรือทำได้ยาก วิธีที่ง่ายกว่านี้คือค้นจาก google นี่แหละครับ พิมพ์ชื่อเพลง-วรรค-ตามด้วยชื่อคนร้องหรือคนแต่ง-วรรค-พิมพ์คำว่า-tab แล้วกดenter ก็พอจะได้ข้อมูลแล้วล่ะ
ข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่งคือ ผมไม่ได้จดโน๊ตเอาไว้หรอก แต่ใช้วิธีเป่าไล่โน๊ตด้วยความเคยชินไปตามทำนอง มีเนื้อเพลงไว้ดูเพื่อจะได้เล่นไปจบเพลงแบบไม่หลงกลับไปกลับมาเพราะลืมเนื้อเพลงซึ่งไม่เคยจำได้(ฮา)
แล้วทำไมถึงใช้คำว่าแกะเพลง..
ขอให้ย้อนกลับไปดูภาพประกอบบทความด้านล่างเรื่อง”เล่นโน้ตกันได้อย่างไร”ประกอบไปด้วยนะครับ
ยกตัวอย่าง key C เริ่มจากช่องที่ 4 (ช.)
ถ้าเป่า(ป.)จะเป็นเสียง โด ถ้าดูด(ด.)จะเป็นเสียง เร
ช.5 ป.- มี ด.- ฟา
ช.6 ป.- ซอล ด.- ลา
แต่พอถึง ช.7 ถ้าเป่าจะข้ามกลายเป็น โดสูง ถ้าจะไล่โน๊ตตามลำดับ มี-ฟา-ซอล-ลา-ที-โด ต้อง เป่า-ดูด-เป่า-ดูด-ดูด-เป่า
ตั้งแต่ช่อง7ไปนี่แหละครับที่ทำให้สับสน กำลังใส่อารมณ์เพลินๆ พอขึ้นที, ขึ้นโดสูง ทีไรเสียงเพี้ยนโดดปี๊ดไปอีกคีย์ซะทุกที(เฮ้อ)
คำว่าแกะเพลงของผมจึงไม่ได้หมายความว่าผมจดโน๊ตตัวเลขเอาไว้ แต่หมายความว่าผมพยายามจำไว้ว่าถึงท่อนนี้อย่าลืม เป่าแทนดูด หรือ ดูดแทนเป่า
เผื่อเป่าให้สาวเจ้าฟัง กะลังได้อารมณ์(เพลง) สาวเจ้าจะได้ไม่เผลอปล่อยก๊ากเพราะเล่นเพี้ยนให้เสียบรรยากาศน่ะครับ
Web หรือ Blog ที่เกี่ยวกับการศึกษาด้านตนตรี ส่วนมาจะใช้เพลงต่างประเทศเป็น Case ในการศึกษาทั้ง Note Sheet และ ตนตรี เพราะฉะนั้นที่ Post โน๊ต หรือ Tab กัน จะไปทำในรูป สมาชิกมา Post ในบอร์ด เพราะต่างรู้กันดีว่าบางค่ายเค้าหวง ซึ่งเราก็ต้องเข้าใจเขาด้วยในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้
ผมไม่อยากเครียด ก็เลยข้ามสิ่งเหล่านี้ไปเสียเลยคือ ไม่ฟัง ไม่ซื้อ ไม่เล่น เพลงที่เขาหวง แต่ก็อดไม่ได้ในศิลปินที่ผมชอบเช่น อ.ธนิสร์ เพราะเพลงที่ผมซ้อมอยู่ตอนนี้คือเพลงทานตะวัน, คำหวาน (ประกอบภาพยนต์ โหมโรง) และ Yesterday สองเพลงแรกเน้นการ Bending เพลงสุดท้ายใช้การ Overblow
ที่ไม่มั่นใจมากๆ คือเพลงทานตะวันว่าสามารถนำมาทำ Blacking Track ได้หรือไม่ ถึง อ.ธนิสร์ กับ อ.เนาวรัตน์ จะเป็นเจ้าของลิขสิทธ์ แต่ผมไม่ทราบว่ามีบริษัทใดถือลิขสิทธ์ร่วมหรือไม่ แต่ยอมรับว่าผมชอบเพลงนี้ และเป็นเพลงที่เหมาะกันเครื่องเป่ามากๆ โน๊ตเรียบง่ายเพราะเป็นโน๊ตขลุ่ย จะเพราะหรือไม่เพราะ อยู่ที่ลูกเล่นของผู้เล่นดนตรีล้วนๆ เลย ก็จะลองดูล่ะครับทำด้วยความชื่นชมในตัวผู้ประพันธ์ ไม่ได้หวังผมกำไรใดๆ ส่วนเพลงคำหวานเป็นเพลงโบราณของดนตรีไทยก็ปลอดภัย และสุดท้าย Yesterday ก็ไม่ผิดธรรมเนียมของผรั่งที่นำมาฝึกปรือกันได้อยู่แล้ว
คุณตั้มอย่างได้ Tab ผมก็เลยนึกไปถึงสมัยแรกๆ ผมก็หาและไปพบโปรแกรม Bendometer ซึ่งประจุ Tab ในตัว Menu ของโปรแกรมไว้มหาศาล (อ้อ เป็นเพลงฝรั่งล้วนๆ น่ะครับ แต่เป็นเพลงระดับอมตะทุกเพลง) เมื่อก่อนต้องเสียเงิน แต่ตอนนี้ฟรีครับ ผมทำรีวิวไว้เกินครึ่งแล้วไม่รู้คืนนี้จะเสร็จทันรึเปล่า อย่างไรไปลอง load มาเล่นก่อนก็ได้ ใส่ชื่อโปรแกรมใน google ได้เลยครับ
ที่สำคัญโปรแกรมนี้อำนวยความสะดวกในการฝึกเป่า Harmonica ทั้ง Single Note และ Bending โดยไม่ต้องมานั้ง Bend เสียงใส่ Tuner กันอีก ขึ้นหน้าจอกันชัดๆ เลยครับ ลองดูครับประโยชน์สองเด้งเลย
ตอนนี้คือเล่นแบบ หาเพลงที่มีท่อนเป่า harp แล้วก็แกะตามอะครับ เพลงอื่นๆ ไม่รู้จะเล่นยังไง แต่อยากใช้ harp เล่น แต่จนปัญญาจริงๆ
diatonic นี่ มีทั้งหมดกี่ คีย์เหรอครับ เห็นที่ร้านมีขายเป็นเซต เซตนึงมี 12 อัน จำเป็นต้องใช้เยอะขนาดนั้นไหมครับ ผมหามาได้ 6 คีย์ ละ
ทั้งหมดมี 12 Key ครับ แต่ไม่จำเป็นต้องมีครบก็สามารถเล่นได้ทุก Scale (แรกๆ ก็จะเอาให้ครบ…เหมือนผม ล่อมาทั้ง Set 12 ตัว ซะหลายรุ่นเลย) ลองอ่านที่ผมพิมพ์คุยกับคุณ Prakarn (เหยือกเบียร์) อยู่ใน About ของ Blog (คุณเหยือกเบียร์มาถามใน About ผมก็เลยต้องตอบในนั้น คนอื่นคงไม่ผ่านตา) ดูครับ
มีเพียง 7 Key ก็สามารถเล่นได้ครอบคลุมทุก Scale แล้ว แต่ใช้บ่อยๆ แค่ 5 ตัว คือ C G A D Bb อันนี้คือเล่นแบบมนุษย์ธรรมดาน่ะครับ ใกล้เคียงเทพจำนวน Harp ก็จะลดลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายสำเร็จเป็นเซียน Diatonic Key C ตัวเดียวก็จะเล่นได้ทุก Key ครับ (เคยดูฝรั่งมันไล่ทุก Scale ด้วย C diatonic Harp ตัวเดียว ฝรั่งด้วยกันเองยังบอกว่าลำบากนักก็ไปซื้อ Chromatic มาใช้เถอะ)
อย่าใจร้อนครับ มีแค่ไหนก็เล่นแค่นั้นไปก่อน จำเป็นค่อยซื้อ แต่ถ้าไม่เดือดร้อนก็ 5 ตัวพอครับ
ถ้ายังจับจุดจะเริ่มไม่ได้แนะนำหนังสือของ อ.นพดล ฉิมท้วม จะเป็นเบสิคจริงๆ เพียงแต่เค้าใช้ Harmonica แบบ Tremolo สอน ซึ่งคงต้องอ่านเอาไกด์ไลน์แล้วประยุกต์เอาเอง เบสิคจะเหมือนกับที่ผมแนะนำแต่ละเอียดกว่าส่วนข้อแตกต่างก็มีบ้าง เช่นการจัดรูปปาก การจับ อันนี้เป็นทางเลือกแล้วแต่ความชอบ ความถนัดของผู้อ่าน แต่นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่มีใครแนะนำอย่างละเอียด
ผมอ่านของ อ.นพดล แล้วครับ ดู cd แล้ว แต่สอนเรื่องตัวโน๊ตซะส่วนใหญ่ และก็ harmonica ที่ผมมีเป็นแบบ diatonic ไม่เหมือนกับในหนังสือ
อันผมลองแปลงโน๊ตจากหนังสือคีย์บอร์มาเล่นๆ ไม่รู้เป้นไงบ้าง
เพลง คิดถึงบ้าน ของ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
ผมใช้คีย์ C เป่า อะครับ เพลงเดิมจริงๆ มันน่าจะ คีย์D นะ
+ คือ เป่า , – คือ ดูด
+4 -4+5+6+7+6-6 +7-6+6+5+6-6+5
+4 -4+5+3-5+5-4 +3+4-4 +5+5+4+5
+4 -4+5+6+7+6-6 +7-6+6+5+6-6+5
+4 -4+5+3-5+5-4 +3+4-4 +5+5-4+5
* +4-4+5-5 +4+4 +7-5 -4+5-5+6+6 +4-4
+4-4+5-5 +6-5+5-4 -6-7+7-8+7-7-6+6
** +4 -4+5+6-6+7-6 +7-6+6+5+6-6+5
+4-4+5-5+5+6-4 +3+4-4+4-4+5+4
ซ้ำ */**
เพลง หนุ่มพเนจร ของ คาราวาน G
+5-5+6+6+6-5+5-5+6 +4-4+5+5+4+5+6-6
-6+6-5 -5+6-5+5 จบครับ 5555
อยู่ในช่วงสับสนกับตัวโน๊ตอยู่ครับ เพราะเพิ่งหัดเล่น เป่าคีย์หนึ่งอยู่ พอไปเป่าอีกคีย์ไปไม่ถูกเลยครับ
ตอนนี้เป่าแบบจบเพลงได้ประมาณ ห้า หก เพลง
แต่เล่นกีต้าร์ไปด้วยเป่าไปด้วยงงมากเลยครับ ดีดจังหวะเพี๊ยนไปหมด
ผมเห็นในคลิปใน youtube มา ประมาณว่าพรีเซ่น harmonica suzuki รุ่น over drive
ไม่ทราบว่าพี่มีหรือป่าว ผมเห็นในคลิปใช้นิ้วกดตามรู แล้วเสียงจะสูงขึ้น มันเหมือนกับ harmonica ที่มี กระเดื่อง กดข้างๆหรือป่าวครับ
คุณharmonicafeครับ
ตอนนี้ผมมี harp master คีย์ C D F G A ว่าจะสั่งซื้อ Bb อีกตัว เพราะคุณภาพใช้ได้และอยากเก็บเป็นชุดสะสมซะเลย
ส่วน csx 48 หรือ 56 นั้น ลังเลอยู่ เพราะกำลังเปรียบเทียบกับ manji คีย์ C ราคาแตกต่างกันมากและที่สำคัญคือเป็นคนละรูปแบบกัน csx นั้นสนใจเพราะน่าจะเล่นสบายๆกว่า แต่ manji ก็ช่วยให้เอาดีด้าน diatonic ได้ง่ายขึ้น
คาดหวังว่าหนาวนี้จะมีฝีมือพอให้ได้เดี่ยวข้างกองไฟโชว์พรรคพวกนะครับ
ขอถามครับ hohner marine band 1896 กล่องสีขาวๆ ครับ
คีย์ D ไม่รู้รุ่นอื่น ยี่ห้ออื่น เป็นหรือป่าวครับ
ช่องที่ 7 ตอนดูด ใช้ลมเยอะหรือป่าวครับ ของผมดูดเบาๆ ไม่มีเสียงเลยครับ ต้องดูดแรงๆ บ้างทีดูด แรงๆมากๆ ก็ไม่มีเสียง
ถ้ามันผลิตมาไม่ดี มีวิธีแก้ไขไหมครับ? แกะออกมาทำเองได้ไหม ทำอย่างไรครับ?
ตอบคุณตั้ม…ตามหลักที่ใช้กันอยู่ก็ทำอย่างนั้นล่ะครับ จากโน๊ต (ตัวเลข หรือ ตัวอักษรก็ตาม) มาเป็นเลขช่องที่ทำไห้ได้เสียง กำกับด้วยเครื่องหมายที่สื่อถึงการ เป่า หรือดูด
Tab แบบนี้เป็นสากลครับ คนที่เล่น Harmonica ทั่วโลกจะเข้าใจตรงกัน
การเล่นกับกีต้าร์ ก็ต้องฝึกแยกประสาทจนกว่าจะชิน คงใช้เวลา คนเล่น Harmonica เดิน Melody แทนคำร้องเลย พร้อมกับเล่นกีต้าร์ไปด้วยมีน้อยคนครับ ส่วนมากจะเป่าเป็นท่อน Solo สั้นๆ หรือเป่าเป็นเสียงประสานคลอไปเท่านั้น (เป่า Single โน๊ตไม่ได้…มีเยอะมากครับ)
ส่วน Suzuki Overdrive ผมก็มีอยู่ครับ พอดีไปเจอลดราคาใน Ebay เลยได้มาหลายตัว มันออกแบบมาสำหรับเสียงที่อยู่ในช่วงที่ Bend ไม่ถึง คนที่จะเล่น Suzuki Overdrive ต้องเป็นคนที่ Bend เสียงได้คล่องแล้ว (ไม่ใช่มีไว้เพื่อหัด Bend เสียงน่ะครับ) จึงใช้มันเพื่อเล่นเสียงในระบบ Valve (ซึ่งเป็นระบบเสียงที่ผมเห็นมีแต่ใน Suzuki แต่ก็อาจมี Band อื่นผลิตด้วยน่ะครับ ถ้าใครผ่านตาช่วยแจ้งให้ทราบด้วย ลองดูภาพใน Bendometer เลือกเปลี่ยนระบบเสียงเป็น Value…แต่ถ้ายังไม่ได้ Load มาก็ไม่ต้องไปสนใจมันหรอกครับ ผมว่าฝึก Bend เสียงก่อนดีกว่า) เป็นคนละระบบกับ Chromatic (แบบที่มีปุ่มกดคล้ายกระเดื่องนั้นล่ะครับ) ถึงจะผลิตเสียงได้จำนวนใกล้เคียงกัน แต่เสียงที่ได้แต่ล่ะช่องจะแตกต่างกันครับ ที่สำคัญคือรูของมันทำให้พลาดได้ง่าย ไม่ค่อยถนัด พลาดไปปิดเข้านี่เสียงบอดเลยครับ ต้องฝึกเป็นการเฉพาะถ้าจะใช้มัน (ลองดูใน Clip จาก youtube จะเห็นว่าแม้แต่คนสาธิตยังแค่เป่า Test ให้ดูเฉยๆ เลย ถ้าจะเป่ายาวๆ ต้องฝึกจับให้ดีครับ เรื่องเสียงของ Overdrive นี้ผมไม่ได้แปลจากฝรั่ง แต่อ้างอิงจากการทดลองใช้ด้วยตัวเอง ถ้ามีข้อผิดพลาด…ผู้รู้ช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ)
ปัญหาของ Marine Band ที่ถามผมลองดูที่ผมมีอยู่ ก็ไม่กินลมจนแตกต่างจากช่องใกล้เคียงน่ะครับ ลองทำอย่างที่ผมแนะนำด้านบนดูก็ได้ ค่อยทำไปลองเสียงลองลมไป อย่ารีบ หรือมือหนักน่ะครับ
ตอบคุณเหยือกเบียร์…แหม ท่าทางจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ผมไม่กล้าแนะนำเลย แนะนำคราวที่แล้วก็ล่อซะยก Set มาแล้ว กลัวถูกด่าในใจ แนะนำที่ไร…ตรูเสียเงินเยอะทุกที เอาเป็นว่าตามกำลังดีกว่าครับ ธรรมดาน่อ… รักพี่เสียดายน้อง (แต่หยิบมาทั้งสองก็ไม่น่าเกียจน่ะครับ)
อ้อ…ลืมไปนิดสำหรับคุณตั้ม ไม่อยากเปลี่ยน Key Harp หลายตัวให้สับสม ก็หาซื้อ Capo ไว้คาดกีต้าร์แทนก็ได้ แล้วใช้ Harp ตัวเดียว เวลาเล่นกีต้าร์แล้วอยู่ผิดคีย์ ก็ขยับคาโป้ลงมาเรื่อยๆ จนเสียงอยู่คีย์เดียวกัน ไม่ต้องเปลี่ยน Harp กีต้าร์ก็จับคอร์ดเดิมครับ
ถามเรื่องกีต้าร์ หน่อยนะครับ
ใช้ capo อยู่เหมือนกันครับ ซื้อมานานแล้ว แต่เล่นไม่ค่อยเป็น
แต่ถ้าเปลี่ยน จาก A เป็น G capo หนีบ แล้วเวลาโซโล่กีต้าร์ ท่อนโซโล่ที่แกะมาจากเพลงคีย์ A
เอามาโซโล่ ตอนที่ ใช้ capo หนีบ เป็น คีย์ G ได้ไหมครับ
จะต้องโซโล่ยังให้เข้ากับคีย์ที่เปลี่ยนไปครับ
ต้องออกตัวก่อนว่า กีต้าร์ผมเป็นแค่ตีคอร์ดเล่น ไม่รู้มากครับ
คิดว่านิ้วลงยังไง ก็ลงเหมือนเดิมครับ เสียงเปลี่ยน Key ไปตามที่เราต้องการ
ขอผู้รู้มาคอนเฟริมด้วยครับ
พี่คับรู้จัก harmonica hohner puck ที่เป็นไม้ปะคับ
งบไม่เกิน500อะคับพอจะมีดีๆปะคับ
Puck มีผลิตมา 2 Key คือ C กับ G
และยังแบ่งเป็น 2 สายการผลิตคือ
Puck ธรรมดาผลิตในจีน
Double Puck ผลิตในเยอรมัน
ผมซื้อ Key C ในไทย และสั่ง Key G จาก Net (เพราะในไทยมีแต่ C) ทั้งสองตัวคุณภาพเหมือนกัน (ให้แค่ C+ หรือ B พอ) แม้จะแตกต่างกันที่กล่องบรรจุ ในไทยเป็นกระดาษแข็งธรรมดา ในอเมริกาเป็นกล่องพลาสติกแข็งแรงกว่า
ส่วน Double Puck เป็น Key C และ G หันหลังติดกันเป็นอันเดียว คุณภาพดีกว่ามาก (อันนี้ให้ A ครับ) บรรจุในกล่องกระดาษเคลือบมันรูปวงรีสีแดงสด สวยงาม ตัว Harmonica มี Cover Plate เป็นสีทองปราณีตน่าใช้มาก เล่นก็นุ่มนวลใช้ลมน้อยกว่าครับ ยังเสียดายที่ผมซื้อไว้แค่ชุดเดียว เพราะตอนนี้ราคาค่อนข้างแพง ไม่ทราบในไทยมีของรึเปล่า ผมเคยเดินหาที่เวิ้งก็ไม่มีครับ
แต่อย่างไรทั้งหมดก็มี Comb เป็นพลาสติดครับ ผมไม่เคยเห็นที่เป็นไม้ (อาจมีก็ได้แต่ผมไม่เคยเห็น)
สำหรับ Harp Size เล็ก นอกจาก Puck แล้วยังมีรุ่น Piccolo อันนี้มี Comb เป็นไม้ครับ หวังว่าคงไม่จำสลับกันน่ะครับ Piccolo นี่เกรดดีครับมีกลุ่มที่ใช้เป็นแฟนคลับกลุ่มใหญ่พอสมควร น่าสะสมครับ
Diatonic งบไม่เกิน 500 (ผมรวมคำถามมาตอบในช้อเดียวกันเลยน่ะครับ)
คงต้อง Suzuki ครับ ลองสอบถามทางธีระมิวสิคดู เพราะผมจำชื่อรุ่นไม่แม่นกลัวให้ข้อมูลผิดครับ
ถ้าเป็นยี่ห้ออื่นก็ต้องใช้เวลาคัดเลือกนานมาก และทางร้านเค้าคงไม่ให้ลองเป่าแน่ แต่ Suzuki นี่ไม่ค่อยมีพลาด QC เค้าดีครับ
ผมได้ suzuki over drive มาตัวนึง ซื้อเพราะความอยากเล่น พอได้เล่นไม่เห็นมีอะไรเลย
มีวิธีเล่นไหมครับ ดูในคลิปทำไมมันเทพจัง เสียงสูงมาก
ทำไมผมเล่น มันของเสียงสูงๆ ได้แค่ ช่องที่ 4 5 6 เองละครับ คือต้องกดรู และก็เป่าแรงๆใช่ไหม วิธีนี้ถูกต้องหรือยังครับ ถ้าดูดเข้า กดรู ล่าง หรือป่าว
Suzuki Overdrive มีไว้เพื่อคนที่ Bend เสียงได้แล้วครับ และต้องการเล่นเสียงเพิ่มขึ้นในระบบ Valved ตามที่ผมพิมพ์ไว้ด้านบน
สำหรับคนที่ Bend เสียงยังไม่คล่องจะ Control มันลำบาก เพราะไม่ใช่แค่เป่า หรือดูดให้แรงขึ้นเท่านั้น ถ้า Bend เสียงยังไม่คล่อง มันก็คือ Harmonica ธรรมดาที่มีรูเกะกะมือเพิ่มขึ้นมา (เพียงแต่เสียงมันแน่น และอิ่มถูกใจผมมากเลย) และถ้าเผลอไปปิดรูบนขณะเป่าเสียงจะบอดทันที เช่นกันถ้าเผลอปิดรูล่างขณะดูดเสียงก็จะบอด
แล้วรูมีไว้ทำไม…สำหรับคนที่ Bend เสียงได้แล้ว เมื่อปิดรูล่าง และ Blow Bend เสียงช่อง 1-6 ทุกช่องจะได้เสียงต่ำลงครึ่งเสียง และเช่นเดียวกันเมื่อปิดรูบนกับช่อง 7-10 เมื่อ Draw Bend ก็จะได้เสียงต่ำลงครึ่งเสียงเช่นกันครับ
มีเท่านี้ครับสำหรับ Suzuki Overdrive
เพิ่มเติม : ลองไปดูที่ Link นี้ครับ http://www.ianchadwick.com/essays/harmonicas.htm
แนะนำละเอียดยิบ และสำหรับ Overdrive ก็แนะนำเหมือนผมโดยไม่ได้นัดหมายครับ
ไปร้านขาย harmonica ทีไร เห็นตัวไหนก็ชอบไปหมดเลย
อยากจะซื้อเก็บสะสมให้เยอะๆ สวยดีครับ แต่ฝีมือการเป่าแย่มาก 5555
overdrive ผมดูด ตรงรูที่ใช้นิ้วกดเลยอะครับ 555 ดูดแรงๆเสียงไพเราะ
5 5 5 …อาการเดียวกับผม แต่ผมเป็นมาหลายสิบปีแล้ว ตอนนี้อาการก็ทุเลาลงบ้าง มีโรคทรัพย์จางมาแทรกซ้อนแทน…
อย่าไปดูดตรงรูนั้นครับ…เดี๋ยวลิ้นพัง (ลิ้นของ Harp มันแพง…ลิ้นน้องพี่ไม่ห่วงหรอก…5 5 5)
ตอนนี้เลิกงานต้องขอตัวกลับบ้านแล้วครับ พิมพ์ถามทิ้งไว้ก็ได้ จะมาอ่านต่อพรุ่งนี้ครับ
อยากรู้ว่าแนวบลูจำเป็นไม้ทีี่่ต้องใช้ harmonica key G อันนี้จากที่ผมสังเกดมาจากyoutubeไขข้อข้องใจไห้ด้วยนะครับ…
นักเล่น Harmonica มักใช้ Harp Key C เล่นเพลง Key G โดยใช้เล่นในตำแหน่ง 2 Position (ลองไปดูหัวข้อเล่นโน๊ตกันได้อย่างไร เปรียบเทียบเสียง Harp Key C กับ G ดู จะพบว่าถ้าเขยิบไป 2 ช่องทางขวาเสียงจะเหมือนกัน) ซึ่งช่องที่ 9 ถูกบังคับให้ Bend เสียง (F#) จึงจะเสียงครบตาม G Scale
นั้นทำให้เพลง Key G ที่บรรเลงโดย Harp Key C ถูกบังคับให้เอื้อนเสียงจึงให้อารมณ์ Blue นั้นเอง
ส่วนความถี่ที่พบผมว่าเกิดจากเสียงในเมเจอร์นี้ เป็นเสียง Natural Key ซึ่งเป็นเสียงที่ใกล้เคียงเสียงมนุษย์ทำให้รื่นหูในการฟัง นักประพันธ์จึงมักใช้ Key C ในการแต่งเพลง คงเป็นความบังเอิญที่คล้องจองกันพอดี
ที่พิมพ์มาข้างต้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัว อาจผิดตามหลักวิชาการ อยากให้น้องค้นคว้าเพิ่มเติมกับผู้รู้ให้มากขึ้น คำตอบของพี่ไม่ใช้คำตอบสุดท้ายครับ
งี้ผมต้องใช้key C ใช่ไหมครับพอดีที่ผมมีมันก็เป็น key C ของ honner silverstar แต่ผมรู้สึกมีปัญหาในตอนbendเสียง แบบว่าจะbendให้ออกมาชัดได้ยากมาก อยากรู้ว่ามันเป็นที่้harmonicaหรือตัวผมเอง
อีกอย่างก็ว่าจะซื้อตัวที่ดีๆอยู่ ที่ดูๆไว้ไม่ manji ก็ blues harp อะครับไงช้วยแนะนำหน่อยครับ
ขอบคุณครับพี่…
สำหรับการเริ่มต้น Key C เป็นตัวที่ใช้บ่อย พบเพลงใน Key นี้มาก และนิยมเล่น 2 Position กับเพลงบูลที่สุดครับ
Silverstar ผมก็มีครับทำในจีน…คุณภาพอยู่ที่เราเลือกแต่สู้ Manji กับ Blues Harp ไม่ได้ (ไม่ใช้เอามาเป่าสู้กันน่ะครับ คนเป่าเพราะ เอา Harp อะไรมาเป่าก็เพราะครับ )
เปรียบเทียบ Manji กับ Blues Harp (ดูให้ดีๆ ไม่ใช่ Blues Band น่ะครับ)
ราคา… Manji แพงกว่า แต่ราคาหน้าร้านที่พบมักใกล้เคียงกัน ถ้าซื้อ Blues Harp ต้องต่อราคาดุหน่อย ประมาณ 950 +/- 100 บาทครับ (ซื้ออยู่เรื่อยๆ เลยพอจำราคาได้) ส่วน Manji ผมซื้อมาใช้แค่ครั้งเดียวเลยจำราคาไม่แม่นไม่รู้ 1200 หรือ 1400 บาท ลองสอบถามทางธีระมิวสิคดูครับ
ความสวยงาม… (ความชอบส่วนตัว) ผมชอบ Blues Harp มากกว่า ดูโบราณ Classic ดี Comb เป็นไม้ให้ความรู้สึกที่ดี
การใช้งาน… Manji ดีกว่า (หมายถึงการ Bend เสียง ส่วนความเพราะของเสียง แล้วแต่คนชอบไม่เหมือนกันครับ) ข้อนี้ผูกพันมาข้อถัดไป
ความทนทาน… ของ reed Blues Harp ทนกว่า (อันนี้ความรู้สึกส่วนตัวอีกแล้วครั๊บ…เจ้านายยย) แต่อย่างที่บอก Blues Harp Comb เป็นไม้ถ้าเลือกไม่ดี ใช้ไม่ถนอมจะทนสู้ Manji ไม่ได้ (การเลือก และการใช้ในที่นี้คือ เลือกแบบปกติคือลองดู 2-3 ตัว การใช้คือใช้ปกติคือใช้แล้วเช็ดให้สะอาดไม่หมกทั้งชื้นๆ ถ้าทำได้อย่างนี้ก็ใช้งานได้ทนทานใกล้เคียงกันครับ) อ้อ ลืมไปนิด Blues Harp รุ่นใหม่ๆ ผมไม่แน่ใจว่า Comb ยังทำด้วยไม้อยู่รึเปล่า ลองเช็คกับทางร้านดูน่ะครับ ถ้าอยากได้ไม้น่าจะยังมี Lot เก่าๆ เหลืออยู่ในบ้านเรา
สรุปโดยรวมสำหรับมือใหม่ Manji เอาไป AAAA, Blues Harp เอาไป AAA+
แต่ถ้าสำหรับผู้ที่ Bend เสียงคล่องแล้วจะซื้อตัวต่อไป Manji เอาไป AAA+, Blues Harp เอาไป AAAA ครับ
เท่าที่นึกออกตอนนี้มีเท่านี้ ถ้านึกอะไรออก จะมาพิมพ์เพิ่มให้ครับ
อ้อ…ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวน่ะครับ แฟนค่ายใด ค่ายหนึ่ง เพียงอย่างเดียวอาจไม่เห็นด้วยก็ไม่ผิด ถูกต้องกันทุกคนครับ
พี่ช้วยอทิบายเรื่องkeyไห้ฟังหน่อยครับพอดีตัวผมเคยจับแต่key c เลยไม่รู้ความต่าง
พอดีอยากได้manjiอีกซักตัวแต่ไม่รู้ซื้อkeyไรดีพอดีมีkey cอยู่2ตัวแล้วช้วยแนะนำทีครับพี่
เรื่อง Key และ Scale ต่างๆ ถามได้จังหวะพอดีเลย
คุณ Jap จัดหนักให้แล้ว ตาม Link ด้านล่างเลยครับ
เข้าใจว่าคุณ Smoker MAN อยู่ในระยเริ่มหัดเล่นหมือนผม ผมกำลังค้นหารุ่นที่ถูกใจ ระยะนี้ผมจะซื้อเฉพาะ key C เมื่อได้รุ่นที่ถูกใจแล้ว ผมจะซื้อ key C D G A Bb ตามที่คุณ Harmonicafe แนะนำไว้ในหัวข้อ About ที่อยู่บรรทัดแกของหน้านี้ ของติดตามดู
คิดว่าถามถึงทฤษฎีดนตรี
ลืมคิดไปว่าคุณ Smoker MAN คงหมายถึงจะซื้อ Key อะไรเป็นตัวต่อๆ ไป
ขอบคุณพี่มานะเพราะผมเองก็ลืมไปบ้างเหมือนกันว่าเขียนไว้ที่หน้าไหน
ถึงคุณ Smoker MAN สำหรับ Hohner Silver star key C ผมมีอยู่ 1 ตัว เป่ายากมาก ผม Bend ไม่ได้เช่นกัน มันเป็นที่ Harmonica มากกว่าครับ ผมว่าเก็บไว้ ให้เราฝึกจนเป่าเก่งแล้วค่อยนำกลับมาทดสอบความเก่งของเราภายหลัง ตามที่คุณ Harmonicafe บอกไว้ว่า คนที่เก่งแล้ว เป่า Harmonica ตัวไหนก็เพราะ ผมก็พยายามเอา Hohner Silver Star มาลองเป่าอยู่เรื่อยๆ ก็ต้องยอมแพ้ทุกที
เมื่อคืนลองหยิบ Hohner Silver star key C มาลองเป่า พอเล่นเพลงได้ ดีใจว่าตัวเราน่าจะก้าวหน้า แต่ลมร่วมาก ต้องใช้แรงลมมาก เหนื่อยสู้ไม่ไหว เล่นได้เพลงเดียต้องหยุดพักเหนื่อย แต่ชอบสกรู ที่ทำเหมือน Manji ถอดง่าย
ตอนแรกผมใช้silver starกว่าจะbendได้เล่นเอาเหงื่อตกแต่bendได้เหมือนกันครับครับแต่ต้องหัดไห้คล้องๆ แต่ของดีๆจะง่ายกว่าจริงๆครับ….. แต่silver starใช้ลมค่อนข้างเยอะอยากที่บอกจริงและครับ
ขอบคุณมากครับที่ส่งลิ้งไห้มากๆครับพี่ได้ประโหยดมากๆ
เรียนกับฝรั่งกว่าจะเข้าใจเหนื่อยต้องอ่านภาษากายมันอย่างเดียวเลยอย่าเดียว
– ผมได้พยายามฝึกการ Bend ก็พอทำได้เพียงเป็นเสียงหลัก เช่น เสียง F , A ยังทำครึ่งเสียง # , b ไม่ได้ ก็จะพยายามทำต่อไป บางคนบอกว่าเป็นปีกว่าจะทำได้ ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ของความสามารถของมนุษย์เราที่ เมื่อฝึกฝนไปเรื่อย สิ่งที่ทำไม่ได้ก็สามารถจะทำได้ และเมื่อทำได้จะรู้ว่า มันง่ายมากๆ อย่างเช่นการฝึกสมาธิ ฝึกใหม่ๆ จิตมันไม่สงบเอาเลย ทำอย่างไรมันก็ไม่สงบ แต่พอทำได้แล้ว เพียงแต่นึกให้มันสงบ มันก็สงบ มันง่ายเอามากๆ จนรู้สึกแปลกใจว่า สิ่งที่มันเคยยาก เมื่อทำได้แล้วทำไมมันง่ายอย่างนี้ ก็อยากให้กำลังใจสมาชิกที่เล่น Harmonica เมื่อท่านเป่าแบบ Single noteได้แล้ว ก็ลองเป่าเพลงที่ท่านชอบ ค่อยๆไล่หาเสียงเมื่อได้เสียงบางเสียงของเพลงแล้ว ค่อยๆ ไล่ต่อไป ก็จะได้ทั้งเพลง ส่วน note บางตัวที่ยังเพี้ยนๆ อยู่ก็ค่อยๆ bend ต่อไป (เหมือนผม) แต่อย่างไร เราก็สามารถจะเป่าเป็นเพลงได้ เมื่อเป่าเป็นเพลงได้ ก็ค่อยๆพัฒนาความไพเราะของเราไป เพิ่มเทคนิคบางอย่างให้มันไพเราะมากขึ้น เราก็จะสนุนกับการเล่น Harmonica การฝึกหัดตามเพลงฝรั่ง บางเพลงเราไม่คุ้น ทำให้ฝึกยาก การเล่น Harmonica สุดท้ายจะเหมือนกับการร้องเพลง แทนที่จะร้องเพลง ก็เปลี่ยนมาเป็นเป่า Harmonica แทน พอเราฝึกการหัดไล่เสียงของเพลงไปบ่อย ๆ เราก็จะมีความชำนาญ หัดไล่ไม่เกิน 1 ชม. ก็จะได้ครบเพลง เพลงเป็นเป็นเสียงที่มีแบบแผน ทำให้ไล่ได้ไม่ยาก แต่สำหรับเพลงรุ่นใหม่ๆ ที่ผมไม่ค่อยได้ฟัง น่าจะไล่ยาก เพราะท่านผู้แต่ง ท่านไม่สนใจ หลักไวยกรณ์ของภาษาเลย ทั้งๆที ภาษาไทย มีเสน่ห์ ที่มี ฉันทลักษณ์ ที่ไพเราะมาก เมื่อเป็นเพลงแล้ว ฟังไพเราะมาก ผมยังหมั่นไส้ นักแต่งเพลงนามกระเดื่องท่านหนึ่ง ท่านบอกว่า การแต่งเพลง ควรจะยึดหลักสากล คือไม่ต้องสนใจฉันทลักษณ์ ทำไมเราไปตามก้นฝรั่ง ทั้งที่เรามีสิ่งที่ดีกว่า เมื่อก่อนเด็กไทยรุ่นผมก็กินนมแม่ แต่เราก็ไปเอาอย่างฝรั่ง โดยคิดว่าการให้เด็กกินนมผงเป็นความเท่ห์ บ่งบอกว่าเป็นผู้มีอันจะกิน แต่เดี๋ยวนี้เราเดินตามก้นฝรั่ง หันมารณรงค์ให้เด็กกินนมแม่ ผมมิได้ต่อต้านฝรั่ง แต่สิ่งที่เรามีดีอยู่แล้ว เราควรจะรักษาไว้ การเล่น Harmonica ก็เหมือนกัน ตอนนี้เราต้องเดินตามก้นฝรั่ง แต่เมื่อเราเล่นเป็นแล้ว เราต้องมาฝึกการเล่นเพลงไทย ตามแบบฉบับของไทยๆ เรา ไพเราะแบบไทยๆ เราต้องเป็นไทย
อธิบายแบบแทนใจนึกเลยครับ ขอบคุณมากครับ
บางครั้งผมนึกไม่ออกเลยว่าจะเขียนอย่างไรให้คนที่ยัง Bend เสียงได้ไม่ดีนัก หรือทำไม่ได้เลยมีความเข้าใจว่า การฝึกเรื่องบางอย่างมักไม่ได้ดังใจ (เพราะผมมักเปรียบตัวเองเป็นผู้ที่เข้ามาอ่าน ก็มักจะนึกเถียงตัวเองว่า “ก็ใช่สิคุณ Bend ได้แล้ว ก็ให้แต่คนอื่นฝึก ฝึก ฝึก ทำไม่เห็นจะได้” อะไรทำนองนี้…แล้วเลยเขียนไม่ออกบอกไม่ถูก) ต้องให้พี่มานะที่กำลังฝึกนี่แหละเขียน คนอื่นถึงจะเข้าใจ ยิ่งเปรียบกับนั่งสมาธินี่ใช่เลย ตรงเผง แบบเดียวกันเลย…บทจะได้ ได้เองเฉยเลย
พูดถึงตามฝรั่งแล้วเลยนึกได้ว่า เครื่องดนตรีแบบเดียวกับ Harmonica คือใช้ลิ้นโลหะหลายๆ ลิ้น ให้เสียงหลายเสียงทั้งเสียงเดียว และเสียงประสานแบบแคนบ้านเรา มีในจีนมากว่า 4000 ปีแล้ว เรียกว่าเชง : sheng (ผมมีอยู่ 1 ตัวขนาดเล็ก ซึ่งความจริงมีหลายขนาดมาก) นักประวัติศาสตร์บอกลักษณะลิ้นที่กำเนิดเสียงน่าจะเป็นต้นแบบของ Harmonica ผมก็ว่างั้นเพราะเคยเห็นลิ้นของแคนหลักการเดียวกันเลย อันนี้ผมว่าฝรั่งลอกจีนแหง่มๆ
– ไปท่อง Intrnet มา พบ website ที่ทำเป็นภาพเคลื่อนไหว ให้เห็น เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น
http://www.harmonicaclub.com/common/note_bending_for_harmonica.htm
– ในภาพที่เห็น เป็นเพียงภาพเคลื่อนไหวของลิ้น แต่ขาดการเคลื่อนไหวลงของกราม และการเอียง Harmonica ขึ้น
พี่คับผมเพิ่งจะมาเล่นharmonicaพี่ช่วยแนะนำรุ่นที่ถูกๆทีคับสำหรับมือใหม่อะคับ
ขอบคุณคับ
ความต้องการขั้นต้นเลยคือราคาถูก (แต่คุณภาพดี)
ที่ผมเคยลองก็ต้อง Folk Master ของ Suzuki ครับ ราคาปัจจุบันไม่แน่ใจแล้วคงประมาณ 400+- 50 บาท ไม่ยืนยันน่ะครับ แต่ถ้ามีงบเพิ่มอีกสักร้อยกว่าบาทก็จะได้ Harp Master อันนี้ Made in Japan ทั้งตัวครับ
ในใจมีถูกกว่านั้นคือ Eazy Rider (ประมาณ 200 up) ของ Suzuki เหมือนกัน แต่ผมไม่เคยลองเลย จึงไม่กล้าแนะนำ
จะหาซื้อได้ที่ไหนอะคับ
รุ่น easy rider อะคับ จะหาซื้อได้ที่ไหนอะคับ
บ้านผมอยุ่แถวบางกะปิอะคับพอจะมีไหมคับ
Suzuki ก็ร้านธีระมิวสิค (เป็นตัวแทนแห่งเดียว) อยู่ที่เวิ้งนครเขษม โทร 02-2261771, 02-2248821, 02-2239127 ถามรายละเอียดได้ที่ tom_bu@hotmail.com เพราะที่ร้านลูกค้าเยอะครับ สอบถามไม่ค่อยถนัด
ลองถามดูว่าส่งให้ร้านไหนบ้างแถวบางกะปิ จะได้ไม่ต้องเดินทางมาถึงเวิ้งครับ
ที่ผมอยากจะถาม
1.ผมมี harmonica key G อะคับkeyนี้ไว้สำหรับเล่นเพลงแนวอะไรอะคับ
2.ผมใช้ puck key G อะคับ puckนี้ดีปะคับ
ขอตอบแบบไม่เป็นวิชาการ (เพราะไม่มีความรู้ทฤษฎีดนตรี) และคำตอบอยู่ในวงของเพลงที่เล่นด้วย Harp ครับ
เอาที่เพลงก่อน (Key ของเพลงน่ะครับ ไม่ใช่ Key ของเครื่อง) เพลงบูลส์มักพบว่าส่วนใหญ่เป็น Key G และถูกเล่นด้วยเครื่อง Key C ที่ตำแหน่ง 2 Position เพราะจะทำให้โน้ตใน Scale ต้อง Bend เสียงทำให้เกิดความไพเราะในสำเนียงบูลส์
เพราะฉะนั้นตอบคำถามของน้องได้ว่า
1. ถ้ายัง Bend เสียงไม่ได้ ก็เอา Harp ตัวนี้แหละครับเล่นเพลงบูลส์ (แต่ไม่ค่อยได้สำเนียงเท่าไหร่ จะออกแนว Melody เป่ะๆ ซะมากกว่า) และก็ใช้เล่นเพลงทั่วๆ ไปได้ไพเราะดี อีกทั้งยังเป็น Harp คีย์เสียงต่ำ ส่วนตัวผมว่าเล่นง่ายกว่า Harp เสียงสูงครับ (Key C เป็น Natural Key คือเสียงธรรมชาติของมนุษย์ เรียกง่ายๆ ว่าเป็นเสียงที่มนุษย์คุ้นหูที่สุด และ Key G เป็นคู่ 5 ของ Key C มันมีความสัมพันธ์กันทางทฤษฎีเสียง คือมีโน้ตต่างกันแค่ตัวเดียวคือ F# ฉะนั้นจึงกลมกลืนกันที่สุดครับ)
2. Puck มันเล็กเกิน ทำให้ช่องห่างระหว่างช่องลมแคบ เล่นยากครับ และที่ขายในบ้านเราทำจากจีน จึงเสียงแข็งๆ ครับ (ลองเป่าเทียบกับ Puck รุ่น Double Puck (Made in Germany) จะเห็นคุณภาพแตกต่างกันอย่างชัดเจนครับทั้งๆ ที่ขนาดเท่ากัน
ว่าแต่ Pack Key G ไปเอามาจากไหนครับ เพราะที่เห็นขายในบ้านเรามีแต่ Key C
ของผมมันเป็นแบบไม้อะคับเป็นของคุณปู่อะคับมันนานมากแล้วอะคับตั้งแต่ผมยังไม่เกิดเลยคับ
และอยากขอโน๊ตเพลงค่าน้ำนมด้วยได้ปะคับจะเอามาฝึกอะคับ
ขอบคุณคับ
โอ้ว…เก็บไว้ให้ดีเลยครับ Puck ที่มี Comp เป็นไม้นี่เลิกผลิตไปนานมากแล้ว
เคยมีคนถามผมครั้งหนึ่ง ผมก็บอกว่าไม่เคยเห็น (ตอนนั้นไม่เคยเห็นจริงๆ) จนไม่กี่เดือนนี้เองไปเจอใน ebay เยอรมัน แต่ seller ไม่ส่งต่างประเทศ ผมเลยยังไม่มีเลยครับ แล้วก็เจอครั้งนั้นแค่ครั้งเดียวซะด้วย ตัวนี้ดั้งเดิมเลย ผลิตในเยอรมันครับ
โน้ตเพลงค่าน้ำนม ผมมีแต่โน้ตสากล แต่ก็พอดีคุณ Jap จัดโน้ตตัวเลขกับ Tab มาให้พอดี ไปตาม Link ด้านล่างนี้เลยครับ
ผมยังเบนเสียงไม่เป็นเลยอะคับฝึกยากอะผมควรทำไงดีคับเพราะpuckมันเล็กอะคับจะเบนเลยยากอะ
ถ้าตอนนี้มี Puck อยู่ตัวเดียว และยังไม่อยากซื้อก็เล่นไปก่อนได้ครับ เพราะเพลงค่าน้ำนมที่คุณ Jap ลงไว้ ดูจากโน้ตแล้วไม่ต้อง Bend เสียงเลย (เมื่อกี้ไปเข้า Blog คุณ Jap มาต้อง Bend เสียง A ต่ำ ผมลืมไปเนื่องจากเป่าแต่ Chromatic เสียชิน…ขอโทษครับ) เล่นตาม Tab ได้เลยครับ (เป็นข้อดีของ Harmonica ที่ได้ Tab หรือโน้ตมา มีเครื่อง Key อะไรอยู่ก็เล่นเป็นเพลงได้เลย) อีกทั้งเอา Key G มาเล่นจะเสียงต่ำเล่นง่ายกว่า เอา Key C มาเล่นด้วยครับ ลองเลยครับ
แต่ถ้าตั้งใจจะหัดต่อก็แนะนำให้เตรียมเงินสัก 5-6 ร้อย สำหรับ Suzuki หรือ 8-9 ร้อย สำหรับ Hohner ครับ จะหัดได้ราบรื่นกว่า
แล้วถ้าจะซื้อของSuzukiพอจะแนะนำผมได้ไหมคับเอาแบบสำหับมือใหม่อะคับเอาแบบที่ใช้เบนเสียงไม่ยากมากนะคับ
ขอบคุณคับ
คุ้มค่าที่สุดก็ Suzuki Harp Master ครับ ราคาประมาณ 550 บาท ติดต่อตาม Link ด้านล่างเลยครับ
http://www.harmonicafe.com/forum/index.php?topic=5.0
อยากเบนเสียงได้อะคับแต่ผมอ่านข้างบนแล้วไม่เข้าใจอะคับ^^”
ถ้าอ่านข้างบนไม่เข้าใจ ลองทำแบบที่คุณ Jap แนะนำดูครับ ตาม Link ล่างนี้เลย
ช่วยอธิบายแบบง่ายๆให้ฟังทีคับ
พี่คับรบกวนขอโน๊ตเพลงcanonที่คับเอาแบบเป็นตัวเลขอะคับ
ช่วยทีคับ
ขอบคุณคับ
ถ้าต้องการโน้ตตัวเลข ขอเวลาหน่อยน่ะครับ แต่ด่วนจริงๆ ลองโหลดมาแปลง หรือแกะจากนี่เลยครับ
http://jazzylj.blogspot.com/2011/04/canon-in-d-for-quartet-harmonica.html
วันนี้มาแจก Link อย่างเดียวเลยน่ะเนี่ย…จะว่าไปแล้ว การเล่น Harp นี่เพื่อนๆ ที่ทำ Blog รวมๆ กันแล้ว ผมว่าเนื้อหาครอบคลุมการเล่นหมดแล้วน่ะ เรียกว่าไม่ต้องพึ่งฝรั่งก็น่าจะพอหัดกันได้ครับ
harmonica key G เล่นแนวcountryได้ปะคับ
ได้และนิยม เช่นเดียวกับเพลงบูลส์ครับ
ช่วยหาโน๊ตเพลงแนวcountryให้ทีคับ
ขอบคุณล่วงหน้าคับ
แนว country ถ้าเพลงไทยก็คือลูกทุ่ง (หรือ เพื่อชีวิต) นั้นแหละครับ พี่มานะก็ทะยอยลงไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว
แต่ถ้า country ของฝรั่ง จะมีสำเนียงเฉพาะของเค้า ผมจะทำให้ครับ แต่อาจมีแต่โน้ตกับ Tab ไม่มี Clip
คงอีกสักเดือนกว่าๆ จึงจะเริ่มอัด Clip ได้ พอดีต้องขอลาป่วยสักระยะครับ เมื่อหายดีแล้วจะมาทำ Clip ตกเบิกให้
ขอบคุณมากคับ
ผมไม่รู้จะเริ่มฝึกอะไรก่อนดีคับเพราะไม่เป็นเลยอะคับช่วยแนะนำทีคับ
ขอบคุณคับ
– การเริ่มเล่น Harp ควรทำดังนี้
๑ คาบ Harp ให้ถูกต้อง ผมเลือกวิธี Lip block คือคาบ Harp ให้ลึกพอประมาณบีบริมฝีปากให้แน่นเล็กน้อย แล้วฝึกให้ได้เสียงเดี่ยวทั้ง เป่า และ ดูด ต้องใช้เวลาพอสมควรครับ อย่างน้อยประมาณ ๑ สัปดาห์ขึ้นไป
๒ เมื่อ ทั้ง เป่า และ ดูด ได้เสียงเดี่ยวแล้ว ก็เริ่มฝึกตาม Tab
๓ การฝึกตาม Tab ต้องร้องเพลงได้ให้คล่องก่อน เมื่อร้องได้คล่อง ก็ฝึกตาม Tab การฝึกตาม Tab ผมแนะนำว่า ควรจะลองไล่เสียงเอง หากช่วงไหนหาเสียงไม่พบ ก็ดู Tab บทเพลง มีแบบแผนของเสียง หากลองฝึกไปบ่อยจะไล่เสียงได้ไม่ยาก สมองจะสั่งการทำงานของหูที่ได้ฟังเสียงกับการเคลื่อนไหวของมือได้อย่างอัตโนมัติ จนผมมีความรู้สึกว่า การเล่น Harp ก็คือการร้องเพลงนั่นเอง มันเป็นไปเองแบบธรรมชาติ เมื่อมาถึงจุดนี้ท่านจะรู้ว่า การเล่น Harp สนุก Harp สามารถ เล่นได้ทุกเพลง เพลงใช้เวลาไล่เสียงประมาณ ๑ ชั่วโมงก็พอจะเล่นเป็นเพลงได้แล้ว แต่อาจจะยังไม่ไพเราะ หากฝึกสัก ๗ วัน ก็สามารถเล่นเป็นเพลงได้เลย ผมฝึกเล่น Harp มา ๑๐ เดือน ผมว่า Harp เป็นเครื่องดนตรีที่เล่นง่ายที่สุด ไม่ต้องไปกังวลเรื่อง Scale เหมือนเครื่องดนตรีอย่างอื่น เพราะ Harp บังคับ Scale มาให้แล้วในตัวของ Harp เอง เพียงแต่ท่านจะต้องมี Harp ๑๒ ตัวหากจะเล่นเพลงให้ได้ทุก key อยู่ที่การฝึกฝนครับ จะรู้สึกอึดอัดในช่วงแรกที่เรายังเล่นไม่ได้ แต่พอเล่นได้แล้ว สนุกครับ
– สำหรับการ Bend อย่าไปกังวลครับ เท่าที่ผมทำ Tab เพลงไทย หากเป็นเพลง key major ไม่มี โน๊ตที่ต้อง Bend เลย แต่ถ้าเป็น key minor จะมีโตที่ต้อง Bend ที่ช่อง ๓ ตัวเดียว หาก Bend ไม่ได้ก็เล่นแบบไม่ต้อง Bend เสียงก็เพี้ยนเล็กน้อย พอฟังได้ การ Bend ก็ค่อยๆฝึกไป ผมเองก็ยัง Bend ได้ไม่คล่องครับ
ขอบคุณพี่มานะครับ
คำตอบนั้นคือวิธีที่ตรงสุด ไม่อ้อมครับ คนอื่นฝึกกันเป็นปีครับ
ฝึกแบบธรรมชาติ จะไม่เครียดครับ แต่กลับสนุก ได้แค่ไหนก็ให้เป็นเพลงพอฟังได้ไปก่อนอย่างที่พี่มานะบอก
แล้วความเคยชิน (จากที่สมองสั่ง) จะทำให้แราเล่นลื่นไปเอง
ผมเองไปฝึกแบบกางตำรา ใช้เวลาเป็นปีๆ แล้วก็ได้เฉพาะในตำราแค่นั้น เพิ่งมาปรับปรุงวิธีศึกษาเอาเมื่อทำ Blog นี่เอง จึงไม่ได้มีความสามารถใดๆ ดีกว่าเพื่อนๆ เลย แค่เป่าเป็นเพลงแค่นั้นเองครับ
ให้สนุกก่อนครับ จะต่อยอดได้ไม่ยาก
– ผมขอเรียนเพื่อนสมาชิกอย่างนี้ ผมเองไม่พื้นฐานความรู้ทางด้านดนตรีเลย และอาชีพก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับดนตรีเลย ผมว่าทุกอย่างอยู่ที่การฝึกฝน แรกๆ ผมก็เหมือนท่านคือไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ก็อาศัยหาความรู้จาก Hamonicafe blog กับ Japharmonica blog ผมฝึกทุกวัน ผมขับรถผมก็เป่า Harmonica ไปด้วย เพลินดี
– ขณะนี้ผมกำลังหัดเล่นทรัมเป็ต ผมก็เหมือนกับท่านที่หัดเล่น Harp ขณะนี้ผมก็เป่าทรัมเป็ตได้เสียง C D E F G แต่เสียงก็ไม่ชัดเจน ตอนนี้ผมจะพกปากแตรของทรัมเป็ตติดตัวตลอด มีเวลาก็เอามาเป่าให้เกิดเสียง ผมหวังว่าสักวันผมจะเป่าทรัมเป็ตได้ ผมไปดูนักเรียนเขาเป่า มันง่ายจริงเสียงใสกังวาน เสียงโน๊ตที่ออกมามันชัดเจน ผมเป่าเสียงออกมามันไม่เป็นเช่นนั้นเลย แต่ผมเชื่อมั่นว่า สักวันผมจะต้องทำได้ และจากประสบการณ์ของ Harp จะทำให้ผมเล่นทรัมเป็ตได้ง่าย ผมสามารถแปลงโน๊ตจาก Harp เป็นโน๊ตของทรัมเป็ตได้ ขณะนี้ผมต้องอดทนฝึกต่อไปผมคาดว่าอีก ๓ เดือนผมจะเป่าทรัมเป็นเป็นเพลงได้ ถึงตอนนั้นผมว่าสนุกแน่
– เรื่องของพื้นฐานต่างๆ มีความสำคัญมาก เช่นการคาบ Harp การหายใจ
– เรื่องทฤษฎีดนตรีก็มีความสำคัญ เราต้องศึกษาไปพร้อมกัน เพื่อที่จะทำให้เราเล่นดนตรีได้ถูกต้องมากขึ้น และพัฒนาตนเองได้เร็วขึ้น เช่น Diatonic scale ของ key ต่างๆ Major key Minor key
– ใจเย็นๆ ฝึกไปเถอะครับ รับรองสนุกแน่ อย่าเบื่อเสียก่อน
น่าอิจฉาจังครับ ได้เล่นทรัมเป็ตด้วย ผมว่าพวกเครื่องทองเหลืองนี่มันเป็นตระกูลเครื่องเป่าที่ยากที่สุดแล้วมั้ง ตอนเริ่มหัดแซ็กก็รู้สึกว่ามันใช้นิ้วคล้ายกับขลุ่ย แต่พวก brass นี่เล่นกันแต่ overtone (harmonic) จับแบบนึง ได้โน้ตตั้งหลายแบบ แถมเริ่มใช้ปากก็ยากกว่าเครื่่องที่มีลิ้น สรุปว่าสักวันต้องลองให้ได้
พี่คับขอtab harmonica เพลงอะไรก็ได้คับที่มีคนรู้จักเยอะๆอะคับ
ช่วยทีคับ
ขอบคุณล่วงหน้าคับ
ลองเลือกดูสักเพลงใน
https://harmonicafe.wordpress.com/category/%e0%b9%82%e0%b8%99%e0%b9%8a%e0%b8%95-tab-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%b1%e0%b8%99/
แล้วถ้าไม่รู้จักเลยสักเพลงก็ลองบอกเพลงที่รู้จัก (กันเยอะๆ) ถ้ามีโน้ตอยู่ในมือจะแปลงให้เลยครับ
แต่ถ้าไม่มีโน้ตอยู่ในมือคงต้องรอสักระยะ พอดีอีก 2-3 วันนี้ต้องเข้าโรงซ่อมสุขภาพ อีกเป็นอาทิตย์ถึงจะกลับมานั่งหน้าจออีกครั้งครับ
เพลงอยู่ตรงนี้ของ พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ผมว่าก็มีคนรู้จักเยอะนะคับแต่ผมก็ยังหาโน้ตไม่ได้เลย
พี่ค๊าบบมารบกวนอีกแล้วขอเพลงชาติไทยได้ไหมอะค๊าบบ
ขอบคุณค๊าบบ
ปล.ถ้าเป็นคีย์Gก็จะดีมากเลยค๊าบบ^^
หาโน้ตสากลได้แล้ว ขอเวลาสักพักจะถอดเป็น Tab ให้ครับ
ส่วน Key เพลง ไม่มีปัญหาสำหรับ Harmonica
เอาเครื่อง Key G ที่มีเล่นตาม Tab ก็จะได้เพลง Key G ครับ
ขอบคุณนะค๊าบถ้าได้แล้วช่วยลงให้ทีนะคับ
พี่อ่านโน๊ตเป็นด้วยหรอค๊าบบอยากอ่านเป็นบ้างจัง
ลงให้ผมยังอะคับ
พี่คับแล้วพอจะมีเพลงศรัทธาของหินเหล็กไฟปะคับ
กำลังทำอยู่ครับ พอดีทำงานไปด้วย (ผมทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด) สลับหน้าจอมาทำเป็นพักๆ ไม่ค่อยต่อเนื่องเลยช้าสักหน่อย
อีกอย่างไหนๆ จะทำแล้วก็เลยทำทั้ง Diatonic และ Chromatic ไปพร้อมๆ กันเลย จะไม่ให้เกินเย็นนี้ครับ รอนิดส์์ส์ ใจร่มๆ
เพลงอื่นถ้าหาโน้ตใน Net ได้หรือมีโน้ตในมืออยู่แล้วก็จะถอด Tab ให้ครับ ต้องขอโทษที่ไม่ได้ใช้วิธีแกะเพลง เพราะผมไม่ค่อยว่างเลยครับช่วงนี้…
ออผมก็ไม่ได้เร่งอะไรหรอกคับผมแค่ลองถามดูอะคับถ้าไงก็ต้องขอโทดด้วยนะคับ^^”
พี่คับแล้วพี่เปลี่ยนโน๊ตเพลงเป็นharmonicaได้ไงอะคับอย่างงี้ถ้าผมหาโน๊ตเพลงให้พี่ๆก็จะแกะเป็นharmonicaได้หรอคับ
ตัวผมเองเล่น Chromatic มานานครับ เลยจำโน้ตของแต่ล่ะช่องได้ ถ้าได้โน้ตสากล (หรือโน้ตตัวเลขแบบโน้ตขลุ่ยก็ได้) ก็พอที่จะเขียนเป็น Tab ได้ทันที (แต่ให้เล่นตามโน้ตเลยคงยังไม่เป็นเพลง เพราะทักษะการเล่นสดๆ ยังน้อยอยู่ครับ) ถ้าน้องหาโน้ตสากล หรือตัวเลขส่งมาก็พอง่ายอยู่ครับ แต่มันมาช้าตรง แปลงไปเป็น Diatonic เพราะยังไม่ชำนาญมักเผลอหลงใส่ช่องเสียงของ Chromatic ประจำเลย
ที่ช้าอีกอย่างคือ เคาะเนื้อเพลงให้เว้นช่องตามเสียงโน้ต…ต้องคอยเคาะช่องว่างให้ตรง แล้วจึง Print Screen เป็นภาพ มาลง Blog เพราะเป็นภาพจะทำให้ตัวอักษรไม่ดิ้น เนื่องจากเราไม่รู้ว่าเครื่องคอมพ์ของสมาชิกที่มาเปิด Set Font ของ Browser ไว้อย่างไร ถ้าตัวอีกษร Font ไม่ตรงก็จะดิ้นเคลื่อนไปทำให้อ่านยากครับ
ถ้าน้องเล่น Diatonic ไปสักพัก เดี๋ยวก็จำเสียงของแต่ล่ะช่องได้เองครับ ถึงตอนนั้นก็เล่นได้เลยไม่ต้องแปลงเป็น Tab อีกแล้ว
คือผมอ่านโน๊ตไม่เป็นอะคับตอนนี้bendเสียงได้แล้วแต่ไม่รู้จะเป่าเพลงอะไรก็เลยขอให้พี่แนะนำแล้วตัวผมอยากเป่าเพลงชาติก็เลยขอให้พี่ช่วยหาให้อะคับ
พี่คับผมเบนได้แล้วและอยากได้haronicaตัวใหม่อะคับพี่แนะนำทีคับเอาแบบใช้ได้เรื่อยๆเลยอะคับผมกะจะซื้อมาแล้วใช้ตลอดเลยอะคับแนะนำทีคับ
เรื่องอ่านโน้ต…ถ้าแค่อ่านเพื่อเล่น ไม่ลึกถึงทฤษฏีดนตรี ก็ไม่ยากหรอกครับ หาหนังสือดนตรีสากลเบื้องต้นมาอ่าน ยังไม่จบเล่มก็น่าจะพอเข้าใจแล้ว…ลองดูครับอย่าไปกลัว รับรองว่าไม่ยากอย่างที่คิดครับ
การเลือกซื้อ Harp ถ้าแนะสั้นๆ ก็ต้องหยิบที่ความคุ้มค่า ระหว่างคุณภาพต่อราคา ก็มาออกที่ HarpMaster ของ Suzuki แน่นอน
แต่ถ้าไม่ชอบรูปทรงของมันก็เขยิบขึ้นไปเป็น BluesMaster (แพงกว่ากันร้อยกว่าบาท) ก็จะได้ Coverplate แบบปิดเหมือนรุ่น Pro เดิ้นๆ เช่น Meisterklasse หรือ Promaster ของ Suzuki
แนะนำสองตัวนี้ก่อนล่ะกันเพราะราคาไม่แพง แต่คุณภาพคุ้มค่าทั้งคู่ครับ
bluemasterกับharpmasterอันไหนเล็กกว่ากันและเสียงดีกว่าคับ
เอ่อลืมถามไปคับว่าราคามันราคาเท่าไร่อะ2อย่างนี้อะคับ
ทั้งสองรุ่นนี้ขนาดเท่ากันเด่ะครับ เพราะอยู่ในตระกูล Promaster ซึ่งสามารถถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนสลับกันใช้ได้ทุกชิ้น (ลองหาอ่านในบทความเก่าๆ หรือ comment ที่เคยเขียนไว้ดูครับ)
ส่วนเรื่องเสียงนี่แล้วแต่คนชอบ จะระบุว่าอันไหนเสียงดีกว่าก็ลำบากครับ แต่ทั้งสองรุ่นนี้ส่วนที่ทำให้เกิดเสียง (คือลิ้น : reed) ใช้วัสดุที่แตกต่างกัน เพื่อผลของเสียงที่แตกต่างกันคือ Harpmaster ใช้ Brass (ให้เสียงใสกว่า) ส่วน Bluesmaster ใช้ Bronze (ให้เสียงนุ่มกว่า)…เขียนจากความจำ หวังว่าคงไม่ผิด หรือสลับกันน่ะครับ
ก็ลองเลือกดู แล้วแต่ความชอบครับ
มาที่ราคา โดยประมาณนะครับ เพราะแต่ล่ะ Lote ราคาไม่เทากัน ผมไม่ได้ซื้อสองรุ่นนี้นานแล้วจึงไม่ทราบราคาปัจจุบัน
Harpmaster น่าจะอยู่ประมาณ 550 บาท ส่วน Bluesmaster น่าจะประมาณไม่เกิน 750 บาท (ตัวนี้ไม่แน่ใจ กรุณาสอบถามร้านธีระ ก่อนครับ)
– ผมไม่ได้เข้ามาเสียนาน เลยไม่ค่อยทราบความเคลื่อนไหวของสมาชิก
– ผมว่าเราน่าจะหาคนทำ Tab เพลงยุคใหม่ รู้สึกว่าคนเล่น Harp จะเป็นคนยุคใหม่ๆ ผมเองไม่ได้ติดตามเพลงยุคใหม่ๆ เลย จึงไม่สามารถทำได้ ผมว่าถ้าคุณ Jap กลับมาจากบ้านนอก น่าจะพอมีเวลาทำให้สมาชิก
– เรียนคุณ Jap นอกจาก ทรัมเป็ตแล้ว ตอนนี้ผมยังเล่นไวโอลินอีก แถมฃลุ่ยไทยอีก เล่นสนุกสนุก ไม่ได้หวังอะไร สรุปแล้ว Harp เล่นง่ายที่สุด
เป็นความคิดที่ดีมากๆเลยคับทำเพลงใหม่ๆบ้างเพราะผมยังวัยรุ่นอยู่เลยได้ยินแต่เพลงใหม่ๆถ้าได้ก็จะดีมากเลยคับ
– ผมว่าเราน่าจะช่วยกันทำ จะได้มี tab มากๆ ตอนนี้คุณ Harmonicafe จะทำเพลงยุคใหม่ๆ ความจริงการทำ tab ทำได้ไม่ยากหรอกครับ เริ่มต้นจาก
๑ เป่า หรือ ดูด harmonica ให้ได้เสียงเดี่ยว(ไม่มีเสียงแทรก)
๒ ร้องเพลงนั้นให้คล่อง
๓ ใช้ Harmonica แทนเสียงร้อง ค่อยๆ ไล่เสียงไป ก็จะเป็นเพลง ช่องที่ใช้สำหรับเริ่มต้นเพลง ส่วนมากจะเป็น เป่าช่อง ๔ , ดูด ช่อง ๔ , เป่า ช่อง ๖ , เป่า ช่อง ๗ ค่อยๆ ไล่ไป เพื่อฝึกประสาทการได้ยินของหู ทำไปเรื่อยๆ จะทำให้สามารถทำ tab ได้ทุกเพลง เพียงแต่บางเพลงอาจจะยากบ้าง ง่ายบ้าง
– สำหรับ front ที่ใช้ทำ tab คงต้องรบกวนคุณ Harmonicafe ลงไว้ใน blog ให้สมาชิก load เอาไปใช้ได้
– หากเราช่วยกัน จะทำให้มีคนเล่น Harmonica มากขึ้น ยอดขาย Harmonica มากขึ้น ต่อไปร้านจะได้นำ Harmonica มาขายให้ครบทุก key ในเมืองไทย Harmonica ราคาถูกที่สุด
เขียนถึงการทำ Tab ทำให้นึกได้ว่าเป็นการฝึด Ear Training อย่างหนึ่ง
ทำให้นีกต่อไปได้ว่าเคยคุยกับพี่ที่รู้จักท่านหนึ่ง (ถ้ากล่าวชื่อนักดนตรีหลายท่านน่าจะรู้จัก แต่พี่ท่านขอสงวนนามเอาไว้) ซึ่งเคยแนะนำการฝึก Ear Training อย่างง่ายๆ วิธีธรรมชาติให้ผม โดยให้เราออกเสียงตามสียง Piano ไล่ขึ้น ไล่ลงทุกวัน เหมือนเด็กที่ฝึกท่องสูตรคูณตอนชั้นประถม ทำซ้ำๆ ไปก็ขึ้นใจโดยปริยาย คราวนี้แค่ได้ยินเสียงก็จะสามารถระบุได้ทันทีว่าเป็นโน้ตเสียงอะไร (Perfect Pitch) ผมจึงมาคิดวิธีการประยุกต์การฝึกให้ง่ายขึ้นโดย
ให้เลือกเพลงใดเพลงหนึ่งมาที่มีช่วงเสียงของโน้ตครอบคลุมช่วงที่เราจะฝึก (การฝึกครั้งแรกถ้าทราบเสียงของโน้ตต้นฉบับมาก่อนจะยิ่งดีมาก เพราะสามารถฝึกประกอบกับ Backing Track ทำให้ง่ายมากขึ้น) แล้วออกเสียงตามเนื้อเพลงประกอบ Backing Track แต่ให้เราเปลี่ยนจากเนื้อเพลงมาเป็นชื่อของโน้ตแทน (คือออกเสียง โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด แทนเนื้อเพลง) ฝึกทุกวันซ้ำไป ซ้ำมา เหมือนท่องสูตรคูณ แรกๆ ก็ประกอบ Backing Track ไปสักระยะหนึ่ง ต่อไปก็ไม่ต้อง พอขึ้นใจนี่เราจะสามารถระบุเสียงที่ได้ยินว่าตรงกับโน้ตอะไรได้โดยไม่ลำบากนัก (ความคิดผมถ้าเพี้ยนก็อาจแค่ 1 semitone)
ใครจะเอาไปทดลอง ถ้าเลือกเพลงเหมาะๆ ได้ก็มาแนะนำกันบ้างครับ จะได้ฝึกไปพร้อมๆ กัน
– ผมว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจ ผมก็สนใจเรื่อง Ear training ผมว่าสำคัญมาก นึกถึง Beetoven ตอนที่แต่งเพลง Symphony No 9 หูหนวกแล้ว แต่ Beethoven จะต้องได้ยินเสียงเพลงของเขาในสมองที่จดจำเสียงโน๊ตนั้นได้ เห็นทีผมจะเอาไปใช้ แต่ผมไม่มี piano (ความจริงมีของ Yamaha แต่หนูและปลวกชำแหละไส้ในไปเรียบร้อยแล้ว) แต่ผมคงไม่ต้องไปซื้อ piano ตัวใหม่ แต่ผมจะใช้ขลุ่ย หรือไม่ก็ใช้ ไวโอลิน แทน ผมเคยดู Youtube ที่เด็กสามารถบอกเสียง โตได้ถูกต้อง ถ้าผมฟังเสียง โน๊ต ออก ต่อไปเรื่อง key เพลงจะไม่เป็นปัญหาสำหรับผมต่อไป
– ทราบจากคุณต้อมว่า เดี๋ยวนี้มีคนไปซื้อ Harmonica มากขึ้น ก็ดีใจที่มีคนเล่น Harmonica มากขึ้น เราคงต้องช่วยกันต่อไป Harmonica เล่นง่าย พกพาง่าย เล่นได้ทุกที่ เสียงเพราะ ใช้เล่นเป็นเครื่องดนตรีนำได้ ดีทุกอย่าง ขาดเพียงแต่องค์ความรู้ที่ยังไม่แพร่หลายเท่าดนตรีอื่น เทียบกับ Ukelele ผมว่า Harmonica น่าเล่นกว่าเยอะ
ขอเพลงนี้คับ http://www.uploadtoday.com/download/?212386&A=587649
ขอบคุณคับ
เพลงนี้เพราะมากเลยครับ มีเปลี่ยน Key ระหว่างบทเพลงด้วย เล่นด้วย Harmonica นี่ได้เปรียบเครื่องดนตรีอื่น ฝึกน้อยลงเท่าตัวเลย (เพราะใช้เปลี่ยนเครื่องเอา ในขณะที่เครื่องดนตรีอื่นต้องฝึกนิ้วเอง)
โน้ตสากล load หรือ ซื้อมาครับ…อย่างดีเลย (ดูคร่าวๆ ยังไม่ได้ลอง เป็นโน้ต Piano ไม่รู้เล่นด้วย Harmonica จะยากรึเปล่า)
ขอก่อถุงทรายหลังบ้านเพิ่มก่อน แล้วจะมาจัดให้ครับ
ขอคิดด้วยคนครับ เล่นจากโน้ตสากลเลยดีไหมครับ ผมใช้วิธีนี้คล่องตัวดี อยากได้เพลงอะไรหา midi file มาปรับ เช่น key ที่ถนัด ตัดเอาช่อง melody แล้ว print มาเป็นตัวโน้ต เนื่องผมค่อนข้างมีเวลาเพราะเกษียรแล้ว ผมใช้ sonar ทำดนตรี backup โดยทำ midi ให้เป็น wave ( เสียงจะดีกว่า midi มาก เพราะเป็นการใช้ midi ไปสั่งเสียงเครื่องดนตรีจริงที่บันทึกไว้ออกมา ) ส่วน melody ให้คงไว้เป็นตัวโน้ต แล้วใช้ sonar เล่นไปพร้อมกันโดยปิดเสียง melody เพราะเราต้องใช้ harmonica ออกเสียงแทน มีเสียงดนตรี มีตัวโน้ตให้ดูพร้อมกันไปไม่ต้องนับห้องเพราะมีเครื่องหมายวิ่งไปตามตัวโน้ต
ดีใจจังมีเพื่อนมาแชร์ประสบการณ์
เมื่อก่อนผมก็ใช้วิธีนั้นครับ ผมไปซื้อแผ่น Nick ‘s Karaoke ไว้เล่น…มีเป็นพันเป็นหมื่นเพลงเลย
อยากได้เพลงไหนก็ดึง Midi มาใช้ (ตามวัตถุประสงค์ สารพัดประโยชน์จริงๆ) และยังเลือก Track ของเครื่องดนตรีแต่ล่ะชิ้นได้ตามต้องการ แนะนำให้หลายๆ ท่านใช้เลย ดีมากๆ
แต่ปัจจุบันผมลืมวิธีใช้โปรแกรมเหล่านั้นไปหมดแล้ว เนื่องจาก Internet ทำให้ผมเสียนิสัยมากๆ เพราะอยากได้อะไรใน Internet มีหมด ผมจึงห่างไปจากการใช้โปรแกรมเหล่านั้น เพราะมีคนทำขั้นตอนข้างต้นให้หมด (เมื่อก่อนผมต้องทำเอง) มีคนแปลง Midi เป็นโน้ตส่งไว้ใน Internet ผม search พักเดียวก็เจอ (ยิ่งเพลงดังๆ นี่พบง่าย ใช้เวลาน้อยกว่าแปลงเอง เลยทักษะหดหายไปหมดแล้ว)
น้อง หรือเพื่อนๆ ที่ต้องการศึกษาโน้ตสากล ให้ใช้วิธีนี้ เยี่ยมเลยครับ แก้ปัญหาเรื่อง Key เพลงได้ด้วยเพราะ Midi สามารถปรับ Key ได้ตามใจชอบ อยากกลับมาเล่นเหมือนกัน (สมัยก่อนเล่นแล้วไม่มีคนคุยแลกเปลี่ยนด้วยเลยเบื่อ)
พอพิมพ์แล้วเลยนึกได้ ไหนๆ คุยเรื่องนี้แล้วอยากแนะเพิ่ม คือถ้าศึกษาเรื่องโน้ตโดยใช้วิธีข้างต้นแล้ว สามารถต่อยอดด้านทฤษฎีดนตรีโดยใช้โปรแกรม Guitar Pro (ไม่ต้องไปสนใจว่าเป็น Guitar เราแค่ทำโน้ตให้เหมาะกับเครื่องเป่า คือมีเขบ็ตน้อยๆ หน่อย) สามารถส่ง File Midi มาเล่นกันได้ด้วย แต่ Guitar Pro จะต่อยอดทางด้าน Scale Mode Improvice มีบทฝึกให้เหมือนมีติวเตอร์ส่วนตัวเลย (ผมเล่นดูคร่าวๆ แล้วยอดมาก แต่ผมเอาแต่เล่น เลยไม่ได้ฝึกตาม Lesson ของโปรแกรมเสียที) อันนี้แนะนำสำหรับคนที่มีเวลา หรือน้องๆ ที่จะเอาจริง มันเยี่ยมมากเลยครับ
เดี๋ยวถ้ามีเพลงไหนหาโน้ตไม่ได้ จะลองหา Midi มาทดลองดู
คงต้องรบกวนปรึกษาคุณ taworn ด้วยน่ะครับ
ยินดีครับ หรือจะแวะมาคุยกันก็ได้ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภา ผมทำ backup ไว้ได้กว่าสองร้อยเพลงแล้ว เป็นเพลงสากลเก่าๆที่ตัวเองชอบ
สวัสดีครับ ผมมือไม่ครับ เพิ่งไปซื้อ Marine Band key C มาครับ หาแทบตาย หมดเกือบทุกที (เฉพาะ key C) เพื่งเล่นมาได้ สองวัน ตอนนี้เป่าได้ 3 เพลงแล้วครับ แต่เฉพาะ intro solo อะไรประมาณนี้น่ะครับ (ผมเล่นพร้อมกีต้าร์) ไม่มีความละเอียดในการเล่น ไม่ได้อ่านโน๊ตเลย เล่นไปตามเพลง และตามความรู้สึก แต่มันก็พอไปได้นะ สนุกดีครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ เล่นแก้เหงา เวลากินเบียร์ ก็เล่นสังสรรค์ ครับ สนุกดี
สวัสดีครับ…ยินดีต้อนรับครับ
ไม่ได้แวะเวียนไปดู Hohner มาเป็นปีแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ไป แต่ล่ะร้านก็มี Marine Band Key C Stock กันไว้เป็นโหลน่ะ…แสดงว่ามีคนเล่นเพิ่มขึ้นมากพอสมควรทีเดียวจึงหมดจนหาซื้อยากอย่างนี้ แล้วไปได้มาจากร้านไหนครับ…
เล่นตามความรู้สึกนั้นเป็นทางที่ถูกต้องแล้วครับ…ให้สนุกกับการเล่นไว้ก่อน ค่อยมาหัด หรือเพิ่มความละเอียด ลองอ่านแนวทางที่พี่มานะเล่นใน Blog นี้ดูครับ…เริ่มจากไม่เป็นอะไรเลย จนปัจจุบันแค่ฟังก็หยิบ Key ที่เหมาะสมมาถอดเป็น Tab ได้แล้ว (ผมเองยังทำไม่ได้เลย)
ช่วงนี้ไม่ได้เขียนอะไรใหม่ๆ เลย แต่ก็ยังคงเข้ามาอ่านอยู่ตลอด สงสัยอะไรถามทิ้งไว้ได้ครับ
– ผมยังติดหนี้คุณไอซ์ Intro สัญญาหน้าฝน การแกะ tab Intro ยากกว่าแกะ tab เนื้อเพลง เนื่องจาก Intro จำยากกว่า เนื้อเพลง แต่ก็จะพยายามทำให้ ช่วงนี้ภาระงานดูมันวุ่นวาย มีหลายอย่างต้องตามแก้ไข
– ผมว่าคุณไอซ์น่าจะเล่น Harmonica ได้เร็วกว่าผม เนื่องจากมีพื้นฐานจาก Guitar สำคัญที่สุดคือ ต้องฝึกทุกวัน การฝึกจะทำให้เราพัฒนาขึ้น โดยเฉพาะการฟัง เมื่อฟังบ่อยๆจะทำให้สมองสั่งการเคลื่อนไหวมือ สั่งการให้ปาก เป่า หรือ ดูด ให้เป็นเพลงได้ ผมเองมีความรู้สึกว่า การเป่า Harmonica เหมือนการร้องเพลง ผมไม่เคยรู้ว่า จะต้อง ดูด หรือ เป่า เลือน ซ้าย ขวา แต่มันเป็นของมันเองโดยอัตโนมัติ แต่เมื่อเริ่มเพลงใหม่ ก็จะมีการผิดพลาดบ้างตะกุกตะกักบ้าง พอฝึกบ่อยๆ สมองมันจะจำ รูกแบบ การดูด การเป่า ให้สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของมือได้เอง นักดนตรีทุกคนจะพูดเหมือนกัน คือ ฝึกฝน ฝึกฝน และฝึกฝน ผมเอง เป่า Harmonica ทุกวัน
– ผมเองยังยากเล่น Guitar แต่เล่นไม่ได้เรื่องเลย
พี่ครับมีเพลง ใหน ใช่ ครีย์ G 10ช่องเสียงมั้งครับ ผม ผมซือมาแล้ว ไม่มีเพลงเลย T_T
อย่าไปกังวลเรื่อง Key เครื่อง ไม่ตรงกับ Key เพลงครับ
ใน Tab ของทุกเพลงสามารถเล่นด้วย Harp คีย์ใดก็ได้
เล่นตามช่องที่ระบุใน Tab เลย อย่าเพิ่งไปสนใตเพลง Backing Track ประกอบ
เล่นให้คล่องก่อนเป็นใช้ได้ครับ…พอคล่องดีแล้วอยากเล่นประกอบกับเพลง Backing Track ค่อยไปหาซื้อ Harp ที่ตรง Key (กับเพลง) มาเล่น และสามารถเล่นได้ทันทีตามที่ฝึกมา (ตำแหน่งช่องจะเหมือนเดิมทุกอย่างนี่คือข้อดีของ Harp ถ้าเป็นเครื่องดนตรีอื่น ต้องมา Transfer Key เพลงกัน ฝึกกันใหม่อีกรอบ)
ลองอ่านทำความเข้าใจที่สมาชิกเก่าๆ เคยสอบถามกันมาครับ แล้วจะทราบว่าถ้าหัดเล่นอยู่คนเดียว Harp ตัวเดียวก็เล่นได้ทุกเพลงครับ ยิ่ง Key G เสียงจะต่ำๆ เล่นง่ายใช้ลมน้อยดีด้วยครับ
ขอบคุณพีมานะ กับคุณ hamonicafe มากครับ สำหรับตัวผมเล่นเอาสนุกๆ นะครับ และมันก็สนุกจริงๆ คือผมขอเล่าย้อนนิดนึงว่าผมเป็นคนที่ชอบเล่นดนตรี และเรียนดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ครั้งแรกผมเรียนกีตาร์ตั้งแต่ผมอยู่ ประถม 2 และมาเป่าแซกโซโฟนตอนอยุ่ มัธยม 1 ให้วงโยธวาทิตของ รร แต่ผมเสียดายช่วงหลังๆพอเข้ามหาลัย เลิกจับ เครื่องดนตรีทุกอย่างเลย มาเล่นสนุ๊กเกอร์อย่างบ้าคลั่ง (ชอบเล่นพนัน) จนมีช่วงนึงผมนั่งกินเหล้ากันกับเพื่อนๆ แล้วกลับเป็นว่า เมื่อก่อนเราเคยเป็นนักดนตรีประจำกลุ่มคอยเล่นให้เพื่อนๆ ช่วงนั้นผมลืมเกือบทุกอย่าง เล่นไม่เป็น เพื่อนผมเล่นกันผมเลยเห้ย เราหาดนตรีอะไรมาเล่นให้สนุกๆเหมือนอย่างเก่าดีกว่า แล้วทุกวันนี้ผมเป็นมือเป่าฮาโมนิการ์ในวง(เหล้า)ไปแล้วครับ สนุ๊กเกอร์ไม่ได้จับเลย (รู้สึกดีมากๆ เพราะไม่ได้เล่นพนันแล้วครับ) และสุดท้ายขอบคุณ blog อันนี้ ที่ให้ความรู้และประโยชน์มากๆ ผมอ่านทุกหัวข้อ และเล่นได้ก็เพราะหาอ่านความรู้ดีๆในนี้แหละครับ
ปล . นี้คือบรรยากาศของผมที่เล่นๆกันครับ
ขอบคุณครับ
เล่นกันเอาสนุกๆน่ะครับพี่ ตามประสาไปเรื่อยน่ะครับ 55555
เล่นดีน่ะครับ…อันนี้ Confirm ได้จากคลิปเลย เวลาน้องเล่นสังเกตุสิ เพื่อนๆ จะตั้งใจฟังกันกริบเลย ไม่มีเสียงคุยแทรก ขนาดเวลากีต้าร์เล่นบางคนไม่ร้องเค้าก็คุย ไม่ฟังเฉยๆ เหมือนเวลา Harp เป่า…ใช้ได้ ครับ ใช้ได้
ฟังเพลินดี ขอให้เวลาตั้งวงทุกครั้ง ให้เล่นทุกครั้งน่ะครับ ถ้ารู้สึกว่าเล่นไม่เป็นเพลงเมื่อไหร่ให้สลายวง เพราะนั้นคือเมาแล้ว หาที่นอนกันได้ ไม่ต้องไปต่อที่ไหน 5 5 5 (เดี๋ยวนี้มันอันตรายครับ)
– ผมฟังแล้วก็ชอบนะครับ เป็นเพลงที่ผมไม่เคยฟังมาก่อน แต่ถ้าลองลด key ให้พอดีกับเสียงร้อง จะทำให้ไม่ต้องตะเบ็งเสียงขึ้นไปสูงมาก จะสนุกกว่านี้มาก ผมเองเมื่อก่อน ร้องเพลง karaoke ผมก็ร้องตาม key ของเพลง ทำให้บางครั้งก็หงุดหงิดที่ร้องไม่ได้ดังใจ แต่พอผมมาค้นตนเองพบว่า เสียงร้องของผมอยู่ key Eb เดี๋ยวนี้เวลาผมจะร้องผมจะปรับ key เพลงมาเป็น Eb ทำให้ผมรู้ว่า ผมร้องเพลงได้ทุกเพลง ผมลองเอาไปปรับให้เพื่อน ทุกคนร้องเพลงได้ดีขึ้น key เพลง สำคัญครับ เมื่อหา key ของเสียงเราได้แล้ว ก็หา Harmonica key นั้นติดตัวไว้ แล้วจะสนุกกว่าเดิมมากครับ ผมเองตอนนี้ก็ ฝึกเล่น Harmonica ประกอบกับการร้องเพลง เลยไม่ต้องไปง้อ เครื่อง karaoke อีกแล้ว เป่าเอง ร้องเอง สนุกกว่า
– แต่อย่างไรก็ ลดสุราลงนะ ครับ เป่า Harmonica ให้มากขึ้น จะดีต่อสุขภาพมาก
พี่คับขอเพลงนี้ http://writer.dek-d.com/dead-night/story/viewlongc.php?id=570807&chapter=105 ช่วยจัดให้ทีคับผมจะเอาไปเป่าวันที่ผมเรียนจบอะคับช่วยจัดให้ทีนะคับ
ขอบคุณคับ
เพลง “เราและนาย” ของ เสก รีเปล่าครับ
(พอดีกด Link ใน email กับใน Blog แล้วมันขึ้นคนล่ะเพลงกัน)
ใช้ Harp แบบไหนเล่นครับ (เช่น Key อะไร 10 ช่อง Diatonic หรือ Chromatic) จะได้จัดให้ก่อน
ของเสกคับใช้แบบ
Key c
Diatonic
พี่คับตอนนี้ผมbendได้แล้วอย่างเล่นแบบแนวนี้ได้อะคับต้องฝึกยังไงช่วยให้คำแนะนำทีนะคับ
ประมาณนี้อะคับมีแนวทางฝึกเริ่มต้นยังไงดีอะคับช่วยแนะนำทีคับbendได้แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงต่อ
แนะนำทีคับ
ขอบคุณคับ
ต้องเริ่มที่หัดไล่เสียงให้คล่องในแต่ล่ะ Scale ก่อนครับ
ไล่เสียงขึ้น ไล่เสียงลง (ดูรายการฝึกจากหนังสือขลุ่ยแนวใหม่ของ อ.ธนิส ก็ได้ครับ)
พอขึ้นใจ ก็ลองฮัมทำนองด้วยปากเปล่า ได้ทำนองที่ชอบก็ลองใช้ Harp เล่นตามทำนองนั้น
ทั้งหมดข้างบนคือกระบวนการฝึก Improvise ครับ
อยากดูภาคปฎิบัติลองกดไปคุยที่ FB ของ HarpVarietyThailand ที่อยู่ข้างซ้ายของ Blog นี้
ไปเยี่ยม (อุดหนุน) แกบ้างก็ได้อยู่แถวโชคชัย 4 ครับ ลองนัดกันดู ไปวันธรรมดาช่วงกลางวันน่าจะดีครับ
พี่ช่วยบอกมาเลยได้มั้ยคับว่าเริ่มฝึกยังไงบอกยังงี่ผมไม่รู้เรื่องอะคับบอกเป็นขั้นๆมาเลยคับ
ขอบคุณคับ
แบบใน Clip พี่ก็เล่นไม่ได้ครับ… รู้แต่ขั้นตอนการฝึกแบบที่พิมพ์ข้างบน
ถึงได้แนะนำให้ไปหาคนที่เล่นจริง (แต่ให้อธิบาย แกก็อธิบายแบบเดียวกับที่พิี่บอกแหละ) ไปฟังจริง ทำตามจริง พอได้เคล็ด (ขัดยอก) ก็กลับมาหัดต่อที่บ้านเองได้ แต่ก็ไม่เหมือนใน Clip หรอกน่ะ… ไม่มีใครเล่นได้เหมือนหรอกครับ ทางใครทางมัน
แต่ถ้าไม่มีเวลา ก็อย่างที่บอก… หาหนังสือขลุ่ยแนวใหม่ของอาจารย์ธนิศ มาหัดตาม (เปลี่ยนจากขลุ่ยเป็น Harp เท่านั้น) แต่มันก็ไม่ใช่ได้สำเร็จรูปออกมาเป็นแบบ Clip ที่น้องลงหรอกน่ะ
Clip นั้นต้องเล่น ต้องซ้อมจนหูจำเสียงได้แม่นแล้ว อัมเพลงด้วยปากก็จำเสียงไปเล่นด้วย Harp ได้ คือต้องซ้อมจนตกตะกอน ไล่เสียงขึ้นลงใน Scale หลักๆ ได้คล่องแบบว่าปากฮัมเสียงยังไงก็จำไปเล่นใน Harp ตามเสียงนั้นได้ (ไปอ่านทำความเข้าใจจากหนังสือที่บอกครับ)
จะเล่นแบบ Clip ต้องลิม Tap เพลงไปจากสมองเลยครับ เล่นจากใจเท่านั้น นักดนตรีที่เล่นใน Clip ให้เล่นใหม่อีกเที่ยวก็เล่นไม่เหมือนเดิมครับ… ไหลไปเรื่อย
ถ้ายังอ่านไม่รู้เรื่อง ให้ไปหาอ่านเรื่อง Scale ใน Net ก่อน แล้วนั่งเล่น C D E F G A B C B A G F E D C..ย้อนไปย้อนมา ให้จำเสียงได้ แล้วเอาปากร้องทำนอง ชอบทำนองไหน เอา Harp เป่าทำนองนั้น… นี่อธิบายแบบภาษาชาวบ้านน่ะครับ
คือให้ฝึกไล่สเกลแบบเบนให้มันคล่องแล้วก็เอาปากทำๆนองแล้วก็เอามาเป่าตามทำนองที่เราฮัมใช่มั้ยคับ
แบบที่เค้าเล่นนี่คือเค้าทำๆนองเองใช่มั้ยคับแล้วก็เป่าตามอารมณ์มันไม่มีหลักการไรเลยใช่มั้ยคับถ้าเบนได้ก็ทำได้ใช่ปะคับ
เข้าใจได้ใกล้เคียงแล้วครับ
แต่ Harp Key C เอาไปเป่า C major Scale ไม่ต้อง Bend เสียงครับ ผมถึงแนะให้ไล่เสียง โด เร มี… (C major Scale) ไปกลับให้จำเสียงได้ก่อน (แล้วไปเล่น Key อื่นก็ไม่ยากเพราะ Harp เป็นเครื่องดนตรีที่รองรับ Key ต่างๆ เยอะมาก ในวงเล็บนี้อาจจะยังไม่เข้าใจให้ข้ามไปก่อน เอาเป็นไล่จนจำเสียงให้คล่องก่อนแล้วกัน)
Clip ที่เค้าเล่นก็ถูกต้องครับ เค้าสร้างทำนองขึ้นมาสดๆ (คือจำเสียง และคล่อง Scale จนข้ามขั้นตอนการฮัมด้วยปากไปเป็นเล่นสดๆ แทน และเมื่อเก่งขึ้นก็ออกนอกกรอบของ Scale ด้วย แต่ขั้นต้นนี้ให้หัดโน้ตที่อยู่ใน Scale ไปก่อนเพื่อหูจะได้จำง่ายขึ้นถึงอารมณ์ของโน้ตในแต่ล่ะ Scale เช่นใน Clip เป็น Blues Scale ก็ต้องเล่น Blues Scale จนคล่อง) มีหลักการตามที่พิมพ์ในวงเล็บครับ ฟังดูอาจไม่เข้าใจ จึงแนะนำให้เริ่มที่ Scale ง่ายสุดคือ C major Scale พอคล่องแล้วให้ลองฮัมเพลงที่ชอบ โดยในระหว่างท่อนเพลงให้ฮัมเพิ่มท่อนที่เราชอบเหมือนที่นักร้อง Blues (ในไทยก็เยอะ) ชอบแทรกลงไป ทำไปเรื่อยๆ สนุกกับมันครับ (อย่าไปพยายามจนเครียด บางเพลงอาจยากเพราะไม่ใช้ C major Scale ก็ข้ามไปก่อน เอาเพลงที่ฮัมแล้วรื่นหู) และเลิกสนใจ Tab เพลงไปเลยครับ
ผมถึงเคยบอกแล้วว่า Tab ไว้หัดให้รู้จัก Harp รู้จักเสียงเท่านั้น พอรู้จักแล้วก็เล่นจากใจอย่างเดียวครับ ที่ดังๆ เท่ๆ เป็นไอดอลให้คนอยากเล่น Harp ทั้งหลายเล่นจากใจทั้งนั้น ไม่มีใครกางโน้ต กาง Tab หรอกครับ
แนะนำภาษาชาวบ้าน ถ้าชอบเพลงของปู พงษ์สิทธ์ ให้หา Harp Key A มาไว้เล่นอีกตัว ถูกเพลงถูก Key ก็แทบไม่ต้อง Bend เสียงเลย (เพราะส่วนมากปูใช้ Key นี้ แต่สไตล์ของปูจะแคบแต่ทำนองเพลงเพื่อชีวิต ถ้าคล่องแล้วแนะนำให้หา Blues แท้ๆ มาฟังด้วย) แล้วก็หาเพลงของปูมาเล่นตามวิธีการข้างต้น เลือกเพลง+ฮัมตาม+แทรกจังหวะฮัมทำนองเอง พอคล่องก็ใช้ Harp แทนฮัมด้วยปาก ทำไปเรื่อยๆ หลายๆ เพลง จนคล่องแบบเล่นสดได้… กว่าจะรู้ตัวก็เก่งซะแล้วครับ อ้อ เลิกขอ Tab เพลงด้วยน่ะ… ใช้หูของเราอย่างเดียว
ขอบคุณที่แนะนำคับ^^”
กด Like… ” อ้อ เลิกขอ Tab เพลงด้วยน่ะ… ใช้หูของเราอย่างเดียว ” ^^
แต่ผมก็ยังดู Tab อยู่ 555
สวัสดีครับ… ไม่ได้ Up Blog เสียนานเลย ตอนนี้เล่นแต่ Android (เริ่มเบื่อแระ… เพราะทั้ง root ทั้งรื้อจนไม่มีอะไรจะทำแล้ว… เหลืออ่านแต่ ebook “เพชรพระอุมา” อย่างเดียวแค่ 48 เล่มเอง 5 5 5 )
ผมเองก็เล่นดูโน้ตครับ เพราะแนวการเล่น Harp ก้มีแค่สองสายนี้
– ดูโน้ต ดู Tab ก็ไปทางพักสมอง ไม่พัฒนาเท่าไหร่ ยกเว้นพวกเล่น Classic (แต่เมืองไทยคงไม่มี) หรือแบบ โฮชองวิง
– ใช้หู… พวกนี้มีวิญญาณนักดนตรีสิงอยู่ครับ สนุกกับการเล่นไปเรื่อยๆ บางคนยังไม่รู้ตัวเลยก็เก่งซะแล้ว เพียงแต่เรามักจะพบกับเครื่องดนตรีอื่นซะมากกว่า Harp ครับ
จะเอาทางไหนก็ต้องเน้นทางนั้นครับ แต่ก็ไม่ถึงกับห้ามหรอก… ดูได้แว๊บๆ อย่าให้เคยตัว เดี๋ยวจะเป็นเหมือนผม เล่นมา 30 ปี ก็อยู่แค่นี้แหละ 5 5 5
improvise นี้ทำยังไงอะคับช่วยสอนหรือแนะนำหน่อยได้มั้ยคับ
ขอบคุณคับ
พึ่งมาเจอบอร์ดนี้ความรู้ดีจริงๆครับ
ขอบคุณ และยินดีต้อนรับครับ
หา Harp สักอัน… มาเล่นด้วยกัน มาบอกกล่าวถามไถ่กัน
ผมก็มีไฟทำไปเรื่อยๆ แล้วครับ (ตอนนี้เป็นถ่านแดงๆ อยู่ แต่ยังไม่มอดครับ)
วัตถุดิบสำหรับคนเพิ่งเล่นมีพร้อมรออยู่ใน Blog นี้แล้วครับ
– คุณนน ครับ การที่จะ improvice ได้นั้น จะต้องเล่น Harmonica จนมีความชำนิชำนาญ แล้ว improvice จะออกมาเอง จากสมองของเรา กว่าผมจะเกิด ต้องเล่นมากกว่า 2 ปี(เล่นทุกวันครับ) มันจะเป็นแนวทางดนตรีของเรา ตอนนี้ผมมีหลายทำนองเพลง ที่มันเกิดขึ้น มันเหมือนกับการแต่งเพลง ผมยังคิดว่า จะหาเนื้อมาใส่ ก็จะกลายเป็นเพลงได้ ใจเย็นๆ ครับ ค่อยๆ เดินไป ท่านจะพบกับมันเองในสักวันหนึ่ง